EP.07 ฉันพร้อมตั้งแต่มาถึงแล้วย่ะ

1823 คำ
EP.07 ร่างสูงของคิมหันต์เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงทางเข้าของห้องรับแขก เขาสำนึกรู้ได้ในทันทีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนเกี่ยวกับตัวของเขาจะต้องถูกถ่ายทอดให้กับบิดาและมารดาของเขาได้ทราบอย่างแน่นอน และก็เป็นจริงเมื่อคุณกันทิมาเหลียวมาเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ ก่อนจะเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง “คิมหันต์ลูก เข้ามาหาแม่ก่อนสิ” คุณกันทิมากวักมือเรียกขณะที่ชายหนุ่มได้ก้าวยาวๆ เข้าไปหาบุคคลทั้งสี่ “สวัสดีครับคุณอาบัญชา เอ่อ คุณเจนจิราก็มาด้วยหรือครับ” ชายหนุ่มพยายามข่มเสียงให้เป็นปกติ ก่อนจะไปนั่งลงข้างๆ กับคุณกันทิมา “สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะคุณคิมหันต์” ทั้งสองพ่อลูกแห่งบ้านไพศาลสุรวุทเอ่ยขึ้นพร้อมกัน “แม่รู้เรื่องนั้นหมดแล้ว ลูกนะลูกทำไมไม่บอกพ่อกับแม่สักคำ” คุณกันทิมาสำรวจไปทั่วร่างกายของชายหนุ่มเพื่อหารอยบุบสลายอันเกิดจากเหตุการณ์ที่ทำให้เธอแทบช็อค!!! “ไม่มีอะไรมากหรอกครับคุณแม่ ผมไม่เป็นอะไรมาก ตอนนี้ผมก็เริ่มจะหายแล้ว ผมมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องทำยังไม่ตายง่ายๆ หรอกครับ!” เขาเอ่ยด้วยเสียงที่นุ่มทุ้มสุภาพหากแต่แฝงไว้ด้วยนัยชนิดหนึ่งเอาไว้ “ทำเป็นปากดี แล้วนี่กินยาด้วยหรือเปล่า” คุณกันทิมาทำเสียงขึ้นจมูก นึกเคืองที่ชายหนุ่มไม่ยอมบอกเรื่องคอขาดบาดตายให้กับเธอได้ทราบแถมยังปิดมันซะมิด ถ้าหากคุณบัญชาไม่บอกเธอก็คงไม่รู้อย่างแน่นอน “แล้วคุณอารู้จักบ้านของผมได้ยังไงครับ” ชายหนุ่มพยายามที่จะข่มน้ำเสียงถามชายชราตรงหน้าด้วยเหตุผลที่ว่าชายคนนี้รู้จักบ้านของเขาได้ยังไงทั้งๆ ที่ทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ขณะที่ชายชราได้แต่เปิดยิ้มอย่างอารมณ์ดี กลับไม่สะทกสะท้านต่อสายตาที่คมกล้าของชายหนุ่มที่มองมาสักนิด “ใครๆ ต่างรู้จักนักธุรกิจคนดังระดับประเทศอย่างคุณรังสรรค์ สินทราปณาวุธ ส่วนบ้านของคุณรังสรรค์ ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าอยู่ที่ไหนผมสอบถามคนแถวนี้ดูก็รู้แล้วครับว่าเป็นหลังนี้ คือที่ผมกับลูกสาวมาในวันนี้ก็เพื่อที่จะมาขอบคุณ คุณคิมหันต์ที่ช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้นะครับ” คุณบัญชาเอ่ยแทรกขึ้นเมื่อเขารู้สึกผิดเหมือนกันที่ทำให้ชายหนุ่มต้องได้รับบาดเจ็บ “ใช่ค่ะ เจนนี่ก็ต้องขอขอบคุณ อีกคนนะคะ” เสียงหวานใสได้ดังขึ้นพร้อมกับแววตาอันสดใสที่ได้จ้องสบกับตาของชายหนุ่ม คิมหันต์รู้สึกปั่นป่วนขึ้นมาภายในหัวใจเมื่อสองตาที่แข็งกร้าวของเขาได้จ้องสบกับหญิงสาวที่สามารถละลายทิฐิทั้งหมดในดวงตาของเขาให้ลดลงได้ในพริบตา แววตาที่หวานซึ้งของเธอเต็มไปด้วยความห่วงใยจากส่วนลึก ที่เริ่มจะก่อตัวขึ้นมาทุกขณะ “เออ นี่ครับของขวัญแทนการขอบคุณของพวกเรา” คุณบัญชารับกระเช้าผลไม้มาจากบุตรสาวก่อนจะส่งยื่นให้กับชายหนุ่ม ขณะที่คิมหันต์ยิ้มรับ เอื้อมมือกระเช้ามาวางไว้ข้างๆ ตามมารยาท “ไม่ต้องถึงขนาดนี้ก็ได้ครับคุณอาบัญชา ที่ผมทำไปก็เพราะอยากช่วยในฐานะเพื่อนร่วมโลกคนหนึ่งที่เห็นผู้อื่นถูกทำร้ายจำเป็นที่จะต้องยื่นมือเข้าไปช่วย ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นใครผมก็ต้องช่วยเหลือทุกคน จะให้ผมนิ่งเฉยให้คุณอาตายไปฟรีๆ ได้ยังไง! ใช่ไหมครับ!!” เสียงนุ่มหากแต่แฝงไว้ด้วยเจตนาชนิดหนึ่งดังขึ้นจากริมฝีปากของชายหนุ่มจนทำให้คุณบัญชารู้สึกหนาวสะท้าน ร้อนวูบวาบไปทั่วโครงหน้า แต่กระนั้นเขาก็ยังเก็บความรู้สึกทั้งหมดลงได้แล้วเปิดยิ้มออกมา “จริงด้วยครับ โอกาสหน้าผมคงจะได้มีโอกาสตอบแทนพระคุณของคุณบ้างนะครับ” ชายผู้มีอายุแห่งตระกูลไพศาลสุรวุทเอ่ยขึ้นจากใจจริง “ครับ คุณอาต้องมีโอกาสตอบแทนผมแน่! สักวันหนึ่ง...อย่างแน่นอน!!!” เขาพยายามเค้นน้ำเสียงให้เป็นปกติอย่างยากเย็น “เอ่อผมคงต้องขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ รู้สึกปวดแผลขึ้นมาแล้ว” เขาหาทางเลี่ยงออกไปเพราะเริ่มจะควบคุมความรู้สึกจากส่วนลึกเอาไว้ไม่ไหว แต่ในเวลานั้นเสียงของเจนจิราก็ได้ดังขึ้นอย่างเป็นห่วงทำให้เขาหันกลับมาอีกครั้ง “หายไวๆ นะคะ แล้วอย่าลืมกินยาด้วยนะ” ชายหนุ่มหันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ ก่อนจะเดินออกไปในที่สุด ประตูห้องถูกปิดกระแทกอย่างแรง คิมหันต์เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยอารมณ์ขุ่นขวาง เขาส่องใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเองกับกระจก ในมือมีผลส้มอยู่ผลหนึ่งที่เขาหยิบมันติดมือมาด้วย “ของขวัญแทนการขอบคุณ!!!” น้ำเสียงเยือกเย็นหลุดจากริมฝีปากได้รูปของชายหนุ่มก่อนที่เขาจะค่อยๆ เกร็งมือบีบส้มผลนั้นจนแหลกเละคามือ!! ใบหน้าที่จ้องนิ่งอยู่บนกระจกแลดูจะสะใจเต็มทีที่เห็นเศษส้มบนฝ่ามือ แววตาที่คมกล้าแลมองมันอย่างไม่แยแสว่ามันจะมีค่าเลยสักนิด… หลายๆ ชีวิตกำลังดิ้นรนทำมาหากินด้วยความขยันขันแข็ง ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่มีทางที่จะได้เงินมาเลี้ยงชีพตนและครอบครัวได้ หนึ่งเดือนผ่านไปพื้นที่ทำเลที่ทางบริษัท พิชัยพาณิชย์ ซึ่งได้จ้างวานให้เหมันต์ดำเนินการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ บัดนี้โครงสร้างของตัวอาคารได้ก่อสร้างและลงเสาเข็มแล้ว ขนาดพื้นที่ควบคุมการก่อสร้างจึงชัดเจนมากยิ่งขึ้น สถานก่อสร้างแห่งนั้นบัดนี้ได้เต็มไปด้วยบรรดาคนงานก่อสร้างที่กำลังขนปูน และทำการก่อสร้างอาคารตามแบบที่ถูกกำหนดมาอย่างขยันขันแข็ง ในเวลานั้นรถทรงยุโรปสีดำสนิทของเหมันต์ก็เคลื่อนเข้ามาในสถานที่ก่อสร้างและจอดลงไม่ห่างจากตรงนั้นมากนัก จากนั้นร่างสูงสมสัดส่วนก็ก้าวลงมาพร้อมกับชายผู้คุมงานคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามาต้อนรับ “สวัสดีครับคุณเหมันต์ วันนี้มาแต่เช้าเลยนะครับ” ชายคนนั้นเอ่ยถามด้วยท่าทางกันเอง “ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ เขาแหงนมองโครงสร้างตัวอาคารที่กำลังดำเนินการสร้างอยู่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “วันนี้ลูกค้าจะมาดูสถานที่ ผมก็เลยจะมาเตรียมตัวไว้ก่อน” “วันนี้ ทางนั้นจะมาเองหรือครับ” ชายผู้รับเหมาถามอย่างแปลกใจ “ใช่ วันนี้ทางนั้นเขาจะมาตรวจความคืบหน้าของการสร้างอาคารนะ นายเตรียมตัวต้อนรับเธอด้วยนะ” ชายหนุ่มบอกเสียงแจ่มใส