6
เวฬุกาอยากจะร้องไห้ กลัวหรือก็กลัว เกิดความแปลกในร่างกายก็ใช่ ทำอะไรไม่ถูก เมื่อถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง กลีบปากอวบอิ่มเผยอแย้มจะร้องห้ามปรามกลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้ปลายลิ้นสากระคายและร้อนผ่าวสอดแทรกล่วงล้ำเข้าไปภายใน พลิกพลิ้วเกี่ยวกระหวัดกับปลายลิ้นเล็กยื่นมาขับไล่สิ่งแปลกปลอมออกไป
แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันจะทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เรือนกายสั่นสะท้านไหวหวิวด้วยลูกไฟเล็กที่เริ่มจะก่อตัวขึ้นกึ่งกลางเรือนกาย แต่หญิงสาวก็ยังจะพยายามดึงสติให้กลับคืนมา ข่มกัดฟันเพื่อจะกัดลิ้นสากระคายที่ท่องเที่ยวเลี้ยวลดไปทั่วโพรงปากนุ่ม แต่กลับต้องเจ็บร้าวน้ำตาเกือบจะหยดไหลออกจากสองตา
“หือ...ฤทธิ์มากใช่เล่นเลยนะเธอนี่” จอห์นสันหัวเราะหึหึในลำคออย่างชอบใจ มือใหญ่บีบกระชับปลายคางมนและแก้มนุ่มเต็มแรง จนรอบปลายนิ้วผิวขาวนวลเนียนถึงกับแดงระเรื่อขึ้นมา
“ฉันจะทำยังไงกับคนฤทธิ์มากอย่างนี้ หืม...” แล้วริมฝีปากหนาทาบทับขบกัดเรียวปากนุ่มอวบอิ่มลงแรงไปอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นการลงทัณฑ์เต็มๆ เล็กน้อยให้หญิงสาวรู้จักกับคำว่าเจ็บ
“เธอยิ่งขัดขืนต่อต้านมากเท่าไหร่ ฉันยิ่งสนุกที่จะได้สัมผัสเธออย่างนี้”
ขบกัดกลีบปากบางนุ่มแรงๆ ตวัดปลายลิ้นลากไล้ตามความยาวนุ่มของกลีบปากบาง มือใหญ่อีกข้างเคลื่อนไปทาบทับบนสัดส่วนกายสาวอวบอิ่มใหญ่อลังการ นุ่มหยุ่นและเหมาะกับมือใหญ่ของเขามาก คลึงเคล้นไม่หนักมากแต่ก็ไม่ได้เบามือ ปลุกปั่นอารมณ์ปรารถนาในกายสาวให้มันร้อนเป็นเพลิงไฟ
เพราะไม่เคย เธอเลยอ่อนระทวยในสิ่งใหม่ที่ได้สัมผัสอย่างรวดเร็ว แล้วดูเหมือนจะเป็นการดีเสียมากกว่า
เพราะทำให้ไอ้บ้าได้ใจและลืมตัวไป เลยเป็นโอกาสให้เธอดึงสติกลับมาทำอย่างหนึ่งได้...ฝ่ามือเล็กข้างหนึ่งยกขึ้นจับมือใหญ่ที่ป่ายปัดให้ออกห่างไปจากส่วนที่ทำให้เธออ่อนไหว ก่อนที่มืออีกข้างจะ...
เผียะ!!!
สะบัดใส่ใบหน้าคร้ามดุจนหันตามแรงส่ง ก่อนจะยกทั้งสองมือดันกายใหญ่ให้ออกห่าง เพื่อที่จะหนีเอาตัวรอดจากไอ้คนฉวยโอกาส
โกรธ...แวบแรกที่ฝ่ามือเล็กๆ ฟาดถูกใบหน้า ปลายลิ้นสากระคายกระทุ้งกระพุ้งแก้มข้างที่ถูกตบ ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ขึ้นก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
‘คิดจะทำร้ายเขาแล้วหนีไปโดยไม่รับโทษหรือแม่ตัวดี ไม่มีทาง’ หันหลังกลับและก้าวเพียงเล็กน้อยก็ยื่นมือไปคว้าแขนแม่ตัวแสบฤทธิ์มากดึงกลับมาอย่างรวดเร็ว
“อุ๊บ!!” เวฬุกาไม่ทันจะได้ร้องขอความช่วยเหลือ เธอยังไม่ทันจะได้เตรียมใจและตั้งตัวด้วยซ้ำ ก็ถูกกระชากตัวกลับมาแล้ว ใบหน้าคร้ามดุกระด้างโฉบลงไปประทับบนเรียวปากนุ่มด้วยความเร็วและรุนแรง จนกลีบปากอวบอิ่มถึงกับช้ำพร้อมกับความเจ็บแปลบที่แทรกตามมา
น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นคลอเบ้าด้วยความตกใจและหวาดกลัวจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น พยายามเบี่ยงกายหนีแต่ก็ติดด้วยกายแกร่งบดเบียดมาอย่างแนบชิด ไม่เพียงแค่นั้นยังจะมีมือที่วาดไล้ไปบนกายอย่างหนักหน่วง รุนแรง เจ็บ...จนน้ำตาหยดไหล แต่ก็วาบหวิวท้องน้อยปั่นป่วนด้วยเพลิงไฟหมุนวนอยู่ภายใน
เวฬุกาจิกปลายเล็บบนท่อนแขนแข็งแกร่ง วงหน้าเพริดไปด้านหลัง กลีบปากอวบอิ่มสั่นระริกจากเพลิงไฟที่กระเซ้าหยอกเย้าอย่างหนักหน่วงไม่ให้ได้หายใจหายคอ สายลมอารมณ์ยังพัดพาอารมณ์วาบวูบไหวหวิวแล่นพล่านไปตามกระแสเลือดจนรับมือไม่ถูก
‘โถ...แม่หนูน้อย’ ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ ซุกไซ้ใบหน้าลงไปตามลำคอระหง กลีบปากหนาร้อนขบกัดผิวเนื้อเนียนนุ่มจนแดงเป็นจ้ำ จากที่คิดจะตรึงขาเรียวด้วยขาแข็งแกร่ง แต่ก็เปลี่ยนใจเป็นสอดแทรกเข้ามาอยู่กึ่งกลาง พร้อมดันขาเรียวยาวข้างหนึ่งให้ค่อยๆ แยกออกเล็กน้อยขาเรียวยาวก็ขยับเคลื่อนขึ้นไปพักบนขาใหญ่ กระโปรงสั้นกระชับร่างถอยร่นขึ้นไปพำนักอยู่บนต้นขาให้ชายหนุ่มได้บดเบียดความแข็งแกร่งที่ขยายตัวดันตัวกางเกงแนบชิดกับเนินเนื้อนุ่มนิ่ม ซึ่งตอนนี้มีเพียงจีสตริงบางเบาปกปิดอยู่
เวฬุกาถึงกับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวระคนวาบหวิว ด้วยกระแสไฟปรารถนาที่โอบล้อมรอบเรือนกาย เมื่อถูกคนที่เธอคิดว่าเป็นโรคจิตเล่นงานทั้งบนและล่างอย่างช่ำชอง อย่างนี้นะไม่ใช่แล้ว มันหาเรื่องเอาเปรียบกันเห็นๆ เสียมากกว่า หน้าท้องแบนราบเรียบไหวกระเพื่อมพอๆ กับหน้าอกหน้าใจขนาดน้องๆ ผลส้มโอที่ถูกเคล้นคลึงอย่างไม่เบามือ
“อย่า...อย่าทำฉันเลยนะ ได้โปรด” เว้าวอนห้ามปรามเสียงหวานแหบพร่า แต่เรือนกายกลมกลึงกลับบดเบียดเอนเข้าหาความอบอุ่นร้อนรุ่มในอารมณ์จนแนบชิดมากยิ่งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ฝ่ามือที่ไม่ถึงกับนุ่มนิ่ม แต่ก็ไม่ได้สากระคายสอดแทรกเข้าไปใต้ร่มผ้า ไล้คลึงนวดเฟ้นปลายยอดเล็กๆ ที่ครัดเครียดนูนเด่นขึ้นมาทันทีเมื่อถูกแตะต้อง เสียงกระอึกกระอักหายไปกลายเป็นเสียงหวานแผ่วพลิ้วหลุดออกมาทีละน้อยอย่างที่เจ้าตัวไม่รู้สึก อาการต่อต้านขัดขืนก็เริ่มจะลดน้อยถอยลง ริมฝีปากอวบอิ่มเริ่มเผยอแย้มกว้างมากขึ้น พร้อมกับปลายลิ้นเล็กๆ ที่เริ่มจะเคลื่อนออกมาตอบรับลิ้นสากระคาย
