ตอนที่ 7

1294 คำ
บทที่ 7 “ริสาเองก็ต้องการคุณค่ะ” มาริสาแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ก่อนจะก้มหน้าลงไปอ้าปากครอบครองกายแกร่งแข็งขึงด้วยความกระหายใคร่อยาก นึกย่ามใจที่เห็นอีกฝ่ายตอบสนองต่อสัมผัสและเรือนร่างเย้ายวนของตน และแน่นอนว่าเธอหมายมั่นปั้นมือเอาไว้แล้วว่าจะทำให้เขาหลงใหลจนหัวปักหัวปำเชียวล่ะ “ริมฝีปากที่กำลังขยับเข้าออกสอดประสานกับสองมือที่ขยับรูดขึ้นรูดลงเป็นจังหวะเดียวกัน ในขณะที่สาวคัพดีกำลังอ้าครอบสลับดูดเม้มเล็มเลียโอ้โลมกายชายด้วยความช่ำชอง ภาพในหัวของฝ่ายชายกลับกลายเป็นผู้หญิงอีกคน ภาพที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังถูกกายแกร่งกระแทกกระทั้นจนตัวสั่นคลอน เขายังจำความรู้สึกนั้นได้ดีว่ามันทั้งบีบอัดรัดรึงและร้อนฉ่าจนเขาเผลอครางออกมา จากที่ปล่อยให้สาวคัพดีโรมรันความเป็นชายตามอำเภอใจ ชายหนุ่มก็หันมากดศีรษะของอีกฝ่ายให้รับทั้งหมดที่เขามีบ้าง ก่อนจะขยับลุกขึ้นยืนพลางขยับสะโพกสอบตอกอัดใส่ริมฝีปากของหญิงสาวอย่างเอาเป็นเอาตาย แน่นอนว่าขนาดที่ทั้งใหญ่และยาวของเขาทำเอาอีกฝ่ายกระอักจนแทบสำลัก “ออก…! อื้อ…! ออก…!” ดุ้นยักษ์ที่ยังขยับดุนดันคาอยู่เต็มปาก ทำให้เสียงครวญครางของมาริสาแทบเป็นเสียงสำรอก นัยน์ตาที่เคยหยาดเยิ้มกลับกลายเป็นเหลือกลาญ มือไม้ที่ขยับลูบไล้ก่อนหน้ากลายเป็นทั้งผลักทั้งดันดุ้นลำใหญ่ให้ออกจากปาก หนักเข้าก็ถึงขั้นทุบไปที่หน้าขาเขาแรงๆ จังหวะนั้นเองที่เขาได้สติและก้มลงมอง เห็นดุ้นยักษ์ใหญ่คับปากยังคาอยู่ แต่ผู้หญิงตรงหน้ากลับไม่ใช่ภาพที่ตนจินตนาการเอาไว้ พลันเขารีบผลักอีกฝ่ายออกอย่างไม่ใยดี “แคกๆๆ” มาริสากระแอมไอใบหน้าแดงก่ำน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว “หยิบเงินนั่นแล้วออกไปซะ” เสียงเขาเย็นเยียบขณะกำลังนั่งสงบสติอารมณ์อยู่บนโซฟาตัวเดิม “ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะคุณภาคิน ริสาไม่ได้รังเกียจหรือไม่พอใจคุณ ตรงกันข้ามริสาชอบด้วยซ้ำที่คุณช่าง…” มาริสาแทบคลานเข้ามากอดขาเขาไว้ พลางมองดุ้นยักษ์ที่ยังผงาดตาเป็นมัน ยอมรับว่าทีแรกก็เกือบตายเพราะขนาดของมัน แต่อดคิดไม่ได้ว่าถ้ามันได้เข้าไปอยู่ในตัวเธอ มันจะให้ความรู้สึกดีแค่ไหน “ออกไป” เสียงเขายังคงเย็นเยียบ แต่กลับไม่ได้ทำให้ความพยายามของสาวคัพดีลดลง เธอขยับลุกพลางถอดกระโปรงตัวสั้นสองคืบออก ตามมาด้วยซับในตัวจิ๋ว ก่อนจะเดินไปนั่งโซฟาที่อยู่ตรงข้ามด้วยท่าทางที่ยั่วยวนที่สุด ขาข้างหนึ่งยกตั้งชันบนโซฟาตั้งใจเปิดเปลือยเนินสาวให้เขาได้มองชัดๆ แต่มันคงยังไม่ชัดพอ เธอเลยใช้นิ้วกรีดกรายแยกขยายกายสาวหยาดเยิ้มให้เขาได้ชื่นชม ขณะที่แววตาหวานเชื่อมก็ไม่ได้ละไปจากใบหน้าคมของเขาสักวินาที “ริสาพร้อมสำหรับคุณแล้วค่ะ อ๊ะ…อ๊ะ…อ๊ะ…” หญิงสาวบอกพลางขยับขยับปลายนิ้วจุ่มจ่อมลงไปในเนินสาวฉ่ำแฉะ ก่อนจะขยับเข้าออกพลางครางเสียงกระเส่า หวังกระตุ้นไฟพิศวาสในตัวเขาให้ลุกโชน และดูเหมือนมันจะได้ผล เมื่อคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามลุกขึ้นเดินตรงมา เธอมองเขาพลางหยักยิ้มอย่างผู้ชนะ “ร่างกายนี้เป็นของคุณ ริสายกให้คุณค่ะ” เธอบอกพลางดึงนิ้วออกจากเนินสาวขึ้นมาดูดเลียอย่างยั่วสวาท ก่อนจะต้องตื่นเต้นจนใจเต้นรัวเมื่อจู่ๆ อีกฝ่ายก็โน้มใบหน้าลงมาหา “ถ้ายังอยากมีที่ยืนในสังคม เก็บข้าวของแล้วไสหัวออกไปจากห้องฉันภายในสองนาที” ถึงมันจะเป็นเสียงที่เรียบสนิท แต่มันก็เย็นเยียบและน่ากลัวพอที่จะทำให้อีกฝ่ายผงะและไม่กล้าขัดขืนอีก มาริสารีบผละออกมาจัดการตัวเองตามคำสั่ง ยิ่งเห็นสีหน้าท่าทางที่เย็นชาจนน่ากลัวก็ยิ่งทำให้เธอร้อนรนจนลานลาน ทันทีที่เก็บของเสร็จเธอก็รีบออกไปจากห้องทันที แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวพ้นอาณาเขต เสียงเย็นเยียบนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “เดี๋ยว!” เสียงเจ้าของห้องทำให้เท้าทั้งคู่ของมาริสาชะงักงัน ก่อนจะหันกลับมามองเจ้าของเสียงด้วยสีหน้าหวาดหวั่น “คีย์การ์ด” ทันทีที่ได้ยิน มาริสาจึงรีบรื้อค้นหยิบคีย์การ์ดออกมาวางให้ แต่ยังไม่ทันจะได้กดเปิดประตู เสียงเขาก็ดังขึ้นมาอีก “อีกใบ” เธอมองหน้าเขาด้วยความฉงน ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาคงหมายถึงใบที่เธอทำสลับกับผู้หญิงคนเมื่อคืน เธอจึงรีบค้นและหยิบออกมาวางไว้ข้างๆ กัน ก่อนจะรีบออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันมาร่ำลาเจ้าของห้องสักคำ “ชิท!” หลังได้อยู่คนเดียวตามลำพัง เขาก็สบถออกมาอย่างหัวเสีย นึกไม่ถึงว่าเพียงคืนเดียว เธอคนนั้นจะเข้ามาครอบงำเขา จนไม่สามารถลบภาพคืนนั้นออกไปจากหัว เอาแต่นึกถึงใบหน้าซ่านกระสัน กับเสียงครางกระเส่า ที่ทำให้เขาอยากนึกเมคเลิฟกับเรือนร่างนั้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ให้สาสมกับที่เธอทำให้เขาคลั่งได้ขนาดนี้ “เธอจะต้องชดใช้ที่ทำให้ฉันต้องตกอยู่ในสภาพนี้” เขาหยิบบัตรพนักงานของเธอขึ้นมาจ้องเขม็ง ก่อนจะก้มมองกระบองเพชรดุ้นงามที่บัดนี้ห่อเหี่ยวจนน่าสงสาร เห็นแบบนี้ก็ยิ่งนึกโมโหเจ้าของบัตรจนต้องหยิบคีย์การ์ดของเธอขึ้นมามองอีกใบ “ฉันควรทำยังไงกับเธอดี” เขาจ้องเขม็งไปที่คีย์การ์ด ราวกับจะมองให้ทะลุไปถึงเจ้าของห้อง ใจนึงก็นึกอยากจะไปหาเธอ ทำอะไรๆ กับเธออย่างที่ใจคิด เพราะไหนๆ คีย์การ์ดเธอก็อยู่ในมือแล้ว แต่อีกใจเขาก็เย่อหยิ่งเกินกว่าที่จะเป็นฝ่ายเข้าหาเธอก่อน แน่นอนว่าคนอย่างภาคินมีแต่ผู้หญิงจะวิ่งเข้าใส่ เขาไม่เคยต้องง้อใครอยู่แล้ว อย่างมากก็แค่ปล่อยให้ตัวเองเป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้ไปอีกสักพักเท่านั้นเอง “ไม่! ฉันจะไม่ยอมให้เธอมีอิทธิพลเหนือฉันเด็ดขาด มันจะต้องไม่มีวันนั้น” เขาหมายมั่นไว้อย่างนั้น แต่สองตากลับยังจ้องอยู่ที่รูปในบัตรและคีย์การ์ดของเธอไม่วางตา และตอนนั้นเองที่เขาฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ “มีคอนโดราคาหลายสิบล้าน แต่กลับเป็นแค่พนักงานเล็กๆ ในบริษัท เธอเป็นใครกันแน่ แล้วเธอเข้าหาฉันเพื่อจุดประสงค์อะไร ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าเธอต้องการอะไรแวววิวาห์” การที่เธออยู่คอนโดเดียวกับเขานั่นก็บ่งบอกได้บางอย่างแล้วว่าเธอมั่งมีไม่ใช่น้อย แต่เธอกลับเป็นแค่พนักงานเล็กๆ ในบริษัทเขา มันเลยดูย้อนแย้งกันชอบกล และข้อสงสัยเหล่านี้ก็ยิ่งทำให้คำพูดของสาวคัพดีที่เพิ่งกลับไปมีน้ำหนักมากขึ้น…ว่าทุกอย่างเกิดจากการวางแผนมาแล้วอย่างแยบยล และมันเป็นสิ่งที่เขาจะต้องหาคำตอบให้ได้ว่ามันคืออะไรกันแน่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม