“เพลงล่ะ”
“อยู่ในห้องมึงไงเห็นบ่นกับจีมินว่าปวดท้อง”
“อืม”
“ถ้าเปรี้ยวกลับมามึงจะทำยังไงไอ้เดย์”
“ไม่ยังไง จะกลับมาหรือไม่กลับก็ไม่เกี่ยวอะไรกับกูอยู่แล้ว” ตอบไอ้กราฟไปด้วยความมั่นใจไม่ได้โกหกนะครับ ถึงแม้ลึก ๆ ในใจจะยังหลงเหลือความผูกพันธ์อยู่บ้างก็เถอะ แต่มันไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไปแล้ว
“เหรอ...แล้วมึงกับน้องมิวนี่ยังไง”
“ยังไงอะไรของมึง”
“มึงสองคนเคมีเข้ากันมากเลยรู้ตัวไหม ดูอย่างเมื่อกี้สิแค่มองตาก็รู้ใจ พี่เดย์มีตัวจริงด้วยเหรอคะ ฮ่า ๆ อย่างชอบ” มันว่าพลางทำท่าทีกระแนะกระแหนใส่ผม
“เขาเรียกว่าเรียนรู้ให้เป็นเว้ย”
“แหม ๆ ๆ เรียนรู้ให้เป็น ตกหลุมรักก็ยอมรับมาดีกว่าน่ะ”
“ตกหลุมรักอะไรของมึง หลังแต่งงานหนึ่งปีก็แยกย้ายกันแล้ว”
“แยกย้าย? มึงคิดว่ามันง่ายเหมือนที่มึงพูดเหรอวะตั้งหนึ่งปีถ้าไม่ผูกพันกันเลยกูยอมคลานสี่ขารอบร้านเลยอะ”
“มึงพูดแล้วนะ”
“เออ”
“แล้วมึงกับน้องแตงโมล่ะไปถึงไหนแล้ว”
“ก็ดีเรื่อย ๆ ว่ะ”
“คบกันแล้ว?”
“ยัง! คุยกันอยู่”
“มึงยังดีที่ได้คุยกัน ดูคู่กูสิอยู่ดี ๆ เป็นผัวเมียกันเฉย”
“แล้วไง มึงก็ไม่มีใครนี่ น้องมันก็ไม่มีใครด้วย ไม่ลองหน่อยเหรอ”
“...” ชงเก่งครับ มันอยากให้ผมมีใครสักคนตั้งนานแล้วแหละ แต่ที่มันพูดก็ถูกนะ ข้อนั้นน่ะผมลืมคิดไปเลยตั้งหนึ่งปีจะอยู่ยังไงให้ไม่ผูกพันธ์ไม่ให้คุ้นเคยกันเลยมันได้เหรอ?
“งั้นกูไปทำรถก่อน”
“เค กูสักแค่สองคิวก็เสร็จแล้ว”
“เออ”
พอไอ้กราฟออกไปผมก็เตรียมอุปกรณ์สักรอลูกค้า วันนี้มีแต่ผู้ชายรุ่นน้องทั้งนั้นแหละ
“หวัดดีเฮียรอนานเปล่า”
“ไม่กูก็เพิ่งมาเหมือนกัน” หมอนี่ชื่อไนท์ครับ ไอ้นี่แหละที่มันจ้องจะดามใจยัยบ้องแบ๊ว
“อ๋อครับ แล้วว่าที่เมียเฮียล่ะไม่มาเหรอ”
“ถามทำไม”
“แค่ถามเองไม่เห็นต้องขึ้นเสียงเลย ไหนว่าไม่ได้เป็นอะไรกันไง”
“ตอนนี้ยัง แต่อีกไม่กี่วันจะเป็นละ”
“พูดจากำกวมอีกแล้วนะ”
“กำกวมอะไรกูจะแต่งกันอยู่แล้ว”
“อ๋อ เหมือนพี่กำลังหึงเลยรู้ตัวหรือเปล่า” มันว่ายิ้ม ๆ มองผมด้วยสายตาจ้องจับผิด
“ถึงจะเป็นผัวเมียแค่ในนามยังไงก็ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ดี”
“เดี๋ยวนะเฮียตกลงไม่อยากแต่งจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย” เห็นท่าทางกวนอารมณ์ของมันแล้วหมั่นไส้ครับผมก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนี่
“ไอ้นี่! ตกลงมึงจะมาสักหรือมาซักประวัติกูกันแน่”
“ฮ่า ๆ อย่ามีอารมณ์ดิเฮีย เนอะ!” ประโยคหลังมันพยักหน้าไปด้านหลังผมครับ
“...”
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“สักพักแล้วค่ะ”
“ไหนไอ้กราฟบอกว่ามึงรอในห้องไง”
“หิว ขอตังค์หน่อย” แบมือตรงหน้าพลางฉีกยิ้มจนตาหยีเลยครับ
“ซื้อกาแฟมาให้ด้วย” ยื่นเงินกับกุญแจรถให้คนตรงหน้าก่อนจะหันมาเตรียมตัวสัก
“ขอบคุณค่ะ”
คล้อยหลังเพลงไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดอีกครั้ง
“ไอ้เดย์”
“เกิดอะไรขึ้นวะ”
“มีอะไรในกอไผ่” ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรเลยไอ้พวกเพื่อนเวรก็เปิดประตูพรวดพราดเข้ามาพร้อมกับตั้งคำถามแปลก ๆ ใส่ผม
“เหี้ยอะไรของพวกมึงวะ”
“มึงให้น้องเพลงขับรถเหรอ”
“มึงคิดไม่ดีไม่ร้ายกับน้องใช่ไหม”
“หลงรักแล้วใช่ไหมบอกพวกกูมาเดี๋ยวนี้”
“ใช่...ใช่ไหม?”
“อะไรของพวกมึงวะ มันไปเซเว่นเดี๋ยวมา”
“มึงให้น้องเพลงขับรถอะ กูว่าใช่ต้องใช่แน่ ๆ” ไอ้แจ็คพูดประโยคเดียวกันถึงสองครั้ง
“เออไง ก็แค่ขับรถมันแปลกตรงไหน”
... : แปลกทุกตรง!
“...”
“ตั้งแต่รู้จักกันมากูเพิ่งเคยเห็นมึงให้คนอื่นขับรถนี่แหละ ขนาดปูเปรี้ยวมึงยังไม่ให้มันขับเลย” จีมินเอ่ย
“แล้ว?”
“เนี่ย ๆ มึงยอมรับมาเหอะว่าตัวเองกำลังจะเปลี่ยนไป”
“กูก็เหมือนเดิมนะ”
... : ไม่เหมือน!!
“อะไรของพวกมึงวะจับผิดกูอยู่นั่นแหละ” พูดออกไปอย่างหัวเสีย ก็มันจริงนี่ครับขยับตัวทำอะไรไม่ได้เลย
“ถ้ามึงคิดจะเปิดใจกูสนับสนุนเต็มที่นะแต่ถ้าแค่เล่น ๆ กูขอยกเว้นน้องมันไว้สักคนเหอะ” ไอ้แจ็คเอ่ย
“กูไม่รู้หรอกว่ามึงคิดอะไรอยู่ ถ้ามึงยังรอใครคนนั้นกลับมากูอยากเตือนสตินะ ช่วยหยุดตัวเองและอย่าล้ำเข้าไปโลกของน้องมันเลย บอกตามตรงว่ากูสงสาร ถึงการแต่งงานระหว่างมึงกับน้องจะเกิดจากความต้องการของผู้ใหญ่ก็เถอะ” ไอ้กราฟเสริมขึ้นมาอีกคน
“กูก็ไม่ได้คิดอะไรกับเพลงนี่”
“คิดไม่คิดเดี๋ยวมึงก็รู้ การกระทำมันเสียงดังกว่าคำพูดอีกนะ เวลามึงกับน้องอยู่ด้วยกันมึงยิ้มโคตรบ่อยเลยรู้ตัวไหม”
“อืม อยู่กับเพลงแล้วกูสบายใจถึงจะเจอกันแค่ไม่นานก็เถอะ”
“แบบนั้นแหละเฮียที่เขาเรียกว่าตกหลุมรัก” ไอ้ไนท์พูดขึ้นมาบ้าง
... : ใช่!
