Chapter 16

1886 คำ
“No... of course not” (ไม่ใช่แน่นอน) “but I miss you...” สำเนียงอเมริกันจ๋าในทีเล่นทีจริง เลขานุการหนุ่มหลุบตาลงซ่อนประกายไหวสั่นในดวงตาไว้ไม่ให้ใครล่วงรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรกับกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ทำเอาหัวฟุ้งซ่านมาจนถึงตอนนี้ โทรหาก็ไม่โทร แล้วมาบอกว่าคิดถึงเขาเนี่ยนะ! “แม่ฉันไม่ชอบไอ้หน้าหนวดเป็นเลขาฯ เถื่อน คุณควรจะโกนทุกวัน จะได้สู้หน้าแกได้แบบสดใส เสื้อผ้า เบ้าหน้าผ่าน...” “หนวดผมมันทำไมครับ? ผมว่ามันไม่ได้ยาวมาก แล้วมันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับการทำงานด้วย” “ก็เลยต้องไว้แบบเป็นตอ ๆ ไว้จั๊กจี๋สาว ๆ เหรอ? ว๊าย... จั๊กจี้จังเลยอ่ะ” เสียงแหลมปรี๊ดว่าอย่างหยอกล้อ นัชชาก็เป็นอย่างนั้นพอเห็นหนวดเป็นตอสั้น ๆ ก่อนที่ใบหน้าสดสวยจะเปื้อนยิ้มอีกครั้งกับสีหน้าเรียบเฉย “คุณหนูปริมมีแฟนแล้วนะครับ” ไม่รู้ว่าส่วนเกินอีกคนกำลังพูดกับใครแน่ หญิงสาวหันไปตอบ “เลิกแล้วลุง ตอนนี้ปริมโสดค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะ คนนี้ไม่ยุ่ง จุกจิกเกิน ไปดีกว่า...” ปลายเสียงบอกพลันสะบัดหน้าเดินหนีไปไว ๆ เธอคงไม่รู้ตัวว่าบางคนเผลอดีใจกับคำว่า ‘โสด’ “เดี๋ยวปริม... จะไปไหน?” เรียกตามหลังไป อลันรู้หน้าที่ตัวเองดีว่าคุณนายต้องการให้ทำอะไร ขายาว ๆ ของเขาคงถึงคนตัวเล็กแค่ไม่กี่ก้าวเดิน “นี่... กลับมาคุยกันก่อน จะรีบไปไหน? ปริม” เสียงเรียกดังคราวนี้ถึงตัวคนที่ถูกคว้าต้นแขนไว้ให้ต้องหันกลับมาประจันหน้า หน้าตาบูดบึ้งของเธอบอกว่าไม่พอใจ “รู้แล้วยังจะถาม โตแล้วไปไหนก็ได้ป่ะ ปล่อยเลยนะ แม่ให้มาตามใช่ไหม?” มือหนาหยาบค่อยผ่อนแรงลงเล็กน้อยด้วยกลัวต้นแขนเล็ก ๆ กำได้พอดีมือจะช้ำไปเสียก่อน ฝรั่งตัวโตอย่างเขาถ้ากระชากจริงเธอก็คงจะปลิว “เพิ่งกลับมาเองนะ อยู่คุยกับคุณนายก่อน เธอสั่งผมไว้ ค่อยไปก็ได้” “วันนี้มีธุระ เดี๋ยวฉันโทรหาแม่ฉันเอง ฉันไม่หายไปไหนหรอกน่ะ ฉันมีแม่คนเดียวป่ะ อ้อ... พ่อแบร์อีกคน กับคุณอลันไง” ใบหน้าหล่อเหลาขมวดมุ่นมองครุ่นคิดอยู่ว่าควรเชื่อดีหรือไม่ จากที่คุณนายนิตยาและแบร์นาร์ดกำชับหนักแน่นเรื่องคุณหนูตัวแสบของบ้านที่เอาเรื่องพอตัว ให้เขาดูแลเธอให้ดีในช่วงนี้ “นะคะคุณอลัน... เดี๋ยวปริมโทรหาแม่อีกทีนะคะ” เสียงอ้อนหวานเป็นคนละคนกระทั่งสีหน้ายังเปลี่ยนไปด้วย