ทางด้านหัสดินเองตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาพยายามทำงานอย่างหนักทำเป็นบ้าเป็นหลังแทบไม่มีเวลาให้คิดเรื่องของเกวลินเลยเพราะพอว่างจากงานร่างกายก็หวนคิดถึงแต่ค่ำคืนเร่าร้อนความรู้สึกเหมือนกินข้าวไม่ได้กินน้ำ มันเหมือนจะเสร็จจะสุดมันก็ไปไม่สุดไปไม่ถึงทำให้หวนคิดถึงตลอดเวลา
ช่วงแรกคิดว่าเขาคงของขาดทำให้คิดถึงเรื่องค่ำคืนนั้นจึงเรียกบุษบามาแต่แค่หญิงสาวจะเข้ามาจูบเขาหรือเข้ามาใกล้นัวเนีย
เขาก็แทบหมดอารมณ์ยิ่งฝืนไปต่อยิ่งทนไม่ไหวจนต้องหยุดอารมณ์กามเอาไว้ บุษบาที่งงงวยกับความเปลี่ยนแปลงของชายหนุ่มแต่ก็ได้แต่สงสัยไม่ใจกล้าพอจะถามออกมา
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาพยายามหลีกเลี่ยงความรู้สึกนี้ความรู้ที่ว่าตนอาจจะหลงรักหลานสาว มันทำให้เขาพยายามออกห่างพยายามไม่ไปพบเจอเขารู้ว่าเกวลินชอบเขาแต่ถึงเขาจะชอบเธอตอบมันก็เป็นไปไม่ได้
"กูต้องทำยังไงวะเนี่ยถึงจะจัดการกับไอ้ความรู้สึกบ้าๆนี้ได้สักที" หัสดินเอ่ยอย่างคิดไม่ตก
"ครับคุณดินพูดกับผมรึเปล่าครับ" สุชาติที่ขับรถพาเจ้านายกลับบ้านเอ่ยถาม ช่วงหลังๆมานี่เจ้านายเขาดูแปลกๆชอบพูดคนเดียวทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่ขยันอยากรวยแล้วรวยอีกเขาก็คิดว่าเจ้านายเขาคงโดนยาใจเล่นงานมาแน่
แต่อย่างหลังมันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเจ้านายเขายังไม่มีคนรักหรือจะคบใครจริงจังบ้างเลยสักคนก็ไม่มี เห็นผู้หญิงที่เข้าใกล้นายได้เยอะสุดก็คงมีแต่คุณหนูเกลคนเดียว
" ชาติฉันพูดชื่อแกออกมารึไง กวนประสาท"
"อะ อ่าวเห็นนายอยู่ดีๆก็พูดออกมาผมเลยนึกว่าพูดกับผมนิครับ แหะๆ"
"เออๆขับรถของแกไปเลยไม่ต้องมาสนใจฉัน เดี๋ยวแม่งหักเงินโบนัสซะเลย"
"ครับๆต่อไปผมจะหุบปากอยู่เงียบๆเลยครับนาย" หื้ยวันนี้เจ้านายเขาเป็นอะไรปกติก็โหดอยู่แล้ววันนี้ถึงขั้นจะหักโบนัสเขาเลย สงสัยวัยทองแน่ๆ สุชาติได้แต่คิดสงสัยในใจไม่กล้าพูดออกไปกลัวไม่ได้โบนัส
" น้องพัชลูก คุณดินติดต่อมารึยังเรื่องลงทุนค่ะ" คุณจันทราแม่ของพัชราเอ่ยถามบุตรสาวนี่ก็จะเดือนแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า เจ้าหนี้ก็มาตามราวีจนเธอแทบจะออกไปพบหน้าสังคมภายนอกไม่ได้แล้ว
"คุณแม่ใจเย็นสิคะนี่พัชก็ทำเต็มที่แล้ว ถ้าจะตกปลาใหญ่ใจเราต้องนิ่งสิคะ ถ้าเอิกเกริกไปงานใหญ่ก็เสียหมด" พัชชาพูดบอกผู้เป็นแม่อย่างใจเย็น เพราะถึงยังไงซะหัสดินต้องเป็นของเธออยู่แล้วเธอมั่นใจในตัวเอง
"ค่ะๆคุณแม่ก็หวังว่ามันจะไม่นานไปมากกว่านี้นะคะคุณลูกเพราะเจ้าหนี้มาตามเราถึงบ้านแล้วนะคะคุณแม่อายค่ะ"
" ก็มันเพราะใครล่ะคะครอบครัวเราถึงเป็นแบบนี้คุณแม่กับคุณพ่อทำอะไรไม่คิดถึงพัชเลย แล้วนี่คุณพ่อไปไหนคะอย่าบอกนะว่าเข้าบ่อนอีกแล้ว"
พัชชาเอ่ยอย่างหัวเสียพลางถามหาผู้เป็นบิดานี่ถ้าหายไปแต่เช้านี่คงไปบ่อนอีกแน่ๆ
" เอ่อคุณพ่อเขาไปทำธุระจ๊ะลูกเดี๋ยวคงกลับมา" คุณจันทรารีบบ่ายเบี่ยงกลัวลูกสาวรู้ว่าผู้เป็นพ่อไปบ่อนอ้างจะไปต่อทุนเผื่อจะได้มาใช้หนี้
" ให้มันจริงเถอะค่ะ เพราะถ้าคุณพ่อกับคุณแม่เป็นหนี้เพิ่มขึ้นมาอีกพัชจะไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น พัชเบื่อและเหนื่อยเต็มทนแล้วค่ะ" ว่าจบก็เดินออกไป ทิ้งให้ผู้เป็นแม่ยิ้มหน้าแห้งไม่รู้จะพูดยังไงเพราะมันเป็นจริงอย่างลูกสาวว่ามาทั้งหมด ตนไม่รู้จะห้ามปรามผู้เป็นสามียังไงแล้ว ได้แต่หวังว่าลูกสาวจะจับหัสดินได้ชีวิตจะได้ผ่านเรื่องบ้าๆนี้ไปสักที
พัชชาเดินฟึดฟัดขัดใจขึ้นมาบนห้องคิดว่าถ้าผู้เป็นพ่อแม่ไม่ทำแบบนี้เธอคงใช้ชีวิตสุขสบายไปแล้วไม่ต้องมาวิ่งไล่จับผู้ชายที่ไม่แม้จะชายตาแลเธอแบบนี้แต่ทำไงได้ล่ะเธอไม่มีทางเลือกแล้ว
"สวัสดีค่ะคุณสุชาติ พัชรานะคะที่เคยติดต่อเรื่องขยายธุรกิจกับคุณหัสดินค่ะ " พัชราโทรหาสุชาติลูกน้องคนสนิทของหัสดินเพราะเธอไม่มีเบอร์ติดต่อเขาโดยตรงเขาบอกแต่ว่าให้โทรแจ้งผู้ช่วยถ้าต้องการอะไรไม่ยอมให้ช่องทางติดต่อโดยตรงกับเธอเลย
"ครับคุณพัชรา ผมจำได้ครับ" สุชาติตอบ
"คือพัชจะสอบถามเรื่องที่คุยกันไว้ค่ะ ว่าคุณหัสดินตกลงว่ายังไงคะ"
"คุณหัสดินแจ้งว่าให้ทางคุณพัชราเข้ามาคุยรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณสะดวกวันไหนครับ"
"พรุ่งนี้เลยค่ะพัชว่างไปได้ตลอดค่ะ " พัชราดีใจรีบตอบตกลงทันที
"ครับ ผมจะแจ้งคุณหัสดินให้ครับ สวัสดีครับ" สุชาติว่าเสร็จก็วางสายแล้วหันไปมองหน้าผู้เป็นนายที่นั่งอยู่เบาะหลังรถผ่านกระจกจนผู้เป็นนายเองทนไม่ไหว
"มีอะไรจะถามพูดมาชาติ มองทำไมนักหนาว่ะ"
"ผมสงสัยครับนาย ว่านายสนใจโรงแรมที่กำลังจะล้มละลายทำไมครับ" สุชาติเอ่ยอย่างสงสัยไม่เข้าใจผู้เป็นนายว่าคิดจะทำอะไรอยู่
"หึๆ นายว่ามันไม่น่าสนใจเหรอ ธุรกิจที่เคยเป็นที่หนึ่งกำลังจะล้มละลายจนต้องเอาลูกสาวมาขาย นายคิดดูถ้าเราสามารถกว้านซื้อทั้งที่ดินและโรงแรมมาได้จะดีแค่ไหน โรงแรมของพวกนั้นล้วนแต่อยู่ในทำเลทองทั้งนั้นเข้าใจรึยัง วุ่นวายไม่เข้าเรื่อง" ชายหนุ่มอธิบายยืดยาวอดใจไม่ไหวที่จะว่าให้คนชั่งถาม
"แหะๆเข้าใจแล้วครับนาย" สุชาติหัวเราะแห้งๆ พลางคิดนายเขาคงเข้าวัยทองจริงๆแหละเขามั่นใจ