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทุกคนถึงคิดว่าผมยังรอเปรี้ยวอยู่ ที่ผมไม่มีใครก็แค่ไม่อยากมีเท่านั้นเอง รู้สึกว่าตัวคนเดียวมันดีกว่า
กับเพลงเธอค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับผมนะ หมายถึงการวางตัวนิสัยใจคอ เป็นคนใจเย็นต่างจากผมที่ใจร้อนอารมณ์ร้าย
“พี่เดย์คะหนู...” น้ำเสียงใสขาดหายไปเมื่อเห็นพวกเราอยู่กันหลายคน
“ว่าไง รถกูล่ะยังอยู่ดีไหม”
“ไม่ค่อยดีค่ะ ล้อหลังหลุดอยู่หน้าเซเว่นส่วนด้านหน้าสีถลอกนิดหน่อยเกยฟุตบาต” น้ำเสียงกวนอารมณ์บวกกับแววตาสดใสของเธอมันทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว จะว่าไปก็ยิ้มบ่อยจริง ๆ นั่นแหละ
“น่ะ ๆ พวกมึงเห็นไหมผิดจากที่กูพูดซะที่ไหน”
“ถ้ามึงยังไม่หุบปากกูจะไล่มึงออกนะจีมิน”
“เหม็นความรักฉิบหายไปเขียนบิลต่อดีกว่า”
ทิ้งสายตาอันชั่วร้ายใส่ผมก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงาน ที่ตรงนี้จึงเหลือแค่ผมกับเพลงและไอ้ไนท์
“แพ้ท้องหรือไงกินอะไรแต่ละอย่าง” ก็ดูแต่ละอย่างที่ซื้อมาสิครับ มีแต่ของหมักของดองทั้งนั้นเลย
“จิ๊! ท้องอะไรหาผัวให้ได้ก่อนเถอะ นี่กาแฟพี่หนูไปแล้วนะ”
“ล็อคประตูด้วยล่ะ”
“ค่ะพ่อ...”
เลิกสนใจเธอก่อนจะหันมาตั้งใจสักให้ไอ้ไนท์อย่างจริงจัง วันนี้แค่เติมเส้นครับสีค่อยลงวันหลังเพราะมันใช้เวลาค่อนข้างนานและผมก็ต้องทำรถด้วยจึงมีเวลาไม่มากพอ หมกมุ่นอยู่กับการสักหลายชั่วโมงเลยทีเดียว
“ไอ้แม็ก เพลงล่ะ”
“อยู่ในห้องมึงไง นานแล้วยังไม่เห็นออกมาเลยไม่สบายหรือเปล่า”
“เออขอบใจ เดี๋ยวกูไปดูเอง”
ไขประตูอย่างเบามือที่สุด ไม่เขียนนิยายก็อ่านนิยายล่ะมั้ง สรุปหลับครับ สงสัยเป็นรอบเดือนด้วยคงจะเพลียแหละ ที่ผมรู้ไม่ใช่อะไรหรอกแม่ผมก็เป็นเหมือนกัน
มองไปรอบห้องมันดูสะอาดตามากกว่าปกติสงสัยจะเป็นฝีมือของยัยบ้องแบ๊วครับ เก็บซะเรียบร้อยเชียว
“พี่เดย์”
“นอนเหอะ เห็นหายไปนานกูเลยเข้ามาดูเฉย ๆ”
“ปวดหัว ปวดท้องด้วย”
“เดี๋ยวไปเอายามาให้รอนี่แหละ”
“กินแล้วค่ะ แต่มันยังไม่หาย”
“แล้วกูควรทำยังไง”
“...” มองหน้าผมนิ่ง ๆ ก่อนจะผล็อยหลับไปอีกครั้ง คนอะไรหลับโคตรง่าย
มันก็แปลกเหมือนกันนะทั้งที่เพิ่งเจอกัน เพิ่งได้คุยกันแต่มันกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ไม่เหมือนคนแปลกหน้าที่ถูกบังคับให้แต่งงานกันเลยสักนิด มันเป็นเพราะอะไร