พลันนั้นเขาก็อมยิ้มออกมาได้เมื่อใบหน้าสวยของรังสิยาฉายออกมาให้เห็นอย่างไม่ได้ตั้งใจ “คุณเหมันต์บอกว่าเธอ เป็นผู้หญิงหรือครับที่จ้างวานเรา” “เปล่าหรอก เธอเป็นเลขาของคุณพิชัยนะ คุณรังสิยาได้รับมอบหมายให้มาดูแลในเรื่องนี้โดยเฉพาะ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับเดินเข้าไปในสถานที่ก่อสร้าง แต่ก่อนที่เขาจะเดินจากไปก็ได้หันมาบอกผู้รับเหมาอีกครั้ง “อ้อ เดี๋ยวถ้าคุณรังสิยามาถึง นายช่วยพาเธอเดินไปหาผมทางด้านโน้นด้วยนะ” "ไม่ต้องหรอกครับคุณเหมันต์ เธอมาถึงแล้ว" เสียงจากลูกน้องฉุดดึงให้เหมันต์หยุดก้าวเดินไปข้างหน้า เขาหันกลับมาเมื่อเห็นรังสิยาที่ก้าวลงจากรถเขาจึงรีบเดินเข้าไปต้อนรับในทันที "แหม มาแต่เช้าเลยนะครับ คุณรังสิยา" เขาส่งยิ้มไปให้กับเธออย่างเป็นมิตร หากแต่หญิงสาวกลับไม่ยอมเอื้อมรับ ใบหน้าของเธอเรียบเฉยและทักทายเขาพอเป็นพิธี "ค่ะ สวัสดี" เธอเดินถือแฟ้มเอกสารมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของอีตาขี้เก๊ก ที่มักจะเก๊กหน้าหล่อทุกครั้งที่เจอหน้าของเธอ เธอเบื่อเหลือเกินกับใบหน้านี้ ถ้ามีความสามารถหรือมีมนต์วิเศษเธอจะเปลี่ยนหัวให้กับนายคนนี้ให้อย่างฟรีๆ เลย "ว่าแต่คุณพร้อมหรือยังครับคุณรังสิยา คนสวย" เหมันต์หยอดคำหวานในตอนท้าย จนทำให้ใบหน้าสวยบึ้งตึงขึ้นมาในทันที อะไรจะกันนักกันหนากับฉันฮึ นายเหมันต์ฉันอุตส่าห์ทำตัวเฉยๆ แล้วยังจะมายั่วให้ฉันโกรธอีก หญิงสาวเอ็ดด่าเขาอยู่ในใจ ก่อนจะเชิดหน้าเอ่ยบอกเสียงเรียบ "ฉันพร้อมตั้งแต่ที่มาถึงแล้วล่ะ รอแต่นายนี่แหละว่าจะพาฉันไปตอนไหนไม่ใช่จะมาพูดแทะโลมฉันอยู่แบบนี้" "แหะๆ ผมไม่ใช่หนูนะครับคุณรังสิยา ถ้าอย่างนั้นตามผมมาเลยครับ" ชายหนุ่มยิ้มและผายมือเชื้อเชิญให้หญิงสาวเดินตามเข้าไปภายในสถานที่ก่อสร้าง เหมันต์เดินมาหยุดอยู่ที่รถของเขาอีกครั้งเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ "ก่อนเข้าไปในสถานที่ก่อสร้างจะต้องระมัดระวังให้มาก อ่ะนี่หมวกนิรภัยครับ" เหมันต์หยิบหมวกนิรภัยสีเหลืองจากลูกน้องคนหนึ่งที่ยืนรอท่ามาส่งให้กับหญิงสาว "อือ เรื่องนี้ฉันรู้ดี ขอบใจนะ" เธอเอ่ยขอบใจและรับหมวกขึ้นมาสวมก่อนจะเดินตามเหมันต์เข้าไปภายในสถานที่ก่อสร้าง ทั้งสองหนุ่มสาวเดินไปตามเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้อย่างระมัดระวัง รังสิยาจดบันทึกรายงานต่างๆ ที่เธอต้องการไปเรื่อยๆ ตามคำบรรยายประกอบของเหมันต์ที่รายงานบอกเธอด้วยน้ำเสียงสุภาพ จนเวลาผ่านไปทุกสิ่งทุกอย่างก็สิ้นสุดลง รังสิยาตั้งใจว่าเมื่องานเสร็จจะแยกตัวออกไปในทันทีเพราะไม่อยากจะรบกวนเหมันต์ที่กำลังสั่งงานเหล่าลูกน้องอยู่ ด้วยความที่เธอไม่ชินต่อสถานที่หญิงสาวจึงเดินหลงมาอีกทางหนึ่งที่ไม่ใช่ทางเดียวกับที่เธอเดินเข้ามา ส่วนเหมันต์หลังจากที่ได้สั่งงานกับลูกน้องเรียบร้อยแล้ว เขาคิดว่าหญิงสาวจะยืนรอเขาและเดินออกไปพร้อมกัน หากแต่ในตอนนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น เขาจึงนึกเป็นห่วงเธอในทันที เพราะรังสิยาเป็นผู้หญิง อีกอย่างเธอก็ยังไม่เคยเข้ามาในที่นี่เขากลัวว่าเธอจะได้รับอุบัติเหตุจึงรีบเดินหาเธอในทันที "คุณรังสิยาครับ คุณรังสิยา!!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม