เขาเดินไปยืนข้างหลังเธอ แอชเชอร์วางมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะทำงานของเธอ ขังเธอไว้ระหว่างแขน และเขาก้มลงจูบเบาๆ ที่ปลายหูของเธอ
อิซาเบลล่าขยับตัวหนีจากการรุกรานของเขาอย่างรวดเร็ว แต่แอชเชอร์ป้องกันไม่ให้เธอหลบหนีด้วยแขนทั้งสองข้าง
“คุณกำลังทำบ้าอะไร!” เธอตะโกนถามขึ้นมาด้วยความโกรธ หันไปหาเขาด้วยความไม่พอใจ
“ไปให้พ้นฉันนะ! ฉันกำลังพยายามทำงานให้เสร็จ!”
“เมื่อคืนฉันลืมแจ้งให้เธอทราบว่าการนำเสนอเลื่อนไปเป็นวันจันทร์” เขาพูดขณะที่เขาจับแขนของเธอครั้นเธอพยายามจะตบเขา เขายิ้มให้เธอ “มันไม่ใช่ความผิดของฉัน เพราะเธอโกรธฉันมาก ฉันเลยไม่ได้บอกเธอ”
“ปล่อยฉันนะ!” เธออ้อนวอนและพยายามดึงแขนของเธอออก
อิซาเบลล่าหอบเมื่อเขาหมุนเก้าอี้ของเธอไปหาเขา นั่นทำให้เธอนั่งตัวตรงอย่างเกร็ง ๆ
เมื่อเขาวางมือทั้งสองข้างลงบนที่วางแขน แล้วก้มลงมองสบตากับเธออย่างข่มขู่
“ตามที่ฉันสัญญาไว้ แผนงานที่ลูกค้าเลือกจะได้รับรางวัล สำหรับผลงานออกแบบล็อบบี้และห้องชุด Presidential Suite” เขาพูดอย่างใจเย็นมองเธอด้วยรอยยิ้มขบขัน “เธอต้องการอะไรเบลล่า?”
“ฉันต้องการให้คุณปล่อยฉัน!” เธอรีบตอบ “นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ!”
“ฉันเกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้” เขาตอบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และทำหน้าเศร้า “มาเถอะ ฉันเป็นสามีของเธอนะ ฉันสามารถให้เธอได้ทุกอย่างที่เงินซื้อได้ เธอชอบรถสปอร์ตที่เธอสามารถขับไปแข่งได้ใช่หรือเปล่า เธอจะเอากี่คัน? เครื่องประดับ? บ้านใหม่เหรอ? ทุกอย่างที่เธอต้องการภรรยาตัวน้อยของฉัน ฉันจะให้เธอทุกอย่าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงกระเส่าชิดริมหูของเธอ
“คุณไม่ได้ทำตัวเป็นสามีที่ดี คุณมันผู้ชายสำส่อน ฉันขยะแขยงคุณ ไอ้คนทุเรศ!” เธอพูดอย่างไม่พอใจ ยังคงดิ้นรนที่จะออกจากวงแขนของเขา
แอชเชอร์ค่อนข้างพอใจกับคำพูดนั้นของเธอ
“ภรรยาตัวน้อยของฉันหึงหวงสิ่งที่เห็นเมื่อคืนนี้หรือเปล่า?” เขาส่งเสียงพอใจที่ได้แกล้งเธอ ก่อนที่จะขยับใบหน้าไปใกล้เธอมากขึ้นและจูบเธออย่างรวดเร็วทำให้เธออยากตบเขา “อย่างน้อยตอนนี้ฉันสามารถสรุปได้ว่าเธอเป็นมนุษย์ ที่ยังมีความรู้สึกไม่ใช่เอาแต่ทำหน้าเย็นชาใส่ฉัน”
“ปล่อยฉันนะ!” เธอตะโกนใส่เขาและเตะเข้าที่ขาเขาอย่างแรง
อิซาเบลล่าได้ยินเสียงเขาคำราม เธอรีบลุกขึ้นยืนเมื่อเขาปล่อยมือเธอเป็นอิสระแล้วรีบวิ่งไปที่ประตู เธอกำลังจะกรีดร้องออกมาแต่ถูกขัดจังหวะเมื่อเขาเอามือมาปิดปากเธอไว้ทัน ความกลัวทำให้เธอตัวสั่นเทาขณะที่มองไปที่เขา
"นรก!” เขาสบถเสียงดังเมื่อสบตากับเธอที่หวาดกลัวเขาอย่างเห็นได้ชัด “ฉันจะเอามือออกแต่เธอห้ามกรีดร้อง โอเคไหม?”
