มื้อค่ำดำเนินไปได้ไม่นาน บูมก็รู้สึกว่านั่งต่อไม่ได้อีกต่อไป เขาลุกขึ้นก่อนเอ่ยกับพ่อและแม่ของอายทันที
"คุณลุง คุณป้าครับ ผมต้องขอโทษที่อาจจะเสียมารยาท พอดีผมมีงานสำคัญรออยู่ โอกาศหน้าผมจะเข้ามาขอโทษคุณลุง คุณป้าด้วยตัวเองนะครับ ผมขอตัวก่อนครับ" บูมเอ่ยก่อนเดินออกจากบ้านของอายตรงไปที่รถโดยที่อายวิ่งตามออกมา
"พี่บูม ไหนคุณอาบอกว่าวันนี้เคลียร์งานแทนแล้วไงคะ" อายเอ่ย
"พอดีพี่มีนัดแขกคนสำคัญครับ พี่ขอโทษทีนะครับน้องอาย"
บูมขึ้นรถก่อนขับออกไปด้วยความเร็ว ชายหนุ่มเหยียบคันเร่งรถหรูจนมิดไมล์ ไม่นานก็มาจนถึงคอนโดของไนเจล เมื่อเข้าไปเจอเธอนั่งอยู่ที่ริมกระจกที่เดิมด้วยท่าทางไม่ดีนัก
"พี่บูม!"
"ทำอะไร"
"เปล่าค่ะ..."
"ตามมานี่"
บูมลากแขนไนเจลเดินลงไปด้านล่างที่ลานจอดรถวีไอพีที่มีที่จอดไม่กี่คัน ซึ่งคอนโดแห่งนี้เป็นชื่อของบูม เขาเป็นเจ้าของห้องที่ไนเจลอยู่ราคาหลายสิบล้าน เมื่อเดินมาถึง ไนเจลกลับต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อตรงหน้าคือรถมินิของเธอที่ท้ายรถเปิดออกมีดอกไม้เต็มไปหมด พร้อมกับตุ๊กตาและลูกโป่ง แถมท่ามกลางดอกไม้ยังมีเค้กที่มีตุ๊กตาเหมือนกับเธออีกด้วย
"นะ..นี่"
"สุขสันต์วันเกิด ฉันไม่เคยให้ของขวัญเธอมาก่อน แต่ปีนี้ฉันมีให้แล้วนะ" บูมเอ่ยพรางยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ข้างหลังไนเจลที่ยืนเอามือปิดปากน้ำตาเอ่อล้น
"ขะ...ขอบคุณค่ะ"
เธอวิ่งกลับไปกอดบูมทันที ก่อนที่เขาจะกอดตอบเธอพรางใช้มือลูบผมเธอเบาๆก่อนเอ่ยขึ้น
"เป่าเทียนซิ"
ไนเจลอธิฐานก่อนจะเป่าเทียนจนดับ บูมสวมกอดเธอก่อนเอ่ยขึ้นเบาๆที่ข้างหูจนเธอยืนตัวแข็งทื่อ
"ชอบมั้ย ถ้าชอบก็ให้รางวัลฉันด้วย" บูมเอ่ย
"ระ...รางวัลเหรอคะ"
'อืม รางวัล"
เมื่อฉลองเป่าเค้กวันเกิดจนเสร็จ ไม่นานร่างทั้งสองก็ขึ้นมาถึงบนห้อง มันดูเร่าร้อนและรนรานไปหมด เมื่อบูมกดจูบไนเจลอย่างดุเดือด ก่อนมือนึงขยำหน้าอก อีกมือบีบสะโพกแล้วค่อยๆยกร่างเธอขึ้นเข้ากับเอว ไนเจลเองก็รู้งาน ใช้ขาเกี่ยวเกาะเอวเขาจนแน่น บูมปลดเสื้อของไนเจลออกจะเผยเต้าอวบในขณะที่เดินเข้าห้องนอน ร่างเล็กถูกเขาโยนลงที่นอนเต็มแรงก่อนจะพุ่งเข้าคร่อมร่างแล้วขบเม้มไปตามลำคอและอกอิ่มนั่น
ร่างเล็กแอ่นเร่าๆรับลำท่อนของชายหนุ่มที่กำลังบรรเลงบทกามกับเธอในคืนนั้น เหมือนกับว่าร่างกายของทั้งสองมันเข้ากันได้เป็นอย่างดีทุกจังหวะ ภาพของลำท่อนที่ผุดเข้าผุดออกมันทำเอาทั้งคู่เกิดแรงกำหนัดหนักๆในอารมณ์
คืนวันเกิดปีนี้สำหรับไนเจล เป็นคืนที่มีความสุขและน่าจดจำที่สุด เธอมีผู้ชายซึ่งเป็นรักเดียวของเธอร่วมฉลองวันเกิดที่แทบไม่เคยได้จัดมาตลอด ความสุขนี้เธอได้แต่ภาวนาว่าให้มันอยู่กับเธอไปนานๆ
ในยามเช้า บูมตื่นพร้อมไนเจลก่อนกินมื้อเช้าและเขาก็ออกไปเพื่อไปทำงานเหมือนที่เคยทำ ไนเจลที่วันนี้มีเรียนก็แต่งตัวก่อนเดินลงไปที่ลานจอดรถเพื่อขับรถไปเรียนเป็นครั้งแรก
"ขอคุยด้วยหน่อยจะได้มั้ย" เสียงๆนึงดังขึ้นในขณะที่ไนเจลกำลังจะขึ้นรถ
"คะ?? คุยกับฉันเหรอคะ" ไนเจลเอ่ย
" อืม ฉันชื่ออาย ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอหน่อย"
ไนเจลได้แต่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เพราะเธอไม่เคยเจอหญิงสาวตรงหน้ามาก่อน ทั้งคู่ไปนั่งคุยกันที่ล็อบบี้ของคอนโด ไนเจลเอ่ยถามขึ้นเป็นคนแรกก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ย
"คุณมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอคะ"
"เธอกับพี่บูมเป็นอะไรกันเหรอ" อายเอ่ย
"..............."
"เมื่อคืนเขาออกจากบ้านฉันมากลางคัน ฉันเลยตามมา เห็นเขามาหาเธอที่นี่" อายเอ่ย
"ว่าไงนะ ออกจากบ้านคุณเหรอ..."
"ฉันเป็นคู่หมั้นพี่บูม ฉันเลยจำเป็นต้องรู้ว่าพี่บูมมีใครอีกบ้างน่ะ ฉันรู้ว่าพี่บูมเจ้าชู้ มีผู้หญิงหลายคน แต่คุณอาพ่อพี่บูมก็บอกฉันว่าเขาเลิกแล้ว แต่แค่แปลกใจที่เห็นเขามาหาเธอน่ะ" อายเอ่ย
ไนเจลเหมือนกับถูกฟ้าผ่าลงกลางใจ แต่เธอไม่สามารถออกตัวหรือทำอะไรได้ เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาและนั่นมันก็สิทธิ์ของเขา แต่บูมไม่เคยบอกเรื่องที่เขามีคู่หมั้นกับเธอ อาจเพราะเธอไม่ได้สำคัญอะไรกับชีวิตเขา แต่อย่างน้อยเขาควรให้เกียรติคู่หมั้นเขา แสดงว่าไม่นานบูมเองคงต้องบอกและออกห่างเธอ หรือนี่คือเหตุผลที่เขาทำดีกับเธอในช่วงที่ผ่านมา
"ถ้าเธอเป็นผู้หญิงอีกคนของพี่บูม ฉันขอให้เธอเลิกยุ่งกับเขาได้มั้ย อีกไม่นานงานหมั้น งานแต่งจะมีขึ้นแล้ว" อายเอ่ย
"อ่อ...คะ..ค่ะ"
"ฉันถามอีกหน่อยได้มั้ย เธอรู้จักพี่บูมมานานแค่ไหนแล้วเหรอ" อายเอ่ย
"ละ..หลายปีแล้วค่ะ" ไนเจล
