“ถ้าเธอเลือกเธอจะอยู่ในฐานะนี้แค่หนึ่งปีแต่ตอนนั้นเธอไม่ได้เลือกเพราะฉะนั้นตอนนี้เธอก็เลือกไม่ได้” คำตอบที่ออกมาจากปากของเขามันเหมือนว่าฉันต้องติดอยู่ในฐานะนี้ไปอีกนานแสนนาน
“หนูยอมพี่เรย์มาเยอะแล้ว ยอมทน ยอมเจ็บมาเป็นปี ตอนนี้พี่เรย์ควรปล่อยหนูไปได้แล้ว” เพราะที่ผ่านมาฉันยอมมาตลอด ยอมเป็นคนไม่มีศักดิ์ศรี ยอมให้เขาตราหน้าว่าเป็นแค่นางบำเรอ เป็นแค่คนที่เขาอยากจะปลดปล่อยด้วยและเป็นแค่คนที่เขาอยากจะใช้เพียงแค่ร่างกายเท่านั้น
“ความเจ็บที่เธอว่ายังไม่เท่าฉันในตอนนั้น”
“หนูไม่รู้หรอกว่าพี่เรย์จะเจ็บขนาดไหนแต่สิ่งที่พี่เรย์กำลังทำกับหนูตอนนี้มันกำลังทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเหมือนตายทั้งเป็น” ฉันพูดขึ้นก่อนจะเดินหนีเข้าห้องของตัวเอง
ภายในห้องนี้เปรียบเสมือนเป็นเซฟโซนของฉันที่ฉันสามารถปล่อยน้ำตาได้ทุกเมื่อและฉันก็ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาทันทีเมื่อประตูปิดลง
“ฉันผิดมากหรอ ฉันผิดมากหรือไงที่วันนั้นฉันเลือกทำแบบนั้น”
“ฉันทำแบบนั้นก็เพราะตัวของเขาเอง”
“ยอมเจ็บเพื่อให้เขาได้ดี แบบนี้ฉันผิดมากหรือยังไง”
ฉันตื่นมาอีกทีก็เกือบเย็น ฉันอาบน้ำแต่งตัวใหม่เพราะตอนนี้เป็นเวลาทุ่มกว่าแล้วและมันใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นของเขา
แน่นอนว่าฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้มีหน้าที่แค่สนองความใคร่ให้กับเขาเพียงอย่างเดียวแต่ฉันยังเป็นทุกอย่างของที่นี่
“ไม่รู้หรือยังไงว่าปกติเธอต้องออกมาทำอาหารกี่โมง” น้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมแววตาดุดันมองหน้าฉันนิ่งขณะที่ฉันเดินออกมาจากห้อง
ฉันไม่ตอบอะไรกลับไปเพียงแต่เดินผ่านเขาเพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเองแบบทุกวันที่เคยทำมานานนับปี
“ฉันถามทำไมเธอไม่ตอบ” พี่เรย์ที่เดินตามฉันเข้ามาในครัวถามขึ้นทันที
ฉันเพียงแต่มองหน้าเขาและหันมาสนใจสิ่งที่ต้องทำแต่พี่เรย์กลับกระชากแขนของฉันเข้าหาตัว
“ถ้าฉันถามเธอต้องตอบ”
“เจ็บ” เพราะตอนนี้เขากำลังกำแขนของฉันแน่นจนฉันรู้สึกเจ็บ
“พูดได้แล้วหรือไง”
“ปล่อยหนู หนูจะทำอาหาร” ฉันพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมพยายามแกะมือของเขาออกแต่มันก็ไม่เป็นผล
“ฉันถามว่าเธอไม่รู้หรอว่าปกติเธอต้องทำอาหารให้ฉันกี่โมง” น้ำเสียงเรียบนิ่งดังขึ้นอีกครั้งจนฉันขนลุกซู่เพราะครั้งนี้แฝงไปด้วยความน่ากลัว
“รู้ค่ะ แต่หนูตื่นสาย” ฉันตอบกลับซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พี่เรย์ผลักฉันออกจนทำให้ตัวของฉันเซถลาไปชนกับเคาน์เตอร์ครัว
“อ๊ะ”
“อย่าสำออย”
“พี่เรย์ไปนั่งรอเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูทำเสร็จจะเรียก” ฉันพูดขึ้นอย่างตัดปัญหาเพราะสีหน้าของเขาตอนนี้ดูเอาเรื่องมากและมากจนฉันไม่อยากจะมีปัญหาอะไรด้วยเพราะทุกอย่างมันล้วนส่งผลต่อตัวของฉัน
ฉันลงมือทำอาหารง่ายๆสองสามอย่าง หลังจากเสร็จก็ตักขึ้นจานวางไว้บนโต๊ะก่อนจะมาตามพี่เรย์ที่นั่งอยู่กลางห้องรับแขกมากิน
“หนูทำเสร็จแล้ว พี่เรย์ไปกินได้เลยนะ” ฉันพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเดินเข้าห้องของตัวเองอย่างตามเคย
ฉันไม่เคยได้กินข้าวพร้อมเขาหรอกนะ ฉันต้องรอให้เขากินเสร็จและค่อยออกไปจัดการกับจานที่ถูกตั้งไว้ แล้วค่อยกินของตัวเองแต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเพราะถ้าฉันต้องร่วมโต๊ะกับเขา ฉันคงบ้าตายแน่ๆ
เวลาผ่านไปสักพักฉันที่ตั้งใจออกมาเก็บจานก็ต้องแปลกใจเพราะพี่เรย์ยังนั่งอยู่ด้านนอกไม่ได้เข้าไปในห้องเหมือนอย่างเคย
“เก็บเสร็จแล้วมาหาฉัน” เขาพูดขึ้นทันทีเมื่อฉันเดินผ่านเข้าไปในครัว
“ค่ะ” ฉันตอบกลับไปเพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อกี้อีกแล้ว หลังจากเก็บจานเสร็จฉันก็เดินตรงมาหาเขา
“พี่เรย์มีอะไรคะ” ไม่มีเสียงของเขาตอบกลับมา มีเพียงแรงกระชากของเขาที่กระชากฉันเข้าหาตัวจนล้มลงบนร่างกายที่แสนกำยำ
“อ๊ะ...พี่เรย์ทำอะไรคะ” ฉันถามขึ้นทันทีเมื่อมือปลาหมึกของพี่เรย์เริ่มอยู่ไม่นิ่ง
“เธอไม่ได้โง่” ฉันไม่ตอบอะไรกลับไปเพียงนั่งนิ่งๆปล่อยให้เขาแทะโลมร่างกายของฉันเพราะหากฉันขัดขืนไปก็มีแต่ฉันที่เป็นฝ่ายเจ็บตัว
เรย์
ผมถอดเสื้อยืดของเธอออกพร้อมกับเอื้อมมือไปปลดตะขอบราด้านหลังออกไปให้พ้นตา สองเต้าอวบลอยเด่นอยู่ตรงหน้าแต่สายตาของผมดันไปเห็นรอยแดงเป็นทางยาวที่ข้างตัวของเธอ
เมื่อกี้ผมก็ไม่ได้ผลักเธอแรงขนาดนั้นแต่ทำไมมันถึงเป็นรอยแดงมากขนาดนี้ ตอนนี้แพรแทบไม่มีท่าทางอะไร เธอนิ่งเฉยจนทำให้ผมอยากทำอะไรเธอมากกว่านี้
ผมก้มหน้าลงไปคลอเคลียกับเต้าอวบตรงหน้า แน่นอนว่าผมชอบมันมากเพราะมันหอมหวานไม่มีเปลี่ยน ผมจับเธอให้หันหน้าเข้าหาผมพร้อมกับเอนตัวเธอลงเล็กน้อยเพื่อให้สะดวกที่ผมจะจัดการเต้าอวบตรงหน้า
