ตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้วแต่ฉันยังไม่มีเหตุผลอะไรไปให้พี่เรย์เลย ทุกวันนี้ฉันได้แต่ภาวนาขอให้ฉันไม่เจอเขาเพราะฉันไม่อยากทำสิ่งที่เขาเสนอมา
การเป็นนางบำเรอสำหรับฉันมันเท่ากับว่าฉันขายศักดิ์ศรีของตัวเอง แน่นอนว่าฉันไม่ทำเป็นอันขาดเพราะมันไม่ใช่ตัวฉัน
“กูกลับก่อนนะพวกมึง” ฉันบอกเพื่อนสนิทตรงหน้านั่นก็คือโมจิกับน้ำขิงเพราะเดี๋ยวนี้ฉันเลี่ยงที่จะไปไหนกับพวกมันเพราะฉันกลัวที่จะเจอพี่เรย์
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงต้องกลัวที่จะเจอทั้งๆที่อยู่กันคนละคณะ นั่นก็เพราะโมจิมันชอบที่จะไปเต๊าะพี่พายุอยู่บ่อยๆ ซึ่งพี่พายุก็คือเพื่อนในกลุ่มของพี่เรย์มันจึงเป็นเหตุผลที่ฉันเลี่ยงที่จะไม่ไปกับพวกมัน
“รีบอีกแล้ว รีบไปไหนนักหนา” โมจิว่าขึ้นพร้อมกับทำท่าทีเบื่อหน่ายใส่ฉันซึ่งฉันเข้าใจมันเพราะฉันเลี่ยงที่จะไปกับพวกมันตลอดและมันแบบนี้มาเกือบสองอาทิตย์แล้วตั้งแต่วันนั้น
“อีโมจิ แพรมันคงมีธุระแหละ เราไปเถอะมึง” น้ำขิงพูดขึ้นโดยประโยคแรกมันหันไปเอ็ดโมจิส่วนประโยคที่สองหันพูดกับฉันก่อนที่มันจะโบกมือให้ฉัน
จากนั้นก็รีบปลีกตัวออกมายังลานจอดรถเพื่อที่จะกลับ ฉันรู้ว่ายังไงพวกมันก็ต้องคิดว่าฉันมีอะไรปิดบังหรือเปล่าแต่เรื่องนี้ฉันบอกพวกมันไม่ได้จริงๆ
“อ๊ะ...พี่เรย์” ฉันร้องขึ้นเมื่อเอาแต่รีบเดินจนไม่ทันดูทางและฉันก็ชนกับคนที่ฉันไม่อยากเจอที่สุด
“เธอหลบหน้าฉันมากี่วันแล้ว” น้ำเสียงเรียบนิ่งของพี่เรย์พูดขึ้นทำฉันขนลุกซู่เพราะมันแฝงไปด้วยความน่ากลัว
“นะ...หนูขอโทษ” น้ำเสียงสั่นคลอนของฉันตอบกลับไปทันทีเพราะแค่เห็นหน้าของเขาและน้ำเสียงอันเยือกเย็นของเขา ฉันก็รู้สึกไม่ดีแล้ว
“ฉันไม่ได้ต้องการคำขอโทษแต่ฉันต้องการคำตอบของฉัน” พี่เรย์พูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะพาฉันเดินหลบมุมมาด้านหลังคณะ
“คำตอบอะไรคะ” ฉันถามกลับไปถึงแม้ว่าจะรู้ดีว่าสิ่งที่เขาต้องการคืออะไรแต่ก็ยังแกล้งทำเป็นถาม
“เธอไม่ได้โง่ ตอบฉันมาเหตุผลหรือนางบำเรอ” เขาพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับจ้องหน้าฉันนิ่ง
สายตาที่พี่เรย์มองฉันตอนนี้มันน่ากลัวมาก
ฉันพยายามหันมองข้างๆเผื่อว่าจะมีคนผ่านมาแถวนี้ แต่กลับไม่มีใครสักใครที่ฉันพอจะขอความช่วยเหลือได้
“ไม่มีใครมาหลังตึกคณะหรอกเธอคงจะรู้” ฉันรู้ดีเพราะด้านหลังมันเป็นลานจอดรถเก่าๆที่คนส่วนใหญ่มักจะไปจอดด้านหน้า
“พี่เรย์ปล่อยหนูไปเถอะนะ หนูไม่เลือกอะไรทั้งนั้น” ฉันว่าขึ้นอีกครั้งถึงแม้จะรู้ว่าต่อให้พูดไปเขาก็ไม่ยอมปล่อย
“ถ้าเธอไม่เลือก ฉันจะถือว่าเธอเลือกสิ่งที่ฉันพูด” คำเดิมที่ฉันเคยได้ยินเมื่อสองอาทิตย์ก่อนถูกพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“หนูทำไม่ได้” เพราะฉันทำไม่ได้จริงๆ ฉันขายศักดิ์ศรีของฉันไม่ได้
“แค่นอนถ่างขาให้ฉันเอามันจะไปยากอะไร” พี่เรย์พูดขึ้นต่ออีกครั้งพร้อมกับเอื้อมมือมาหวังจะปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของฉัน
“ปะ...ปล่อยหนู” ฉันร้องขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ตอนนี้มันกำลังจะไหลลงมาเพราะการกระทำของเขา
“เธอกับฉันมันก็คนเคยๆจะกลัวอะไร” คำพูดสุดท้ายของพี่เรย์ดังขึ้นก่อนที่เขาจะฝังหน้ามาที่ลำคอพร้อมกับจับแขนของฉันทั้งสองข้างขึงไว้กับผนังตึก
“อื้อ...พี่เรย์ปล่อยหนู” ฉันพูดขึ้นพร้อมรีบหันหน้าหนีพยายามจะดิ้นและขัดขืนเท่าไหร่มันก็ไม่เป็นผล
พี่เรย์ซุกไซร้ไปที่ลำคอของฉันพร้อมกับขมเม้มจนฉันรู้สึกเจ็บก่อนที่เขาจะปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของฉันด้วยมือข้างเดียว
“พี่เรย์ ยะ...อย่าทำหนูเลยนะ ฮึก..หนูขอร้อง” ฉันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนปนขอร้องเพราะสิ่งที่เขาทำกับฉันตอนนี้มันเกินไปแล้ว
แต่เหมือนพี่เรย์จะไม่ฟังอะไรเลยเพราะทันทีเมื่อกระดุมเม็ดแรกถูกปลดออกเม็ดที่สองก็ถูกปลดตามจนสายตาคมของเขามองหน้าอกของฉันอย่างหื่นกระหาย
แน่นอนว่าฉันเกลียดสายของเขาตอนนี้ที่สุด สายตาที่มันกำลังจะลุกล้ำมองมาที่ร่างกายของฉัน
“พี่เรย์...ปล่อยหนูเถอะนะ” ฉันว่าขึ้นอีกครั้งพร้อมน้ำตาที่ไหลลงอาบสองแก้ม
ตอนนี้ฉันไม่สามารถเช็ดน้ำตาของตัวเองได้ด้วยซ้ำเพราะมือของฉันถูกเขาขึงไว้
“ไม่เจอกันสองปี นมเธอใหญ่ขึ้นเยอะเลยนะ” คำพูดลามกถูกพูดออกมาก่อนที่มือหนาจะขยำหน้าอกของฉันอย่างแรง
“อ๊ะ…หนูเจ็บ”
“ฉันว่าฉันไม่ให้เธอเลือกแล้วว่ะ” พี่เรย์พูดขึ้นทำฉันดีใจไม่น้อยเพราะการที่เขาไม่ให้ฉันเลือกอาจจะเป็นเพราะเขาจะปล่อยฉันไปก็ได้
“ฉันเลือกให้เธอเลยดีกว่า” สิ้นสุดคำพูด พี่เรย์ก็กระชากฉันให้เดินตามเขามาทันที
ไม่มีการติดกระดุมให้คืนที่เดิม ฉันโดนกระชากลากมาด้วยสภาพกระดุมสองเม็ดบนถูกปลดออก มือบางของฉันต้องยกขึ้นมาปิดหน้าอกของตัวเองไว้เพราะตอนนี้เขากำลังลากฉันเดินผ่านผู้คนหลายสิบคนที่เดินไปมาหน้าคณะ หลายคนหันมองฉันกับเขาแต่ท่าทางของพี่เรย์กลับกลายเป็นปกติไม่ทำอะไรรุนแรงกับฉัน
“พี่เรย์ ปล่อยหนู จะพาหนูไปไหน” ฉันว่าขึ้นพร้อมพยายามขัดขืนเต็มที่แต่ก็ไร้ทางสู้เพราะฉันสู้แรงเขาไม่ได้
“ไปไหนงั้นหรอ” น้ำเสียงเรียบนิ่งดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับสายตาดุๆที่มองฉันและบ่งบอกถึงการไร้ความรู้สึก
“พี่เรย์จะพาหนูไปไหน หนูไม่ไป” ฉันพูดขึ้นพร้อมออกแรงดิ้น พยายามที่จะขัดขืนให้หลุดจากการพันธนาการของเขาให้ได้
“ก็พาเธอไปหาความสุขไง”
“ในเมื่อเธอไม่เลือก ฉันก็จะเลือกให้เธอ”