Lovely shot 12

1383 คำ
Lovely shot 12 “ทริปนี้คุณกรกับเลขาไปด้วยนะ” “คะ? ไม่จริงใช่ไหมคะเขาควรจะไปกับฝั่งนู้นนี่คะ” ฉันมองพี่ภัสตาโต อุตส่าห์ดีใจที่จัดสัมมนาพร้อมกันหมดแล้วเขาจะไปฝั่งนู้นแต่สิ่งที่ได้รับรู้กลับทำลายความฝันฉันเสียอย่างนั้น “เรื่องจริง” “หนูลาวันนั้นได้ไหมพี่ภัส” ฉันเริ่มเบ้หน้าอยากจะร้องไห้จริง ๆ “ไม่ได้จ้ะน้องรัก เขาไปเพราะกานต์นั่นแหละ พี่แค่อยากบอกไว้พี่ไปทำงานต่อละ” ฮื่อ!! ไม่ไหว ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ “อ้าวคุณกรสวัสดีครับ” “สวัสดีครับ” เสียงทุ้มที่ฉันจำได้ดีว่าเสียงใครดังขึ้นใกล้ ๆ ฉันก้มหน้าลงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองคนมาเยือนเลย เสียงพูดคุยกันก่อนหน้านี้เงียบไปจนน่าใจหาย ฉันเองก็กลั้นหายใจไปเมื่อเริ่มได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ กลิ่นเดียวกับที่ได้กลิ่นในห้องเมื่อเช้า และกลิ่นนั้นก็คล้ายจะชัดขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน “พี่ซื้อมาให้ เลิกงานแล้วขึ้นไปหาพี่ก่อนจะพาไปกินข้าว” แก้วเครื่องดื่มยี่ห้อดังถูกวางลงบนโต๊ะทำงานฉัน พร้อมกับสัมผัสอุ่น ๆ ที่วางบนกลุ่มผม ฉันตกใจรีบผงะออกห่างจากเขาทันทีทั้งยังส่งสายตาดุกลับไป แต่เหมือนเขาตั้งใจที่จะทำให้ทุกคนเห็นทั้งยังทำสีหน้าท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวนั่นอีก มันชัดแล้วว่าเขาตั้งใจที่จะทำแบบนั้น “อา ทำตัวตามสบายเลยครับไม่ต้องเกร็งกันขนาดนั้น” ยังจะมีอารมณ์ไปแกล้งแซวพี่ ๆ เขาอีก “กินด้วยมันจะละลาย เลิกงานขึ้นไปหาพี่นะครับ” เขาย้ำอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เขาแล้วไง มันอยู่ที่ฉันนี่!! “เชี่ย! เมื่อกี้เหมือนกูฝัน” “น้องเราจะขายออกแล้วว่ะ” “สายตาเมื่อกี้คือกูเขินนะ แต่กูหวงไอ้กานต์ได้ไหมวะ” “มึงหวงไม่ได้ นั่นแฟนเขา” “เชี่ย! ตอนไหน อะไรยังไง” “ก็ตั้งแต่ที่น้องเข้ามาไง อ้อ มึงเพิ่งมา แผนกขี้เหล้าเขารู้หมดละคุณกรประกาศตั้งแต่ก่อนมันเข้ามาทำงานอีก” “ไม่รู้เรื่องว่ะ” “พวก วิศถาอินรู้กันหมดละ แผนกอื่นไม่มั่นใจว่ะ” งงกันล่ะสิว่า วิศถาอิน คืออะไร จะบอกให้ก็ได้ค่ะว่าแผนกขี้เหล้า เอ๊ย! ไม่ใช่ ๆ ก็วิศถาอิน หมายถึงทีมวิศวกร ทีมสถาปัตฯ ทีมอินทิเรีย นั่นแหละ เรียกรวม ๆ ว่าทีมขี้เหล้าค่ะ เพราะงานไหนมีเรางานนั้นต้องมีคนเมา