เธอพยายามดึงแขนออก แต่แอชเชอร์จับเธอไว้แน่น
“เอรินาจะมาถึงในอีกสามสิบนาที” เขาพูดอย่างอดทน “ฉันแนะนำให้เธออธิบายรายละเอียดทั้งหมดที่เธอวางแผนไว้ เพื่อที่พวกเราจะสามารถสรุปโครงร่างสีได้" อิซาเบลล่าพยักหน้าขึ้นลง
แอชเชอร์จึงปล่อยมือและเดินไปที่โต๊ะทำงานของเขา
……
อิซาเบลล่ากำลังฟังเอรินาอธิบายอย่างตั้งใจขณะที่พวกเขาดูการนำเสนอของเธอและเธอเริ่มอธิบายเกี่ยวกับวัสดุในขั้นตอนสุดท้าย เช่นเดียวกับโครงร่างสี แอชเชอร์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน กำลังทบทวนสัญญาที่เลขาเอามาให้ตรวจสอบห้องนอนหลานสาวคุณคาร์สัน เขาวางสัญญาไว้บนโต๊ะแล้วจ้องมองไปที่เธอ ในขณะที่เธอแก้ไขให้ตรงตามที่เอรินาเสนอแนะมา พร้อมกับลงรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมลงไป ทั้งสองทำงานกันอย่างหนักมากว่าสองชั่วโมงที่ผ่านมา แอชเชอร์ส่งข้อความส่วนตัวหาเลขาของเขาเพื่อสั่งอาหารกลางวันมาให้พวกเขา
“เธอเรียนภาษามือเมื่อไหร่” จู่ ๆ เขาก็ถามภรรยาขึ้นมา
เธอมีอาการขุ่นเคืองเล็กน้อยในดวงตาของเธอ เพราะเขาขัดจังหวะการทำงานของเธอ
“แด๊ดของฉันถูกผ่าตัดเอากล่องเสียงออก และเขาไม่สามารถพูดได้ ตอนอยู่โรงพยาบาลได้สองเดือน” เธอตอบแล้วหันกลับมาที่คอมพิวเตอร์ของเธอต่อ
“นั่นคือเหตุผลที่เธอไปเรียนภาษามือเหรอ?” เขาถามอีกครั้ง
แอชเชอร์เห็นเอรินามองเขาอย่างโมโหจากด้านหลังอิซาเบลล่า
“ใช่และถ้าในกรณีที่ฉันเสียเสียง ฉันก็ยังรู้วิธีสื่อสารกับคนอื่นได้” ในที่สุดอิซาเบลล่าก็ตอบโดยไม่มองหน้าเขา “แด๊ดมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก เขาอ่อนแอเกินกว่าจะเขียนอะไรได้ เขาพยายามจะพูดกับฉัน” เสียงของอิซาเบลล่าสะดุดเล็กน้อยอย่างเศร้าใจเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แอชเชอร์เห็นสีหน้าของเธอ เขาเลยเอ่ยขึ้นเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“งานเป็นไงบ้าง” เขาถามเปลี่ยนเรื่องขณะที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเธอ
“นายคิดว่ากระเบื้องตัวไหนดีกว่ากัน?” เอรินาถามอย่างใจเย็น “ตัวที่มีเส้นสีดำหรืออีกแบบที่มีริ้วทอง?”
“คิดว่าไงเบลล่า?” แอชเชอร์ถามขึ้นมา
“ฉันแนะนำริ้วทองค่ะ” อิซาเบลล่าตอบ สายตาของเธออยู่บนหน้าจอ แอชเชอร์มองเอรินาเมื่อเขาเห็นเธอยิ้มเยาะหลังจากที่ได้ยินอิซาเบลล่าตอบ
“ถ้างั้นก็เลือกริ้วทอง” เขาพูดด้วยความรำคาญ “นรกเถอะเอรินาเธอจะถามฉันทำไมถ้าเธอมีคำตอบในใจอยู่แล้ว!”
“ฉันก็แค่ถามดูว่านายตั้งใจฟังหรือเปล่า” เอรินาพูดอย่างไร้เดียงสา “อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเตรียมนำเสนอทั้งหมดกำลังจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว วันนี้พวกเรามีเวลาว่างพอจะทำโมเดลบ้างหรือเปล่าเบลล่า? เบลล่าบอกว่าเธอจะทำโมเดลห้องชุดเอง เดี๋ยวฉันจะไปหาคนมาทำโมเดลล็อบบี้”
“จัดการตามที่เธอเห็นสมควรเถอะ” แอชเชอร์เห็นด้วย
“พรุ่งนี้ฉันจะไม่ให้เธอมาทำงาน” เอรินามองไปที่อิซาเบลล่าที่ดูอ่อนล้ามาก “จะดีกว่าถ้าเธอทำงานที่ห้องจะได้ไม่มีสิ่งรบกวน เรื่องวัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ ฉันจะให้เธอจัดการเอง”
เมื่อได้ยินว่าอิซาเบลล่าจะไปแผนกที่เจมส์ทำงานอยู่ในภายหลัง ใบหน้าของแอชเชอร์ก็แข็งกร้าวขึ้นมา
“ส่งรายละเอียดมาให้ฉัน!” เขาพูดเสียงดังเหมือนตะคอกทำให้ผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ประหลาดใจกับท่าทีของเขาที่เปลี่ยนไปแบบกะทันหัน “ฉันจะให้คนของฉันเตรียมอุปกรณ์และส่งให้เธอถึงห้องเอง”
อิซาเบลล่ามองเขาอย่างรำคาญ ขณะที่เอรินามองเขาด้วยความสงสัย
ก่อนที่เอรินากำลังจะถาม เสียงเคาะประตูห้องทำงานก็ดังขึ้น แคลร์เข้ามาพร้อมกับผู้ช่วยของเธอ นำอาหารจากร้าน Top Up Palace ซึ่งเป็นร้านโปรดของแอชเชอร์เข้ามา
“ขอบคุณครับแคลร์” เขาพูดพร้อมพยักหน้าให้เลขาวางอาหารไว้บนโต๊ะ
“ไปกินข้าวกันก่อนเถอะเบลล่า” เอรินาพูดหลังจากมองดูนาฬิกาที่ดูจะเที่ยงกว่าแล้ว
อิซาเบลล่ามองไปที่อาหารบนโต๊ะ
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันสัญญากับทอมไว้แล้วว่าวันนี้ฉันจะไปกินข้าวกับเขา” เธอตอบอย่างแผ่วเบา “วันนี้เป็นวันเกิดเขา และพวกเรารวมตัวกันเพื่อซื้อเค้กให้เขาด้วยค่ะ”
“เธอกำลังปฏิเสธคำเชิญทานอาหารกลางวันจากซีอีโออย่างนั้นเหรอเบลล่า!” แอชเชอร์ถามด้วยความไม่พอใจที่โดนปฏิเสธ เขาอุตส่าห์สั่งอาหารมากมายมาเพื่อเธอ
“ฉันตอบรับคำเชิญเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว” อิซาเบลล่าอธิบายอย่างใจเย็น
เอรินาโบกมือข้างหนึ่งให้อิซาเบลล่า “ไปเถอะเบลล่า” เธอพูดเบา ๆ พร้อมกับกระทุ้งข้อศอกใส่แอชเชอร์เพื่อให้เขาเงียบ “แค่กลับมาตรงเวลาก็พอ”
“ขอบคุณค่ะ คุณเอรินา” อิซาเบลล่าตอบแล้วออกเดินไป