"อ่อ ฉันกับพี่บูมเราโตมาด้วยกัน ฉันรู้ว่าพี่บูมไม่ใช่คนไม่กล้าอะไร ถ้าเขามีแฟน เขาคงกล้าที่จะพูดออกไปกับคุณอาตรงๆว่าไม่อยากหมั้น แต่พี่บูมไม่ปฏิเสธ ยอมให้งานหมั้นมีต่อ ขอบใจเธอนะที่จะยอมถอยจากเขา" อายเอ่ย
หลังจากนั้นอายเดินออกไปทันทีที่พูดจบ แต่ไนเจลรู้ดีว่าสิทธิ์การเลิกยุ่ง ออกห่างไม่ได้อยู่ที่เธอ มันอยู่ที่บูม ซึ่งเธอทำอะไรไม่ได้สักอย่าง น้ำตาหยดเล็กๆค่อยๆไหลอาบสองแก้ม ไนเจลเลือกจะเดินกลับขึ้นคอนโดไม่ได้ไปเข้าเรียน เธอนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่แบบนั้น
เมื่อคืนความสุขยังอยู่กับเธอ แต่วันนี้ทำไมความสุขนั้นมันเหมือนถูกพรากจากเธอไปเร็วแบบนี้ หัวใจดวงน้อยๆของเธอแสนจะเจ็บปวด เพราะบูมคือรักเดียวของเธอมาตลอด แม้จะอยู่ในฐานะนางบำเรอมาตลอด แต่การที่ยังมีเขาแม้จะเจ็บ แต่ก็ยังดีกว่าการที่รู้ว่า กำลังจะเสียเขาไปตลอดชีวิต
BOOM TALK
ผมนั่งหงุดหงิดเพราะกดโทรออกหาไนเจลไม่ติด เธอเหมือนปิดเครื่อง จีพีเอสสุดท้ายจับได้ตั้งแต่ที่คอนโดเมื่อเช้า วันนี้เธอมีเรียน ซึ่งเธออาจจะลืมโทรศัพท์แล้วแบตหมด แต่มันไม่ใช่ ตั้งแต่เธอมาเป็นของผม ไม่มีวันไหนที่ผมไม่รู้ว่าเธออยู่ตรงไหน เธอติดต่อได้มาตลอด และโทรศัพท์เครื่องนี้ก็เป็นเครื่องใหม่ที่ผมเพิ่งซื้อให้เธอ แต่เธอไม่เคยรู้และคิดว่าเป็นของจากลูกค้าผมจริงๆ
"นายเป็นอะไรหรือเปล่าครับ คิ้วผูกโบว์เลยครับ" ลูกน้องผมเอ่ยในขณะที่เดินเอาเอกสารเข้ามาให้
"ไนเจลหายไปไหนวะ ติดต่อไม่ได้เลย"
"นายเป็นห่วงคุณเจลหรือคิดถึงละครับอาการนายออกขนาดนี้" ลูกน้องผมเอ่ย
"คิดถึงอะไรของมึง ปกติยัยนี่ออกห่างสายตากูไม่ได้มึงก็รู้ นี่เล่นหายไปเงียบๆเลย ต่อต้านกูซิไม่ว่า" ผมเอ่ย
"ไม่ใช่หรอกครับ คุณเจลนี่นะจะต่อต้านนาย เธอรักนายจะตายไปครับ"
"....................."
"นายลองคิดดูซิครับ นายเอาเธอมาเป็นนางบำเรอ เธอไม่เคยโกรธนายเลย คอยเป็นห่วงนายตลอดอีกด้วยนะครับ" ลูกน้องเอ่ย
"มึงไปดูซิ ไนเจลอยู่ที่คอนโดหรือเปล่า"
"ครับนาย"
ผมนั่งทำงานต่อโดยที่ได้แต่รอโทรศัพท์จากลูกน้องเท่านั้น เพราะติดต่อเธอไม่ได้ แต่ไม่นาน เสียงประตูก็เปิดออกเป็นอายที่เดินเข้ามา เธอก็เข้าออกมาแบบนี้เป็นเรื่องปกติ
"พี่บูม งานยุ่งเหรอคะ เมื่อคืนไปพบลูกค้า เป็นยังไงบ้างคะ" อายเอ่ย
"ก็ปกติดีครับ"
"ลูกค้าคนนี้สำคัญมากเลยใช่มั้ยค่ะ พี่ถึงทิ้งไปดื้อๆเลย" อายเอ่ย
"..................."
"รอบนี้ห้ามปฏิเสธนะคะ คุณพ่อจองที่พักไว้ ไปค้างแค่คืนเดียว พอดีคุณพ่ออยากไปทานอาหารทะเลแล้วไม่อยากขับรถกลับ พี่บูมพาไปหน่อยนะคะ" อายเอ่ย
"วันไหนครับ"
"วันนี้ค่ะ เย็นๆเจอกันนะคะ"
พูดจบอายก็ลุกขึ้นเดินมาหอมแก้มผมแล้วออกไป ผมถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ผมเป็นคนผูกให้มันเป็นแบบนี้เอง ใช่ซิ ผมไม่ได้มีใครสักหน่อย แต่ตอนนี้ก็หงุดหงิดใจแปลกๆเหมือนกัน ผมรู้สึกชอบชีวิตก่อนหน้ามากกว่า จริงๆผมรู้สึกว่าอายเป็นคนน่ารัก จะมีเธอเป็นเมียก็คงไม่ได้เสียหายอะไร อายเองก็รักผม ครอบครัวผมก็ชอบเธอมาก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าผมทิ้งไนเจลไม่ได้...
ครืด ครืด
(ไนเจลอยู่มั้ย)
(รถจอดอยู่ครับ แต่ผมเคาะเรียกนานแล้วครับนาย ปกติคุณเจลเคยเปิดไวนะครับ แต่วันนี้ไม่เห็นมีคนมาเปิดเลยครับ)
(เดี๋ยวกูไป)
ผมคว้ากุญแจรถก่อนขับออกจากคาสิโนด้วยความเร็วไปยังคอนโดของไนเจล เมื่อไปถึง ผมเจอลูกน้องของผมยืนอยู่หน้าห้องของเธอที่ชั้นบน ผมบอกให้มันกลับก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ แสดงว่าเธออยู่ที่นี่
"ทำไมไม่เปิดประตู"
ผมเจอเธอนั่งกอดเข่าอยู่ที่บนโซฟาริมกระจกที่เดิมที่เธอชอบนั่ง และเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่ได้ยินเสียงออดประตูหรือเสียงเคาะแน่ๆ อยู่ที่ว่าเธอไม่อยากลุกไปเปิดเท่านั้น
"เจล เจล!!!!"
ผมตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา ดวงตาเธอแดงช้ำไปหมด ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอนั่งร้องไห้แบบนั้น ผมรีบนั่งลงตรงหน้าเธอก่อนเอ่ยขึ้นพรางเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มเธอ
"เป็นอะไร ทำไมร้องไห้จนตาบวมแบบนี้ ฉันโทรหาเธอตั้งหายรอบทำไมไม่รับสายฉัน" ผมเอ่ยพรางเกลี่ยน้ำตาที่ยิ่งเช็ดให้ยิ่งไหล แววตาเธอดุเจ็บปวดมากแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
"ว่าไง เป็นอะไร หยุดร้องก่อน"
"พี่...มีอะไรจะบอกหนูหรือเปล่า ถึงหนูจะเป็นแค่นางบำเรอ ถูกพ่อแม่ขายให้เป็นทาส แต่หนูก็มีหัวใจนะพี่บูม ฮึก! ถึงพี่จะเกลียดหนู มองหนูไร้ค่า แต่หนูไม่เคยโกรธพี่ ฮึก! พี่รู้มั้ยหนูเคยหวัง หวังว่าสักวันพี่จะมองหนูเป็นผู้หญิงคนนึง ที่ไม่ใช่นางบำเรอบะ..แบบนี้" เธอพูดทั้งน้ำตา ผมตกใจและรู้สึกเจ็บแปลกๆ
"ไนเจล...เกิดอะไรขึ้น"
"พี่...กำลังจะหมั้นใช่มั้ยค่ะ"
"......................"
"พี่กำลังจะหมั้น พี่กำลังจะทิ้งหนู เมื่อไหร่พี่จะบอกหนูค่ะ ฮึก!"
"เจล..."
"พี่บอกหนูมาซิ ว่าเรื่องจริงใช่มั้ย"
"อืม ฉันกำลังจะหมั้น"