ชายหนุ่มจึงพยักหน้าเออออตาม พอเธอขึ้นห้องไปเก็บเสื้อผ้าของตัวเองเรียบร้อย เขาก็อาสาขับรถยนต์ไปส่ง หญิงสาวรู้สึกได้ว่าสถานะของเธอและเขาเปลี่ยนไป หากว่าอลันทำงานให้แม่ ไม่รู้ว่าเธอจะถูกติดตามทุกฝีก้าวหรือว่าอิสรภาพที่มีจะหายไปแค่ไหน เธอใช้ข้ออ้างว่าไม่มีรถขับไปมหาวิทยาลัย คอนโดมิเนียมของปรายลดาเดินทางสะดวกกว่า ไม่อยากไป ๆ มา ๆ ให้มันลำบาก วันก่อนเก็บเสื้อผ้ามากระเป๋าใหญ่ เธอก็รีบกลับห้องโดยไม่อยู่รอพบแม่หรือแบร์นาร์ด “ช่วงนี้ฉันกลับมาขายเสื้อผ้ากับพุด... คุณไม่ต้องไปบอกแกนะ” คนฟังแค่พยักหน้า “ครับ” ในท่าทีนิ่งเฉยบนเก้าอี้บาร์ของร้านกาแฟเงียบสงบ เพลงรักหวานซึ้งเปิดคลอไปเบา ๆ บางครั้งเขาก็ชอบที่จะลอบยิ้ม นัชชาไม่รู้ว่าเขาจะทำตามคำขอของเธอหรือเปล่า จากที่พูดจาดีอยู่จึงเปลี่ยนวิธีเจรจา “ห้ามบอกพ่อกับแม่นะว่าฉันอยู่นี่ ไม่งั้น… ฉันฆ่าคุณแน่ ๆ” “โอเค...” ชายหนุ่มไหวไหล่ ในแววตาเอ็นดูเขาเห็นว่าลูกแมวน้อยพยายามกางเล็บ ส่งเสียงขู่ฟ่อ “โอเคนี่คือเข้าใจ... อย่าให้รู้นะว่าไปบอกแม่ฉัน...” “อืม...” เสียงราบเรียบตอบแม้ควรพูด ‘ครับ’ อย่างเคยเป็นคนสงบเสงี่ยมเจียมตัวในการทำงาน แต่เป็นเพราะว่าความน่ารักของหญิงสาวที่เขาเคยคิดว่าสวย ไม่ได้สักครึ่งหนึ่งของ ‘น้องพุทราคนสวย’ ก็แค่เคย... คิด... “พี่เปาบอกให้คุณลา ทำไมไม่หยุดพักผ่อนล่ะ มารับงานบ้านฉันทำไม?” “I miss you” เสียงทุ้มนุ่มละมุนหูพาดวงหน้าหวานชะงักไปครู่ ละจากโน้ตบุ๊คเครื่องโปรดเพื่อหันไปหัวเราะเบา ๆ “ตลก... คุณอย่ามาล้อเล่นน่ะ ตามมาดู เพราะกลัวฉันไปก่อเรื่องมากกว่า” “...” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร เหตุผลที่เขามาเพราะเจ้านายเก่าอาจเป็นส่วนหนึ่ง เมื่อไม่กี่วันมานี้ มีสถาปนิกสาวนิรนามโพสต์เรื่องโดนแย่งผู้ชายไว้ในโลกโซเชียล เรียนจบมารุ่นเดียวกัน พร้อมเป็นรักแรกของกันและกัน ยังมีประเด็นพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยงและความไม่เหมาะสม ถึงยังไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าตัวหรือเปล่า คุณแม่ที่กำลังตั้งท้องไม่ค่อยสบายใจ เพื่อนรักอย่างนัชชาเลยตามไปแฉกลับ ด้วยการเขียนเรียงความสวย ๆ บอกที่มาที่ไปของคนโพสต์ว่ามีจุดประสงค์อะไร และถ้าใช่คนที่คิดคนหนึ่ง นางกำลังโดนคดีวางยาผู้ชาย! ตั้งใจเป็นเมียน้อยอย่างเต็มที่ ไม่จบเท่านั้นยังลามไปถึงปานทิพย์ น้องสาวของปิ่นแก้ว โน้ตบุ๊คเครื่องโปรดบนโต๊ะทรงสูงเป็นไม้เนื้ออ่อน ตามมารยาทที่ดีคนนั่งข้าง ๆ กันก็จะไม่แอบมองแค่ต่อหน้า อลันจำเป็นต้องยุ่งกับข้าวของส่วนตัวของคุณหนูตัวแสบหลายอย่าง เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง เขารู้จักปิ่นแก้วมานานพอ ๆ กับเจ้านาย หล่อนรักปรเมษฐ์ทั้งในแบบเพื่อนคู่คิดคู่ปรึกษาและคู่นอน คงไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ ยิ่งนัชชาเป็นพวกชอบหาเรื่อง “งานยุ่งจริงนะครับ ยังกับนักธุรกิจพันล้าน ผมได้ยินจากคุณพุดว่าเด็กปีสี่เหลือแค่ส่งงานกับทำเรื่องขอจบ” “ยุ่งมาก ทำงานอยู่… เงียบ ๆ ค่ะ” เสียงหวานปราม ก่อนจะเพ่งมองจอสี่เหลี่ยมอย่างเคร่งเครียด โดยไม่ได้หลบเลี่ยงอะไร ขณะที่ชายหนุ่มวางข้อศอกลงบนโต๊ะทรงสูง มือเท้าคางด้วยท่าทางสบาย ๆ “งานแต่งพุด… ไปไหม? อาทิตย์หน้า” “ต้องไปอยู่แล้วป่ะ” “ไปพร้อมกัน เดี๋ยวผมไปรับ แต่งตัวสวย ๆ นะครับ” น้ำเสียงขรึมในคำพูดนั้นเข้าใจได้ไม่กี่อย่าง เธอไม่ได้แม้แต่จะมองหน้าเขา แต่จากหางตารับรู้ได้ว่ากำลังถูกจ้อง... อุณหภูมิร้อนเห่อขึ้นใบหน้าสดสวย เธอเลื่อนสายตาไปช้า ๆ หลุบมองริมฝีปากหนาหยักได้รูปที่ยกยิ้มกริ่ม ปลายนิ้วเคาะแป้นพิมพ์หยุดกึก จูบวันนั้น… วันนั้น และอีกวัน...! ‘หอม... คิดถึงจัง... กลิ่นนี้... น้องปริมใช่ไหม?’ ไม่ ๆ! นี่แกคิดอะไร? พูดในใจได้แล้วเธอจึงค่อย ๆ ดึงสติ ผ่อนลมหายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อกลับมาเป็นนัชชาคนเดิม “หวังว่าคุณจะไม่ได้คิดอะไรกับฉันนะ คุณอลัน เพราะคุณจะอกหัก ฉันเป็นผู้หญิงขี้เบื่อ” คนได้ยินทำเป็นเพิกเฉยด้วยรอยยิ้มมีนัย ขณะเพลิดเพลินอยู่กับวงหน้าหวานใต้เครื่องอางอ่อน หญิงสาวในชุดนักศึกษา กระโปรงจีบรอบ ปล่อยผมยาวเป็นลอนสวยประหลังไว้ตามแฟชั่น ข้าง ๆ กันกับเขาในเสื้อเชิ้ตสีครีมอ่อน ก็คงไม่ต่างจากโคแก่ “ไปทำงานต่อที่ห้องดีกว่า แถวนี้มีพวกโรคจิต มานั่งจ้องเด็กนักศึกษาอยู่ได้ หน้าจะทะลุอยู่ละ” บ่นแล้วก็รีบเก็บของบนโต๊ะใส่กระเป๋าผ้า จับกระโปรงให้เรียบ ก้าวลงจากเก้าอี้ทรงสูงอย่างระวัง “ไปสิ... ผมไปส่ง” เขาบอกอย่างเป็นกันเอง หยิบกระเป๋าใส่โน้ตบุ๊คขึ้นพาดบ่าให้แทน ด้วยผู้ชายอย่างเขาคงไม่มีข้าวของอะไรมาก นอกจากกระเป๋าสตางค์ในกระเป๋ากางเกง ที่เหลือก็อยู่ในรถยนต์ “ตามสบาย อยากตามก็ตามให้ถึงที่สุดนะ ตามไปให้ถึงขุมนรกเลยนะ” คำประชดประชันยิ่งทำให้คนตามอารมณ์ดี ไม่ลืมหยิบกาแฟที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วติดมือไปด้วย ช่วงนี้เขาถูกเจมส์แซวว่ากำลังตามจีบเด็กมหา’ลัย ดาวคณะบริหารฯ เลิกงานจากบริษัทคุณนายนิตยา ถึงได้เหยียบคันเร่งมิดมาแทบทุกวัน... ตรงข้ามกันกับความคิดของอีกคนที่เดินนำหน้าไปพร้อมรองเท้าผ้าใบสีชมพู ตามก็ตาม… นัชชากำลังคิดว่าเลขาฯ ขี้ตื๊อมาตามคำสั่งพ่อเลี้ยง ด้วยเรื่องของปิ่นแก้วที่เธอเพิ่งไปแหย่รังแตนเพื่อความสะใจล้วน ๆ หรือมาจีบเธอที่ไม่ได้หลงตัวเองแน่ ๆ ผ่านโถงทางเดินชั้นแรกของห้องพักคอนโดมิเนียมสไตล์บ้านสวน มาถึงประตูห้องที่ไขมันออกแล้วเธอคงไม่ลืมคนข้างหลัง “เข้ามาสิคะ ห้องเมียเจ้านายคุณนี่” “เดี๋ยวผมจะกลับครับ แค่แวะมาดูความเรียบร้อย” เลิกคิ้วบอกคนที่พูดเชิญแปลก ๆ ทั้งที่วันก่อนก็มาส่งถึงหน้าห้อง พอเดินตามเข้าไป เสียงประตูปิดลงพร้อมเสียงล็อก ร่างบางขยับเข้ามาใกล้เขาที่หยุดยืนตรงทางแคบหน้าประตู “ไม่นอนเป็นเพื่อนปริมหรือคะ? เราเคยอยู่ด้วยกันตั้งหลายวัน ไหนว่า... คิดถึง” ปลายเสียงยั่วยวน เชยคอมองเจ้าของร่างสูงชะลูด ฉับพลันกับที่ห้องทั้งห้องดับมืด! เธอสะดุ้งตกใจก่อนได้รับแสงสว่างกลับมา เห็นมือหนาวางทาบอยู่บนปุ่มสีขาว “ปิดไฟทำไมเนี่ย” “ผมลองปิดเปิดดู เผื่อหลอดไฟมันไม่ดี จะได้เปลี่ยน” “ออ… ขอบคุณค่ะ” ในเสียงแผ่วลง ความหวาดกลัวแฝงอยู่ในแววตาคู่หวาน อีกคนก็คงจะรู้และจำเป็นต้องเตือนเด็กสาว “ไม่เป็นไรครับ ผมรับงานแล้วรู้หน้าที่ตัวเอง มีสติครบไม่ได้เมา คุณไม่ควรจะมายั่วผมนะ คุณหนูปริม” “ขู่เหรอ? แหม... น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย” ในท่าทางประชดประชันเป็นเรื่องปรกติของนัชชาที่มองตอบอย่างท้าทาย และดันเป็นฝ่ายกลัวขึ้นมาเสียเอง “ผมไม่ใช่ผู้ชายน่ารักใจดี เหมือนกับที่คุณบอกว่าเป็นคนขี้เบื่อนั่นแหละ ถ้าไม่รู้... ก็รู้เอาไว้นะ” “อืม... ค่ะ” เบ้ปากในเชิงว่ารับทราบ! สะบัดหน้าเดินเข้าห้องไปวางของลงบนโต๊ะ โน้ตบุ๊คและเอกสารถูกจับเป็นที่เป็นทางโดยเลขานุการที่เดินตามหลังมา ด้วยความเป็นระเบียบของตัวเขา “ผมไปแล้วนะครับ จะอยู่บ้านใช่ไหม?” “เปล่า... ฉันจะออกไปดริ้งกับเพื่อน ไหน ๆ ก็มาละ ไปส่งหน่อยละกัน” “ไปกับใคร เพื่อนคนไหน?” ไม่ถามเปล่า มือหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าตอบข้อความของคนที่ส่งคำถามมาได้ตรงเวลา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม