“เป็นอย่างไรบ้างคะคุณหมอ?”
“อาการของคนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วค่ะ”
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยคุณพ่อของฉัน”
“ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ...” ก่อนที่คุณหมอคนสวยอย่างเธอจะฉีกยิ้มกว้างให้กับเหล่าญาติของคนไข้และเธอก็ขอตัวพาร่างของตัวเองเดินออกมาจากที่ตรงนั้น
เสื้อกาวน์คุณหมอสีขาวสะอาดตาพริ้วไสวไปตามสายลมในทุกท้วงท่าที่เธอนั้นก้าวเท้าเดิน ขาทั้งสองข้างก้าวไปตามทางเดินที่คุ้นเคยอย่างเป็นจังหวะเนิบนาบไม่เร่งรีบ
แสงสีส้มทอประกายของแสงตะวันนั้นฉายชัดเข้ามาที่หน้าต่างบานใหญ่ให้คุณหมอที่กำลังจิตใจเหม่อลอยนั้นหยุดยืนมอง
เจ้าตัวหันไปตามทิศทางของดวงตะวันก่อนจะเผลอคิดถึงใบหน้าสวยสดงดงามของคนเมื่อคืนที่ได้เห็นเพียงแค่ไม่กี่วินาทีและต้องจากกันอย่างแสนเสียดาย
มือบางสวยของเธอยกขึ้นไปแตะที่ริมฝีปากบางเบาอย่างหลงละเมอในรสสัมผัสเพียงแผ่วเบาจากปลายนิ้วของคนที่เอาแต่คอยหมุนเวียนอยู่ในความทรงจำ
เจ้าหล่อนกรีดกรายปลายนิ้วชี้ลงที่ริมฝีปากของเธอและยกยิ้มให้เธอนั้นตราตรึงอยู่ในหัวใจก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยรองเท้าส้นสูงสีเข้ากันกับชุดและเดินไปโอบเอวบางของใครบางคนก่อนจะเดินจากไปจนลับสายตา
แน่นอนว่าเจ้าหล่อนไม่ได้ตอบรับคำขอของเธอที่เป็นคนยื่นข้อเสนอไปให้...แต่เจ้าหล่อนเองก็ไม่ปฏิเสธกันกลับมาเป็นคำพูดเฉกเช่นเดียวกัน
เจ้าหล่อนอาจจะเพียงแค่มีนัดแล้วในคืนวันนั้น...แล้วถ้าเกิดว่าวันนี้เราได้พบเจอกันอีกครั้ง หล่อนจะยอมรับข้อเสนอของเธอหรือเปล่า?
เพราะสัมผัสเพียงแค่แผ่วเบาจากปลายนิ้วชี้ของหล่อนเมื่อคืนก่อนที่จะจากไป...ยังตราตรึงอยู่ในหัวใจของเธอไม่จางหายไปไหนจนอยากจะลิ้มรสริมฝีปากของหล่อนดูสักครั้ง
...ว่าจะอ่อนนุ่มละมุนดั่งปลายนิ้วเหมือนกันหรือเปล่า...
“คุณหมอเหนือฟ้าคะ...คุณหมอ!” เสียงร้องเรียกเสียงดังของใครบางคนช่วยดึงสติ
เหนือฟ้าหันกลับไปหาคนที่ร้องเรียกหากันก่อนจะยกยิ้มอบอุ่นไปให้นางพยาบาลสาวต้องเผลอหลบสายตาทรงเสน่ห์นั้นด้วยความขวยเขิน
“ว่าอย่างไรคะคุณนับพิม?”
“เห็นยืนยิ้มอะไรอยู่คนเดียวก็เลยทักทายน่ะค่ะ...มีเรื่องอะไรดี ๆ หรือเปล่าคะ?” หล่อนเอ่ยถามคุณหมอร่างสูงโปร่งตรงหน้าอย่างเป็นกันเอง
เพราะคุณหมอเหนือฟ้าคนนี้เป็นคนเก่งและเป็นที่รักของทุก ๆ คนรวมไปถึงคนไข้ รอยยิ้มและแววตาที่แสนอบอุ่นของคุณเขานั้นมันทำให้ใครหลาย ๆ คนต่างก็ชื่นชอบเขากันทั้งนั้น
“ก็...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” คุณหมอคนสวยตอบคำถามคุณพยาบาลสาวที่เอาแต่จ้องมองใบหน้าของเธอ “คุณนับพิมคะ”
“คะ?”
“คุณว่าฉันน่าจูบไหมคะ?”
“เอ๋!” คุณพยาบาลสาวอุทานตกใจที่อยู่ ๆ ก็ถูกถามคำถามที่ไม่ควรจะถาม
สร้างเสียงหัวเราะให้กับคุณหมอคนสวยก่อนจะส่ายมือเป็นพัลวัน
“ล้อเล่นน่ะค่ะ...งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” และเจ้าตัวก็เดินจากออกไป
เหลือไว้เพียงแต่ความเขินอายและระเบิดลูกใหญ่ที่ทิ้งเอาไว้ให้กับคุณพยาบาลคนสวย ก่อนที่เจ้าหล่อนจะเผลอยกมือแตะที่ริมฝีปากอย่างหลงลืมตัว
แอบเผลอคิดไปวูบหนึ่งว่าถ้าหากได้ลองสัมผัสริมฝีปากสีแดงธรรมชาติของคุณหมอคนสวยดูสักครั้งจะเป็นอย่างไรกันนะ...
.
.
นี่เป็นอีกวันที่ร่างสูงโปร่งของคุณหมอคนสวยมานั่งอยู่ในโซน VIP เฉกเช่นเมื่อวาน แต่วันนี้เธอมีจุดประสงค์ที่แน่ชัดแล้วว่าอยากจะมาพบใคร สายตาของเธอเลยไม่มองใครอื่นอีกแม้จะมีสาว ๆ เข้ามาเสนอตัวกับเธอเป็นจำนวนมาก
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังคงไร้วี่แววใบหน้าสวยจัดของคนที่เธอเฝ้าคนึงหา ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายก็ดูจะล้นอกจนแทบดื่มต่อไปไม่ไหว
อาจจะเป็นเพราะเธอนั้นตื่นเต้นเกินไปที่จะได้พบเจอ การกระดกยกขึ้นดื่มเพื่อดับอาการนั้นจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเครื่องดื่มที่เธอชื่นชอบนั้นพร่องลงไปมากแม้จะเป็นขวดที่สามแล้ว
แต่แล้วสายตาที่พร่ามัวและสติที่แทบจะหมดลงก็กลับมาตื่นตาตื่นใจอีกครั้งกับร่างสวยสง่าที่เดินย่ำเท้าเข้ามาใกล้
วันนี้เจ้าหล่อนอยู่ในชุดเดรสสีชมพูหวานช่วยขลับผิวให้ขาวผุดผ่องราวกับน้ำนมรับกับรองเท้าส้นสูงสีขาวมุกเข้ากันกับชุด
แววตาของเธอมองตรงส่งไปถึงคนตรงหน้าหวานเยิ้มอย่างไม่มีปิดบัง ก่อนจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมที่แสนคุ้นเคยแม้จะเคยได้กลิ่นเพียงครั้งเดียวตลบอบอวลอยู่ข้างกายใกล้เพียงแค่เอื้อมมือ
“ไงคะ?”
“คุณมาแล้ว...” เสียงราวกับคนเพ้อฝันหลุดออกจากปากของร่างสูงโปร่งที่ยกยิ้มอย่างยินดี
ได้ยินเสียงหัวเราะหึขึ้นมาในลำคอของคนข้างกายบางเบาชวนให้ใจสั่น
“ฉันมาที่นี่ทุกวันอยู่แล้วค่ะ”
“แล้วทำไมก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยพบคุณ” เสียงติดแหบเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์นั้นยังดังอย่างต่อเนื่องเพื่อหาเรื่องชวนคุย
เจ้าหล่อนผินหน้ากลับมาสบมองเธอจนเต็มตาก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากให้คนมองเผลอใจสั่น
แสงไฟเพียงเล็กน้อยที่ระยิบระยับอยู่รอบกายนั้นมันช่างน่าขัดใจ เธออยากจะได้แสงไฟสปอตไลท์มาส่องลงตรงที่คนข้างกายเพราะอยากเห็นความสวยงามที่มากกว่านี้
“คุณดูเมาแล้วนะคะ”
“เพราะคุณเลยฉันถึงเป็นแบบนี้” เธอรีบเอ่ยบอกออกไปแม้จะไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องบอกก็ตาม
แต่เพราะเมื่อคืนเธอไม่สามารถที่จะลืมใบหน้าที่สวยงามของหล่อนได้ลง เธอจึงต้องกลับบ้านอย่างโดดเดี่ยวและเดียวดายไม่หิ้วใครกลับด้วยเหมือนกันกับทุกที
“จริงเหรอคะ?”
“เพราะคุณเอาแต่ทำให้ฉันคิดถึงสัมผัสของคุณ” เหนือฟ้าเอ่ยบอกทั้งเสียงแหบพร่าและจ้องมองคนตรงหน้าด้วยดวงตาหวานเยิ้ม
เธอขยับใบหน้าเข้าใกล้เพื่อหวังจะช่วงชิงความหวานจากริมฝีปากแดงสดของคนตรงหน้า แต่สัมผัสเดิมที่เธอนั้นแสนคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งให้เธอต้องมองอย่างขัดใจปนใจสั่น
“ไม่ใช่ตรงนี้ค่ะ” เจ้าหล่อนใช้นิ้วชี้ลูบไปมาที่ริมฝีปากล่างของเธอทั้งยังยกยิ้มอย่างยียวน
ทุกสัมผัสที่นิ้วร้อนของหล่อนลากผ่านก่อนจะไปจบลงที่ฝ่ามือของเจ้าตัวแตะลงที่ข้างแก้ม รอยยิ้มหวานละไมปรากฏขึ้นอีกครั้งจนเหนือฟ้าได้เพียงแต่เพ้อฝัน
“พร้อมหรือยังคะ?”
“…”
“พร้อมจะเป็นสินค้าให้ฉันซื้อคุณแล้วหรือยัง?”