“แน่ใจหรือสาวน้อย ต้องการให้ฉันหยุดจริงๆ หรือ” ถามเสียงนุ่มแผ่วพลิ้ว ลากไล้มือใหญ่ไปบนเรือนกายกลมกลึงจับต้องอย่างไม่ทะนุถนอม
“หืม...” บดเบียดเรือนกายแข็งแกร่งแนบชิดกับกายนุ่มมากยิ่งขึ้น สอดแทรกปลายลิ้นสากระคายเข้าไปเลาะเล็มไรฟันสะอาดขาว กวาดไล้กระพุ้งแก้มนุ่ม เกี่ยวกระหวัดพลิกพลิ้วจากปลายถึงโคนลิ้น ฝ่ามือใหญ่นวดคลึงปทุมถันอวบใหญ่เต่งตึงจนมันผลิบานตามติดอุ้งมือ กายใหญ่เริ่มร้อนฉ่าด้วยความปรารถนาที่ไหลล้นไปตามกระแสเลือด
‘อืม...กระต่ายน้อย เธอร้อนแรงจริงๆ ’
ถึงตอนนี้แม้ปากและใจจะพยายามห้ามอารมณ์ที่เป็นเหมือนกับลาวาใต้ภูเขาไฟเดือดระอุ แต่สมองและร่างกายกลับไม่ฟังคำสั่ง บดเบียดกายนุ่มนิ่มจนถ้าหากสามารถแทรกเข้าไปในกายใหญ่ได้ก็คงจะดี หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำรัวจนแทบจะทะลุออกมาจากทรวง ดวงตากลมโตเบิกกว้างพร้อมลมหายใจที่ติดๆ ขัดๆ เหมือนกับกำลังรอคอย แต่ปากก็พยายามจะพูดออกไป ทว่าเสียงกลับติดอยู่ที่ลำคอ
“ว่าไงล่ะสาวน้อย ให้ฉันหยุดจริงๆ หรือ” ฝ่ามือร้อนผ่าวเคลื่อนไหวลูบไล้ไล่ลงไปตามลำตัวกลมกลึง ผ่านหน้าท้องแบนราบเรียบ คลึงเคล้นหนักหน่วงสลับแผ่วเบา ก่อนตวัดไล่ไปตามสีข้าง ตวัดย้อนกลับไปลูบไล้แผ่นหลังเนียนนุ่ม เคลื่อนลงมาขยำนวดบั้นท้ายกลมกลึง ปลายนิ้วร้อนเหมือนกับถ่านไฟค่อยๆ เคลื่อนไปตามปลีน่องกลมกลึงนุ่มเนียน คลึงเคล้นใกล้ชิดกับดอกไม้กลีบบาง
“ไม่อยากให้ฉันทำให้เธอมีความสุขจริงๆ หรือสาวน้อย”
ชายหนุ่มถอนริมฝีปากแต่ยังคลอเคลียแนบชิดแก้มนุ่ม ผุดรอยยิ้มเยาะหยันบนเรียวปาก เมื่อแม่สาวในอ้อมกอดตัวอ่อนระทวยกับมนตราพิศวาสที่เขาร่ายใส่ จนไม่อาจหาญกล้าตบหน้าและขัดขืนเขาได้อีกแล้ว ปลายนิ้วยาวร้อนผ่าวไล้ลากบนพวงแก้มนุ่มแผ่วเบา
‘หึ...ขนาดกับคนที่ไม่รู้จักเธอยังร้อนได้ขนาดนี้เลยหรือเวฬุกา ถ้าสนิทชิดเชื้อกันสักหน่อย ที่ไหนก็คงได้’
ประกายในดวงตาคมกริบเข้มจัดจ้านขึ้น ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาแทบจะแน่ใจเลยว่าคงจะไม่หลงเหลือความสาวสดไว้ให้ชิมแล้ว แต่กับเวฬุกาที่ยังมีสิ่งนี้อยู่ เพราะหญิงสาวถูกคุมเข้มด้วยพ่อและคู่หมั้นหนุ่มสุดหล่อ เลยกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ ทำตามความต้องการส่วนลึกของตัวเองไม่ได้ แต่เดี๋ยวเข้าช่วยเอง เชื่อเถอะว่าเธอจะต้องชอบ พอใจและจะต้องขอบใจเขา
ริมฝีปากหนาขบกัดเคลื่อนไปทั่ววงหน้านวลนุ่มหอมกรุ่น ดวงตากลมโตหรี่ลงเล็กน้อย ใบหน้างามแดงปลั่งแหงนหงายไปด้านหลัง ปลายลิ้นร้อนผ่าวตวัดไล้ใบหูนุ่มสลับสอดแทรกเข้าไปกระเซ้าเย้าแหย่ช่องหูเล็ก เส้นผมที่ผูกมัดตกแต่งไว้อย่างมีศิลป์หลุดลุ่ยลงมาคลอเคลียลำคอระหงให้หนุ่มผู้ฉวยโอกาสถึงกับร้อนผ่าวไปทั้งภายในและภายนอก