แต่เรื่องที่ยังเป็นประเด็นให้พี่ ๆ คุยกันนั้นฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน เพราะได้ยินเรื่องแบบนี้มาบ่อยครั้งก็ตั้งแต่เข้ามาทำงานที่นี่นั่นแหละ แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเรื่องอะไรกันแน่ ส่วนคุณกรที่เป็นส่วนหนึ่งในประเด็นเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็จะนิ่งและดูดุ คีพลุคเจ้านายนั่นแหละ แต่พอเป็นทีมที่คุ้นเคยเขากลับชอบทำตัวสนิทสนมกับฉันโดยไม่สนใจสีหน้าฉันเลยว่าต้องการจะสนิทกับเขาไหม ไหนจะชอบพูดเพราะ ๆ ด้วย หรือแม้กระทั่งอย่างเมื่อกี้ที่เขาซื้อของมาให้ “กานต์น้ำละลายแล้วนะไม่ดื่มเหรอ” พี่ฝ้ายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอ่ยเตือน หันกลับมาสนใจแก้วน้ำที่เพิ่งถูกวางบนโต๊ะได้ไม่นานก็เริ่มเจิ่งนองไปด้วยน้ำแข็งที่ละลาย ฉันตัดสินใจยกขึ้นมาดื่ม ไม่ใช่กาแฟหรอกนะเป็นโกโก้เย็นน่ะ แก้วละร้อยกว่าบาทแบบนี้ไม่ดื่มไม่ได้แล้วยิ่งมีวิปครีมอีก กรี๊ด ฉันชอบ เมื่อถึงเวลาเลิกงานฉันรีบบอกลาพี่ ๆ คว้ากระเป๋าวิ่งออกจากออฟฟิศไปที่รถทันที คิกคิก ทางสะดวก ฉันขึ้นรถอย่างสบายใจเมื่อคิดว่าจะได้กลับบ้านไปพักผ่อน ใช้เวลาไม่นานก็กลับมาถึงที่พัก ฉันทิ้งตัวนอนบนโซฟามือล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นอย่างสบายอารมณ์ “เก่งมากกานต์น้อย หลบเก่งที่หนึ่ง คิกคิก” ฉันบอกตัวเองอย่างชื่นชมพลางหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว ไม่มีอะไรสบายใจเท่ากับเลิกงานแล้วได้กลับมาห้องพักแล้วล่ะ ความสุขฉันคือการเลื่อนทวิตเตอร์เข้าไปดูเหล่าลูกชายที่น่ารักว่ามีงานหรือกำลังเดินทางไปไหนหรือเปล่า เกือบสามทุ่มเสียงกดกริ่งดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ฉันเงียบเสียงหัวเราะตัวเองและมองที่ประตูอย่างหวาดระแวงทันที ฉันเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่นะไม่มีคนรู้จักแน่ ๆ แต่จู่ ๆ ก็มีคนมากดกริ่งห้องแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ เอ๊ะ หรือจะเป็นพี่กั้งนะ คิดได้แบบนั้นก็กดโทรหาพี่สาวทันที แต่ก็พบว่าพี่ปิดเครื่องแล้วจู่ ๆ สายก็โอนไปยังเบอร์พี่เขยแทน (ว่าไงกานต์) “พะ พี่ยีน พี่กับพี่กั้งได้มาหาหนูไหม” ถามไปมือก็สั่นไป ทั้งยังลอบมองประตูบ่อย ๆ ด้วยความกลัว เมื่อยังได้ยินเสียงอยู่ดังเดิม (ไม่นะ พี่อยู่สนามบินรอรับกั้งอยู่ มีอะไรหรือเปล่า) “มีคนมากดกริ่งที่ห้อง แต่หนูไม่รู้จักใครเลยนะ” (ไม่ต้องเปิด เดี๋ยวพี่โทรไปเช็กกับทางคอนโดให้) “พี่ยีน” (ไม่ต้องกลัว ระบบประตูปลอดภัย ตอนนี้ย้ายไปรอที่ห้องนอนล็อกประตูดี ๆ ใส่พาสเวิร์ดประตูห้องนอนด้วยเลย เดี๋ยวพี่จะโทรไปทางคอนโด) “พี่โทรกลับมาหาหนูด้วยนะ” (ได้พี่จะโทรกลับไปหา เข้าไปรอห้องนอน) พี่ยีนวางสายไปแล้ว ฉันสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นว่าที่ประตูเริ่มมีเสียงกุกกักทั้งยังมีการลองหมุนลูกบิดประตู ฉันวิ่งเข้าไปในห้องนอนปิดประตูล็อกอย่างแน่นหนา บ้าจริงคอนโดนี้ไม่ใช่ถูก ๆ นะทำไมความปลอดภัยมันไม่มีแบบนี้ ครืด! ครืด! ครืด! เสียงสั่นของโทรศัพท์ที่สัมผัสได้ฉันรีบคว้าขึ้นมากดรับทันที “พะ พี่ยีนเป็นไงบ้างใครอยู่หน้าห้องอยู่” (ใครอยู่หน้าห้อง?) สะ เสียงนี้มัน ฉันยกโทรศัพท์ออกมาดูรายชื่อที่โทรเข้ามาทันทีเมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคย (อย่าเพิ่งวาง แล้วเมื่อกี้คืออะไรใครอยู่หน้าห้อง) เสียงดุๆ นั่นทำให้ฉันรู้สึกกลัว แต่มันก็ยังน้อยกว่าเสียงกุกกักหน้าห้องที่ได้ยิน “มะ ไม่รู้ค่ะ แต่มีคนมากดกริ่งแล้วพยายามเปิดประตู” (บ้าเอ๊ย! พักอยู่ไหน) “...” (เลือกเอาจะให้พี่ไปหาหรือให้ใครก็ไม่รู้บุกเข้ามาในห้อง) “คอนโด xx...” (พี่จะรีบไป ไม่ต้องวางสาย) “เผื่อพี่เขยโทรกลับมา พี่ยีนบอกจะโทรหาทางคอนโดให้” (ส่งไลน์ไปแทน พี่ใกล้จะถึงแล้วอยู่ไม่ไกล” เขาบอก ฉันเดินไปหยิบหูฟังมาเสียบก่อนจะกดเข้าไลน์แชทของพี่ยีนถามว่าเป็นยังไงบ้าง แต่พี่ยีนบอกแค่ว่าไม่มีคนรับสาย ใจฉันยิ่งแป้วไปใหญ่ ฉันกลัวจนสั่นไปหมดแล้วนะ (พี่อยู่หน้าคอนโด ทำไมไม่มี รปภ. สักคน) เสียงคนที่คอลทิ้งไว้บ่นอย่างหงุดหงิด “พี่ยีนบอกว่าโทรไปแล้วไม่มีคนรับ” (อือ พี่ยินเสียงโทรศัพท์อยู่ อ้อ เจอ รปภ.แล้ว) แล้วเขาก็คุยอะไรกันไม่รู้กระทั่งได้ยินเสียงเอ่ยเรียกและถามฉันอีกครั้งนั่นแหละ (ชั้นไหนครับ) “ชั้นแปด ห้อง0812 ใกล้ถึงยัง” (กำลังเข้าลิฟต์ครับ นับหนึ่งถึงสิบรอพี่) บ้าสิ ไม่ใช่เด็กนะที่ต้องมานับเลขรอน่ะ ในใจทักท้องปฏิเสธ แต่มือไม่รู้ทำไมถึงต้องยกนิ้วขึ้นมานับทีละนิ้วตามที่เขาบอกด้วยก็ไม่รู้ (ไอ้เหี้ยเอ๊ย!!!) (คุณกรใจเย็น ๆ ก่อนครับ) (คุณกรครับพอก่อน//เรียกตำรวจมาเดี๋ยวนี้!)
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม