จนกระทั่ง...
พราวเดือนรู้แล้วละว่า เพราะอะไร เสี่ยเวทินถึงได้เต็มไปด้วยพลัง มีอยู่วันหนึ่งที่เธอถึงกับกลืนน้ำลายฝืดคอ เมื่อเห็นอาการตื่นตัวของแกนกาย
เธอเป็นคนจัดการเรื่องผ้าอ้อม ดูแลทำความสะอาดทั้งตัวตั้งแต่แรก ๆ เพราะฉะนั้นจึงได้เห็นทุกสัดส่วนของเขา
อลังการงานสร้าง!
ไม่คิดว่าผู้ชายวัยขนาดนี้จะมีอาวุธน่าสะทกสะท้านหัวใจได้ถึงเพียงนี้
ยิ่งระยะหลัง วาทิตแทบจะไม่ได้เอาใจใส่เธอ เขาแสดงความไม่เอาไหน แต่ละวันหมดไปกับเหล้า บุหรี่ ร่างกายทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงเท่านั้น ยังโมโหฉุนเฉียวจนเข้าใกล้ไม่ได้ บ่นเพ้อแต่เรื่องราวที่ผ่านมาแล้ว แต่ไม่เคยคิดจะลุกขึ้นมาเพื่อจัดการทุกอย่างให้มันดีขึ้น
โรงงานเหลือโรงเล็ก ๆ แห่งเดียว คนงานสิบกว่าคน ที่นี่...พราวเดือนเข้าไปจัดการจนกระทั่งสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับพวกคนงาน คนเหล่านั้นพร้อมจะทุ่มเท ยอมล้มลุกคลุกคลานไปด้วยกัน พราวเดือนก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งในการปลุกปลอบกำลังใจของพวกเขา แต่ลึก ๆ แล้วคนงานผูกพันกับเจ้านายเก่าอย่างเสี่ยเวทินมากกว่า
แม้ในยามรุ่งเรืองสุดขีด เสี่ยก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงโรงงานแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นในชีวิตธุรกิจของเสี่ย กล่าวคือไม่ยุบไปรวมกับที่อื่น ๆ
คนเก่าแก่สามารถอยู่ต่อ ที่นี่ผลิตสินค้าเต็มศักยภาพ ด้วยแรงงานคน ไม่มีเครื่องจักรเข้ามาเกี่ยวข้องมากนัก
เงินเดือนสวัสดิการต่าง ๆยังคงมีเหมือนเดิม
แม้แต่ในยามนี้ก็ตาม จนคนงานเองนั่นแหละที่ต้องเข้ามาขอลดเงินเดือนของพวกเขาลง เพื่อจะช่วยให้ทุกอย่างมันดีขึ้นโดยเร็ว
การเห็นอกเห็นใจกันในยามยาก ถือว่าเป็นเรื่องดีงามที่สุดของชีวิต ทว่า...วาทิต ผู้ที่ควรจะเข้ามาทุ่มเทให้กับโรงงานที่เหลือ กลับยังติดอยู่ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว และไม่มีวันกลับไปได้เหมือนเดิมอีกแล้ว นอกจากฮึดสู้เพื่อสร้างขึ้นมาใหม่
กำลังใจของเขาไม่มีหลงเหลือ ทั้ง ๆที่มีผู้หญิงอย่างพราวเดือนที่พร้อมจะล้มลุกคลุกคลานไปด้วยกัน
เรื่องบนเตียงระหว่างพราวเดือนกับวาทิตยิ่งห่างเหินไปโดยปริยาย
เขาไม่แตะต้องเธอเลย!
ขณะที่อีกคนตรงกันข้าม
คุณเวทิน... เวลานั้น ยังพูดไม่คล่อง แต่สามารถลุกขึ้น ทำกายภาพบำบัดได้บ้างแล้ว อาการดีวันดีคืนอย่างเหลือเชื่อ
มีอยู่วันหนึ่ง วาทิตทะเลาะกับพราวเดือนก่อนจะขับรถออกจากบ้านไป พราวเดือนกลั้นสะอื้น เวลานี้ความทุกข์ยากทั้งหมดประเดประดังถาโถมเข้ามาในชีวิตของเธอไม่รู้จักจบจักสิ้น ยังคงต้องรับมือกับเจ้าหนี้ ยังต้องมีการเจรจา กลับต้องมารับมือกับอารมณ์แปรปรวนฉุนเฉียวของวาทิตอีก นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงเปิดตูดเผ่นไปนานแล้ว
ความทุกข์มากมายที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตในห้วงเวลานี้ ทำให้พราวเดือนถึงกับน้ำตาคลอ เธอดื่มเข้าไปจนมึน อารมณ์เริ่มเย็นลงจึงเริ่มคิด
ยังมีอีกคนรอเธออยู่
เสี่ยเวทิน!
จริงอย่างที่คิด
“พ่อนึกว่าหนูจะหนีพ่อไปแล้ว”
คำพูดตะกุกตะกักที่เล็ดลอดออกมาจากปากของพ่อผัว หัวใจนักสู้ ทำให้พราวเดือนอดน้ำตาคลอไม่ได้
“ไม่ค่ะ หนูจะอยู่กับพ่อ”
พราวเดือนเข้าไปโอบกอดร่างของเสี่ยเวทิน หลังจากนั้น พ่อผัวกับลูกสะใภ้ก็ปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาเองจากความรู้สึกคับแค้นที่ซ่อนอยู่ข้างใน
“ผมจะไปจากที่นี่”
วาทิตเอ่ยกับพราวเดือนในอีกหลายวันต่อมา ท่าทางของเขาดูแย่มาก ไม่เหมือนเดิม สายตาของเขาไม่เหลือความเป็นคนหนุ่ม ผู้ที่พร้อมจะสานต่อกิจการของพ่อ ไม่เหลือความเป็นผัวที่พร้อมจะเคียงคู่ไปกับพราวเดือน
“คุณจะไปไหนคะ”
“ที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ที่นี่”
“แล้วฉันล่ะคะ คุณพ่อล่ะคะ”
“ผมไม่รู้ ผมไม่รู้”
วาทิตจากไปจริง ๆ เหมือนทิ้งทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลัง โดยไม่มีใครสามารถทัดทานได้ มันคือการตัดสินใจที่ทำให้พราวเดือนเจ็บปวดอย่างที่สุด