“อื้ออ” เสียงครางต่ำของเธอดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าสวยที่ตอนนี้เม้มปากแน่นเพราะไม่ต้องการออกเสียงออกมาให้ผมได้ยิน
เหอะ อวดดี
ผมละเลงลิ้นบนเต้าอวบก่อนที่มือจะเลื่อนลงต่ำสอดเข้าไปในกางเกงขาสั้นสะกิดติ่งเสียวผ่านแพตตี้ตัวน้อย
“อืออออ…อ่าาาา” เสียงหวานดังขึ้นอีกครั้งจากคนที่พยายามข่มอารมณ์ แน่นอนว่าเธอทำแบบนี้มันก็ทำให้ผมยิ่งต้องการให้เธอร้องออกมา
ผมแหวกแพตตี้ตัวน้อยของเธอไปอีกข้างก่อนที่นิ้วจะสัมผัสลงกับกลางกายสาว หยอกล้อกันมันทั้งบี้ติ่งเสียวและดันนิ้วเข้าไป
“อื้ออออ”
เห็นสีหน้าของเธอมองก็รู้ว่าเธอกำลังทรมานเพราะยิ่งเธอพยายามกลั้นเสียงมากเท่าไหร่ความทรมานของเธอก็เพิ่มมากขึ้น
“เธอไม่จำเป็นต้องกลั้นเสียง” ผมพูดขึ้นพร้อมกับจับเธอให้นั่งลงบนโซฟาและเป็นตัวผมเองที่ลงต่ำนั่งกับพื้น
ผมจับสองขาเรียวของเธอตั้งขึ้น เผยให้เห็นกลางกายสาวที่ตอนนี้มีน้ำไหลปริ่มออกมา
“พี่เรย์พอเถอะวันนี้หนูไม่อยากทำ”
“เธอมีสิทธิ์พูดแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน” ผมถามขึ้นทันทีก่อนจะลุกชันเข่าพร้อมกับดันแก่นกายเข้าหาร่องสาว
สวบ !
“อ๊าา…พะ...พี่เรย์จะทำแบบนี้กับหนูไปถึงไหน” คนโดนกระทำถามขึ้นด้วยใบหน้าเหยเก
ถ้าเธอปล่อยอารมณ์ไปกับผม เธอก็จะไม่เจ็บไม่ทรมานแบบนี้
“จนกว่าฉันจะพอใจ” ผมตอบกลับทันทีเพราะผมไม่มีทางที่จะปล่อยเธอไปง่ายๆ ยังไงเธอก็ต้องได้รับความเจ็บปวดเหมือนที่ผมเคยได้รับ
“แล้วเมื่อไหร่จะพอใจ หนูไม่โอเคที่ต้องอยู่ในสถานะนี้” เธอพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมมองหน้าผมนิ่ง
“พูดมากจังวะ” พูดจบผมก็กระแทกสะโพกเข้าหาร่องสาวอีกครั้ง
ตั่บ ! ตั่บ ! ตั่บ ! ตั่บ ! ตั่บ ! ตั่บ !
“อ๊ะ ๆ อ๊ะ ๆ อ๊ะ ๆ”
“ร้องเป็นแล้วหรือไง”
“ซี๊ดดด…อ่าาา เบาหน่อย หนูจุก” บอกเลยถ้าไม่จุกจริงเธอไม่มีทางร้อง
อวดดี ชอบพยศ
“อย่าหวัง” ผมพูดขึ้นพร้อมจับขาเธอให้อ้าออกมากกว่าเดิมก่อนจะโถมแรงกระแทกเข้าใส่เธออีกครั้ง
แน่นอนว่าคนโดนกระทำนิ่วหน้าเพราะความเจ็บไม่ก็ความเสียวเพราะร่างกายของเธอตอนนี้มีอารมณ์ร่วมไปกับผมไม่น้อย ส่วนเต้าอวบก็สั่นกระเพื่อมเด้งขึ้นเด้งลงจนอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปเชยชิม
“อื้อออ….อ๊าาาา”
“อ๊าาาา..พี่เรย์…เบาหน่อย”
“โอ้วว…ซี๊ดดดด เบาไม่ได้ว่ะ”
ผมพูดขึ้นพร้อมออกแรงกระแทกสะโพกเข้าหาเธออีกครั้งเพราะตอนนี้ใกล้เสร็จเต็มทน
ตั่บ ! ตั่บ ! ตั่บ ! ตั่บ ! ตั่บ ! ตั่บ !
“ซี๊ดดดด…อาาาาา” ผมปล่อยน้ำรักเข้าหาตัวของเธอก่อนจะถอนแก่นกายออกและสะบัดสองสามครั้ง
“อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆ” ผมไม่สนว่าตอนนี้เวลามันจะผ่านไปเท่าไหร่แต่ที่ผมสนคือเธอต้องรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจ
“ที่พี่เรย์ไม่ยอมปล่อยหนูไปเป็นเพราะอยากทำให้หนูเจ็บหรือติดใจหนูกันแน่”
“เอาอะไรมาคิดว่าฉันติดใจเธอ” ผมถามกลับทันทีเพราะเธอไม่มีค่ามากพอที่จะทำให้ผมสนใจได้เลย
“ถ้าไม่ได้ติดใจก็ปล่อยไปสักที หนูทนมามากพอแล้ว” เธอพูดขึ้นต่อพร้อมกับลุกขึ้นเต็มความสูงที่ไม่ค่อยจะสูงเท่าไหร่
“ทนต่อไปอีกหน่อยจะเป็นไง ตอนนั้นฉันเจ็บยังไงตอนนี้เธอจะได้รู้สึกแบบนั้น” เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอทำให้ผมต้องเป็นเสือที่ต้องหาผู้หญิงมาทำให้ผมลืมเธอในแต่ละคืน แต่ปีกว่าๆที่ผ่านมานี้ก็เป็นตัวของเธอเองที่ต้องทำแบบนั้นให้กับผมเพราะมันคือการรับผิดชอบ
“อย่าคิดว่าตัวเองเจ็บเป็นคนเดียวเพราะที่ผ่านมาหนูก็เจ็บไม่ต่างจากพี่” น้ำตาสีใสไหลลงอาบสองแก้มเนียนของคนตัวเล็กที่กำลังเถียงผมปาวๆ
“เธอเจ็บอะไรในเมื่อเธอเป็นคนบอกเลิกฉัน” อยากรู้เหมือนกันว่ามีส่วนไหนที่เธอเจ็บบ้าง มันมีแค่ผมไม่ใช่หรอที่ต้องทนรับความเจ็บปวดจากสิ่งที่เธอทำ
“คนที่ต้องบอกเลิกทั้งที่ยังรักคิดว่าเขาไม่เจ็บหรอ” ถ้าเธอยังรักตอนนั้นเธอจะบอกเลิกผมไปเพื่ออะไร
“ถ้าตอนนั้นเธอยังรัก เธอจะบอกเลิกฉันไปทำไม” เหตุผลส้นตีนอะไรที่เธอเก็บมันมาสามปีแล้ว นับตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ก็ผ่านมาสามปีที่ผมยังไม่รู้เหตุผล
“มันไม่สำคัญหรอกว่าเพราะอะไร” เธอพูดขึ้นอีกครั้ง ถามจริงนะว่าเหตุผลของการบอกเลิกมันไม่สำคัญตรงไหน ถ้าเธอมีเหตุผลจริง ถ้าตอนนั้นเธอยังรักกัน เธอควรบอกผม
ใช่ผมไม่อยากรู้ ผมอยากรู้มาตลอด ผมยังรอให้เธอบอกผมอยู่ตลอด
“สำคัญสิวะ”
“ขอให้รู้ไว้ว่าหนูก็เจ็บไม่ต่างจากพี่เรย์หรอก”
“ถ้าเธอพูดว่าเธอเจ็บ ไหนเธอบอกฉันมาดิว่ามีตรงไหนที่เธอเจ็บ”
❤️
ถ้าเหตุผลมันบอกกันง่ายๆ เรื่องมันคงจะดีกว่า
ทุกอย่างที่น้องทำมันล้วนแต่เป็นผลดีต่อต่ออีพี่