หลังเที่ยงคืนแสงไฟในบ้านดับลง เหลือไว้เพียงไฟตามทางเดิน ร่างสูงสืบเท้าผ่านแสงไฟสลัวด้วยความเงียบเชียบ ก่อนจะหยุดลงที่โซฟาห้องรับแขก นัยน์ตาเจ้าเล่ห์มืดครึ้มลงไม่ต่างกับสีในยามรัตติกาล ยามจับจ้องไปที่ร่างเล็กที่นอนเอกเขนกอยู่บนโซฟา โดยจอโทรทัศน์ยังเปิดอยู่
จานผลไม้ถูกหั่นไร้ความปรานีตยังวางอยู่
ดูท่าแม่เลี้ยงคนสวยของเขาจะเหนื่อยมาก ถึงได้มาหลับอยู่ตรงนี้ ทั้งที่ยังกินของว่างไม่หมดเสียด้วยซ้ำ
ภูดิษเลียริมฝีปากฉวยองุ่นลูกใหญ่ขึ้นมาไว้ในมือ ไม่รู้อะไรดลใจทำให้เขานั่งลง เหลือบมองท่อนขาเล็กที่เหยียดกายสวยบนโซฟา
ผิดไหม?
ชายหนุ่มถามตัวเองซ้ำ ๆ หยิบองุ่นเข้าปากสีหน้าเคร่งเครียด หนังเปลี่ยนเรื่องแล้วแต่เขายังละสายตาจากท่อนขาของเพียงขวัญไม่ได้เลย เธอนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาดูท่าทางหลับเป็นตาย เพราะคงยุ่งกับงานนอกบ้านและงานในบ้าน
“นี่!”
เขาส่งเสียงร้องทักเบาๆ ก่อนจะดังขึ้น
“นี่! เธอ! เพียงขวัญ” ก่อนจะเพิ่มเสียงเรียกขึ้นอีกแต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังไม่ตื่น
เสี้ยววิที่ร่างเล็กพลิกตัวกลับมา องุ่นที่เขาคาบไว้ในปากก็ส่งเสียงโผละ พร้อมน้ำหวานที่แตกทะลักทั่วโพรงปาก กระเซ็นเลอะท่อนขาสวย ความอดทนต่อความรู้สึกที่ล้นทะลักแตกกระเจิงไร้ทิศทางเหมือนน้ำที่กระเซ็นออกจากปาก ลมหายใจร้อนรุนแรงขึ้นจนไม่อาจจะอดกลั้น
ภูดิษตวัดเลียคราบน้ำที่ริมฝีปากและฝ่ามือตนเอง ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่คละคลุ้งในลมหายใจ ช่วยให้ความยับยั้งชั่งใจกลายเป็นศูนย์
ชายหนุ่มเล็มผิวอ่อนที่โผล่พ้นเครื่องแต่งกายออกมา รสชาติของน้ำองุ่นหวานล้ำ แต่ความร้อนที่อุ่นปลายลิ้นกลับกลายเป็นสิ่งที่เขาต้องการจะดื่มด่ำมากขึ้นอีก ชายหนุ่มขบเม้มมันเบา ๆ ก่อนจะตวัดเลียเรียวขาสวย
ใช้จมูกซุกไซ้ดอมดมร่างกายของหญิงสาว สูดกลิ่นดอกไม้เคล้าน้ำหอมราคาแพงผ่านเสื้อผ้าของเธอ
มือใหญ่ของเขาค่อย ๆ สอดเข้าเสื้อตัวสวย ไล้ไปตามหน้าท้องเนียนละเอียด สูงขึ้นถึงบราเซียที่ห่อหุ้มส่วนโค้งของหญิงสาวเอาไว้
“หอม แตะนิดหน่อยไม่ตื่นหรอกมั้ง”
พึมพำแค่นั้นภูดิษก็ไม่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลย ชายหนุ่มเริ่มขยำเนินอกอวบ ร้องเรียกชื่อเธอราวกับละเมออยู่ในความฝัน เสียงครางอืออาของเพียงขวัญดังขึ้น เมื่อปลายนิ้วเขาสะกิดยอดชูชัน เธอกัดปากเล็กดิ้นเบา ๆ ดวงตาเหม่อลอยลืมขึ้นมองกลุ่มผมที่ขยับโยกอยู่บนอกแล้วหลับลงอีกครั้ง
สองขาถูกลำตัวหน้าแทรกเขา เสียดสีต้นขาจนเธอแทบจะแตะสรวงสวรรค์อยู่รำไร
จ๊วบบบบ
“เฮือกกก”
เสียงริมฝีปากนุ่มบดเบียดยอดกระสัน ดูดดุนจนเกิดเสียงที่ริมฝีปาก ร่างเล็กก็สั่นสะท้านในอ้อมกอดทั้งที่ยังหลับตา
“อื้ออออ คุณภู”
ภูดิษยังบรรเลงบทเล้าโลมราวกับคนไม่รู้จักพอ มือหนึ่งเขาค่อย ๆ รูดซิปกางเกงขาสั้นของเธอลง ความคับแคบของกางเกงขนาดพอดีตัวไม่เป็นอุปสรรคสักนิด ลูบไล้เนินรกใต้แพนตี้เพียงเล็กน้อยก็ยกไล้ก้อนนมสองก้อน จับมันจูบเบา ๆ เขาทำอย่างเงียบเชียบ พยายามไม่ลงแรงจนเธอตื่น แต่ดูท่าทางเธอจะเหนื่อยมาก จึงได้แต่ส่งเสียงครางพลางบิดตัวเร่า สองขาโอบกอดร่างสูงใหญ่ทั้งที่ยังหลับตา
“อื้อออ อึก”
“ขวัญ...เพียงขวัญ อื้มมมมม” เสียงแหบพร่าครางชื่อคนบนเตียงขณะเสียดร่างกายที่กำลังตื่นสุดขีดไปบนเรือนร่างของเธอ
ภูดิษละความสนใจจากเนินอกอวบ ขึ้นดูดปากเล็ก สอดลิ้นเข้าไปอย่างจาบจ้วง ยัดเยียดแบ่งปันความหวานจากริมฝีปากตัวเองให้เธอ
“อื้มมมม”
ลิ้นของหญิงสาวตอบสนองกับลิ้นเขาน่าดู เขารุกไล่เธอด้วยความสนุกสนาน ไล่เกี่ยวลิ้นเล็กพ่นลมหายใจคละคลุ้งสลับกับดูดกลีบปากเล็ก ความหวานลึกซึ้งเกี่ยวพันในที่สุด ภูดิษถอนริมฝีปากออกใบหน้าชายหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่มดูดลิ้นเปียกชื้น แล้วหลอกล่อ ปล่อยสักนิดให้ร่างบางได้หายใจ ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปลึกขึ้นอีกครั้ง
“อึก...อื้อออ อื้ออออ”
“ชู่วววว” เขาส่งเสียงเบา ๆ ร่างที่ครางระริกก็ดูจะสงบลง
“ถ้ายัดมันเข้าไปจะดูดเหมือนกันไหม” เขากระซิบกับตัวเองเสียงเบาก่อนจะดันนิ้วเข้าไปหยอกล้อ เสียงหัวเราะแหบพร่าดังขึ้นเมื่อเพียงขวัญดูดหนุบเข้าให้
ใบหน้าเขาแดงก่ำราวกับเด็กแรกรุ่น เมื่อความคิดสกปรกดูเหมือนจะไม่หยุดแค่นั้น กางเกงขายาวถูกปลดออกทิ้งไว้แค่เข่า ดึงท่อนเนื้อที่ยังไม่แข็งตัวเต็มที่ ขึ้นมารูดไปมาเพียงสักพักความใหญ่โตก็ผงาดขึ้นประกาศศักดา ภูดิษตัวสั่นเทาแทบจะเป็นบ้า เขาสูดปากครางระบายความเสียวซ่านก่อนจะก้มตัวลง
ในขณะที่ค่อยรูดกางเกงในเธอออกมา แยกขาของเพียงขวัญออกแบะออกไปทั้งสองข้าง ความสวยงามปิดสนิทแบะออกให้เห็นสีชมพูอ่อนด้านใน มันไม่แฉะแต่ก็ชุ่มฉ่ำพอ
นิ้วมือบดส่วนกระสันในส่วนบนขณะที่ลิ้นของเล่นกับร่องชุ่มน้ำด้านล่าง รสชาติปร่าในลิ้นไหลซึมทั่วทั้งปาก
“แม่งได้อารมณ์ฉิบหาย”
น้ำใสค่อย ๆ ไหลมาในขณะที่เขายังตวัดเลียด้วยความเมามัน ก้มหน้าที่หว่างขาแม่เลี้ยงสาวพักใหญ่ นัยน์ตาคลั่งไคล้เหลือบมองใบหน้าหวานไปด้วย สอดนิ้วเข้าไปอย่างตื่นเต้น มันดูดนิ้วเขาด้วยแฮะ ถ้าเปลี่ยนเป็น...
“แฉะไม่พอ”