“ฉันเห็นสีหน้าเธอมีความสุขมาก ตอนกินแอปเปิ้ลน่ะ”
เข็มหอมหน้าสลดลงอีกครั้ง
“ฉันไม่ได้ชอบแอปเปิ้ลหรอก แต่ฉันไม่ได้กินผลไม้ดีๆ พวกนี้มานานมากแล้วต่างหากล่ะ ขอบใจคุณนะที่หิ้วมาฝาก ฉันคงมีความสุขกับพวกมันไปอีกหลายวันเชียวแหละ”
“บอกแล้วไงว่าให้กินไปเลย ไม่ต้องกลัวหมด พรุ่งนี้ฉันจะให้คนเอามาให้ใหม่”
“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่รบกวนดีกว่า”
เนโลคลิสทำท่าเหมือนจะแย้ง แต่ก็เงียบลง เข็มหอมที่ยืนกำธนบัตรที่ม้วนจนกลมในมืออยู่จึงเอ่ยปากไล่
“คุณกลับไปได้แล้วล่ะ เงินนี่ฉันจะรีบหามาใช้คืนนะ แต่ห้ามคิดดอกเบี้ยเด็ดขาด เพราะฉันคงไม่มีให้แน่ๆ” พูดจบเข็มหอมก็หัวเราะเบาๆ และโบกมือลา
“ลาก่อน”
“อืม ลา... แต่ไม่ใช่ลาก่อน”
เนโลคลิสพูดให้ชวนแคลงใจ ก่อนจะก้าวขึ้นรถและขับหายออกไปด้วยความเร็ว
เข็มหอมยกมือขึ้นเกาศีรษะด้วยความสับสน ก่อนจะไหวไหล่บอบบางน้อยๆ หมุนตัวกลับไปข้างใน แต่ระหว่างทางก็สวนกลับแขกสองคนที่เดินออกมาพอดี
“กลับแล้วหรือคะ”
“ไม่ต้องมาทำเป็นยิ้มเลย ย่าของเธอนะ มันเห็นแก่เงิน”
เข็มหอมที่ยิ้มๆ อยู่หน้าบูดทันที
“นี่พวกคุณอย่ามาว่าคุณย่าของฉันนะ”
“หรือไม่จริงล่ะ ขายที่ดินให้เศรษฐีต่างชาติเพราะอยากได้เงินเยอะกว่า แทนที่จะขายให้คนชาติเดียวกัน ไปกันเถอะ คุณโสภณ ยังมีที่ดินสวยๆ ราคาเบาๆ กว่าที่นี่อีกเยอะ”
“ใช่ครับ เราไปกันเถอะ”
สองคนนั้นหันไปเรียกกัน และเดินจากไป
เข็มหอมยืนมึนหนักกว่าเดิม “อะไรของคนพวกนี้นะ” เด็กสาวบ่นพึมพำ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหาอรณีอย่างต้องการคำตอบ
“คุณย่าขา เกิดอะไรขึ้นหรือคะ ทำไม?”
“มานั่งใกล้ๆ ย่านี่หอม” อรณีควักมือเรียกหลานสาว รอยยิ้มเกลื่อนใบหน้าแห้งเหี่ยว
เข็มหอมรีบคลานไปนั่งข้างๆ เก้าอี้ตัวยาวที่คุณอรณีนั่งอยู่ตามคำสั่ง ก่อนจะยื่นเงินให้กับคุณย่า
“ผู้ชายที่ชื่อเนโลคลิสให้ไว้ค่ะ เขาคงเวทนาเรา”
อรณีระบายยิ้ม มองหลานสาวอย่างเอ็นดู “หอมว่าคุณเนโลคลิสเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“เขาเหรอ...” แล้วเข็มหอมก็หยุดนิ่ง ทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะระบายยิ้มออกมาตามประสาเด็กสาวที่พบเจอคนถูกใจ “ก็หล่อดีนะคะ แถมใจดีด้วย แม้ว่าตอนทำหน้านิ่งๆ จะดูน่ากลัวไปหน่อยก็เถอะ”
“แล้วหอมชอบเค้าไหม”
“ชอบ?” เข็มหอมแปลกใจกับคำถามของอรณี
“ชอบแบบผู้หญิงชอบผู้ชายน่ะ”
แก้มนวลมีสีระเรื่อขึ้นโดยอัตโนมัติ อ้ำอึ้งไม่กล้าตอบ
“เดี๋ยวนี้หอมอายย่าแล้วเหรอ เมื่อสองวันก่อนหอมยังแก้ผ้าเดินออกมาจากห้องน้ำให้ย่าเห็นอยู่เลย”
“คุณย่าพูดอะไรก็ไม่รู้” เด็กสาวขัดเขินจนต้องบิดตัวไปมา
อรณีอมยิ้ม “ไหนบอกย่ามาสิว่าชอบคุณเนโลคลิสหรือเปล่า”
“ก็...” แก้มแดงก่ำ
“ก็ชอบนิดหน่อยน่ะค่ะ”
คนฟังหัวเราะแผ่วเบา “งั้นย่าจะได้สบายใจที่ไม่ได้ฝืนใจหอม”
“คุณย่าหมายความว่าอะไรเหรอคะ”
อรณียิ้มกว้าง คว้ามือเล็กของหลานสาวมากุมเอาไว้ “ย่าแก่แล้ว ไม่รู้จะอยู่ได้อีกกี่เดือนกี่ปี ความหวังสุดท้ายของย่าก็คือหอมจะต้องมีคนที่ดีคอยดูแล”
“คุณย่าอย่าพูดแบบนี้สิคะ คุณย่ายังแข็งแรงอยู่เลย” คนพูดเสียงเริ่มสั่นเครือ
“หอม... เกิดแก่เจ็บตายน่ะมันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์เรา ย่าใช้ชีวิตบนโลกมาแปดสิบสี่ปีแล้วนะ ถ้าจะตายก็ไม่เสียชาติเกิดแล้วล่ะ ห่วงก็แต่หลานรักของย่าเท่านั้น”
“คุณย่า ไม่พูดนะคะ หอมไม่อยากฟัง...” คราวนี้เข็มหอมน้ำตาร่วงกราว ซบหน้ากับตักของอรณีอย่างเสียใจ
“ฟังย่านะ หอมจะต้องจดทะเบียนสมรสกับคุณเนโลคลิส”
“คุณย่า?!”
นี่มันอะไรกัน ทำไมจู่ๆ คุณย่าถึงพูดกับหล่อนแบบนี้
“ย่าตกลงกับคุณเนโลคลิสเรียบร้อยแล้วล่ะ หอมไม่ต้องเป็นกังวล”
“คุณย่าคะ คือว่า...”
“ทุกอย่างถูกกำหนดเอาไว้แล้ว หอมจะมีความสุขกับสิ่งที่ย่าได้เลือกไว้ให้”
“ไม่นะคะคุณย่า... หอมจะมีความสุขก็เพราะได้อยู่กับคุณย่าเท่านั้น หอมจะไม่จดทะเบียนกับใครหรอกค่ะ” เด็กสาวร่ำไห้ร้องค้าน
อรณีลูบศีรษะหลานสาวอย่างเอ็นดู รู้ตัวดีว่าเวลาของตนเองใกล้จะหมดลงทุกทีแล้ว
“นี่คือความฝันสุดท้ายของย่า อย่าทำให้ย่าเสียใจเลยนะหอม”
“คุณย่า...”
เด็กสาวเงยหน้าขึ้นจากตัก และมองหน้าของหญิงชราที่สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนทั้งน้ำตา
“แต่เขาคงไม่อยากแต่งงานกับหอมหรอกค่ะ...”
“ทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี หอมไม่ต้องกังวลนะลูก ทำตามที่ย่าขอก็พอ ทำให้ย่าได้ไหม แค่นี้น่ะ”
เข็มหอมร่ำไห้ก่อนจะผงกศีรษะตอบรับ “ได้... ได้ค่ะ คุณย่า หอมยินดีทำทุกอย่างเพื่อคุณย่าค่ะ”
อรณียิ้มทั้งน้ำตากอดหลานสาวเอาไว้แน่น
เข็มหอมน้ำตาริน พลางนึกไปถึงคำพูดของเนโลคลิสก่อนที่เขาจะกลับไปอีกครั้ง
‘อีกหน่อยเราสองคนก็จะไม่ใช่คนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน รับไปซะ’
เพราะอย่างนั้นสินะเนโลคลิสถึงพูดแบบนั้นกับหล่อน