หล่อนก้าวออกมาจากห้องนอนในยามเช้าตรู่ ในชุดนอนเนื้อผ้าบางเบาและโนบราด้วยความตกใจ เพราะได้ยินเสียงเจ้าบ็อบบี้ สุนัขพันธุ์ไทยแท้ที่เลี้ยงเอาไว้ส่งเสียงเห่ากรรโชกรุนแรง
“พวก... พวกคุณเป็นใคร?”
ผู้ชายในชุดสูทสีน้ำตาลไหม้พอดีตัวก้าวเข้ามาภายในบ้านโดยไม่รอให้เจ้าของบ้านอย่างหล่อนเอ่ยปากอนุญาต พวกเขามีกันสองคน ผู้ชายคนแรกตัวสูงใหญ่กว่า และดูน่าเกรงขามกว่า ในขณะที่ผู้ชายอีกคนตัวเล็กกว่า และท่าทางอ่อนน้อมต่อผู้ชายคนแรกมากนัก
“ออกไปนะ”
ท่าทางไม่มีความกริ่งเกรงของผู้ชายผู้มีรูปโฉมงดงามราวกับเดินออกมาจากหนังสือที่รวบรวมผู้ชายหล่อล่ำเอาไว้ยังไงยังงัน
หล่อนอ้าปากค้างเติ่ง สมงสมองหยุดทำงาน เพียงแค่ได้สบประสานสายตากับผู้ชายตรงหน้าเท่านั้น เขา... เขาหล่อราวกับไม่ใช่คนจริงๆ
รูปร่างเพรียวกำยำ สมบูรณ์แบบอยู่ในชุดหรูหราราคาแพงระยับ ดวงตาของเขารียาวและหวานฉ่ำ คิ้วของเขาคมเข้มและหนาดกจนน่าแปลกใจ จมูกของเขาก็โด่งมาก ตรงปลายงองุ้มดูแปลกตา ริมฝีปากบางเฉียบสีแดงสดช่างน่าค้นหาเหลือเกินว่าภายในนั้นซ่อนอะไรเอาไว้
หล่อนพยายามควบคุมจังหวะของการหายใจ และก็พยายามบอกตัวเองให้ละสายตาจากผู้ชายตรงหน้าให้ได้ และให้เร็วที่สุด
แต่...
เขาหล่อเกินไป หล่อ... หล่อชนิดที่ว่าทำให้หล่อนผู้ไม่เคยพิสมัยในตัวผู้ชายมาก่อน ถึงกับตะลึงตะลานอ้าปากค้างราวกับคนปัญญาอ่อน
โอ้... โอ้ พระเจ้า ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ดูดีนักนะ หรือว่าเขาผุดออกมาจากนิตยสาร
“มองผมพอแล้วใช่ไหม มาริสา กอบกุล”
โอ้ ตายแล้ว เสียงของเขาก็ช่างน่าฟังนัก แม้ว่าน้ำเสียงนั้นจะมีกระแสแห่งความไม่พอใจแฝงอยู่ด้วยก็ตาม นี่หล่อน หล่อนกำลังเป็นบ้าใช่ไหม
“ฉัน...”
“มาริสา กอบกุล”
เขาเรียกหล่อนด้วยชื่อของพี่สาวฝาแฝด และนั่นก็ทำให้หล่อนพอเรียกสติคืนมาได้บ้าง
“คุณ... เป็นใครคะ”
เขาระบายยิ้ม แม้มันจะเป็นรอยยิ้มที่ไม่เป็นมิตรนักก็ตาม แต่มันก็ทำให้หล่อนแทบอยากจะคุกเข่าและคลานเข้าไปกอดลำขาทรงพลังของเขา และวิงวอนให้เขาร่วมรักเสียเดี๋ยวนี้
โอ้... ม่าย... นี่มันอะไรกัน หล่อนคิดเรื่องบ้าๆ เรื่องอับอายแบบนี้ออกมาได้ยังไงกันกัน
หญิงสาวพยายามรวบรวมสติ และละสายตาจากความงดงามของผู้ชายตรงหน้าอย่างเร่งด่วน แน่นอนว่าหล่อนทำได้ในเวลาต่อมา
มองหน้าอกของเขาแทนก็แล้วกัน...
หล่อนบอกตัวเองเบาๆ ในอก
“คุณมาหาพี่แมรี่หรือคะ”
“พี่แมรี่?”
ผู้ชายที่หล่อสุดในสามโลกเลิกคิ้วสูง และจ้องหน้าหล่อน ก่อนจะลดลงไปมองหน้าอกหน้าใจหัวนมดันชุดนอนออกมาเป็นรูปรอยอย่างดูแคลน
หล่อนลดสายตามองตาม ก่อนจะต้องหน้าแดงก่ำ และรีบยกมือขึ้นกอดอกเอาไว้
“ฉัน... ฉันเพิ่งตื่น...”
เขาแสยะยิ้มหยัน
“ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงได้...” เขาหยุดพูดแค่นั้น ก่อนจะไหวไหล่น้อย
“เอาล่ะ เข้าไปแต่งตัวให้เรียบร้อย และออกมาคุยกับผม”
แม้เขาจะหล่อเหลาจนน่าลากไปปล้ำ แต่กระนั้นเขาก็ไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งแบบนี้กับหล่อน
“คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน”
“งั้นคุณก็คงอยากคุยกับผม ทั้งๆ ที่หัวนมของคุณกำลังทักทายสายตาของผมอยู่ว่ายังงั้นเถอะ”
“ไอ้...”
“นี่ถ้าสามหาวกับองค์...”
“ช่างเถอะ มาฮัด”
เจ้าชายอัฟฟานหันไปปรามคนของตัวเองที่ยืนก้มหน้าอยู่ด้านหลัง
“ไปใส่เสื้อในมาให้เรียบร้อย ผมไม่อยากคุยกับหัวนมของคุณ”
แล้วเขา... ผู้ชายที่องอาจผึ่งผายก็เดินลงบันไดไป หลังจากออกคำสั่งกับหล่อนเสร็จ
“ไอ้คนบ้า ทำตัวราวกับว่าเคยชินกับการออกคำสั่งมาตั้งแต่เกิดอย่างนั้นแหละ”
“ใช่ ผู้ชายคนนี้ออกคำสั่งมาตั้งแต่เกิด และคุณก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งด้วย คุณมาริสา”
อาริตารู้สึกอึดอัดไม่น้อยที่คนแปลกหน้าพวกนี้เรียกหล่อนว่ามาริสา แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น
“รับทราบเจ้าค่ะ”
หล่อนกระแทกเสียงตอบก่อนจะรีบผลุบหายเข้าไปในห้องนอนของตัวเองทันที
มาฮัดยืนมองบานประตูที่ปิดสนิทลงนิ่ง มองอย่างไม่เข้าใจเลยสักนิด
“ทำไมเธอถึงไม่เห็นแสดงทีท่าว่าจะชดจำฉันได้เลย ทั้งๆ ที่เธอก็เข้าใจมาตลอดนี่น่าว่าเราคือองค์ชายอัฟฟาน ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ”
องครักษ์พยายามคิดหาเหตุผลกับท่าทางเฉยเมยของหญิงสาวที่ตัวเองเคยร่วมเสพสังวาสด้วย แต่ยังไม่ทันได้คำตอบ เสียงทรงอำนาจของเจ้าชายอัฟฟานก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ลงมานี่ มาฮัด”
“พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย”
เขารีบหมุนตัวลงบันไดไปหาเจ้านายสูงศักดิ์ด้วยความรีบร้อน
เจ้าชายอัฟฟานนั่งลงบนเก้าอี้ปูนสีขาวที่วางอยู่หน้าบ้านไม้สองชั้นหลังย่อม
“องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมีเรื่องไม่ค่อยเข้าใจนัก อยากจะกราบทูล...”
“ถ้าเป็นเรื่องแม่มาริสา หยุดพูดเถอะ เราไม่อยากจะรับฟัง”
ชายหนุ่มนั่งนิ่ง และพยายามบังคับให้สมองหยุดนิ่งด้วย แต่เขากลับไม่อาจจะหักห้ามความคิดของตัวเองได้แม้แต่นิดเดียว
ความจริงเขาเคยเห็นมาริสาจากทางรูปถ่ายมาก่อน และเห็นมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่าตัวจริงของเจ้าหล่อนจะดูแตกต่างไปจากรูปถ่ายพวกนั้นมาก
ไม่ใช่ใบหน้าที่แตกต่างออกไป แต่เป็นกิริยา ท่าทาง และสายตาที่หล่อนมองมายังเขา
ดวงตากลมโตไหวระริก เบิกกว้างยามที่เห็นเขา มันบอกให้ผู้ชายที่ช่ำชองในเรื่องของสตรีเช่นเขาเดาได้ไม่ยากว่า มันเป็นสายตาของผู้หญิงที่ไม่เคยพบเห็นชายหนุ่มถูกใจมาก่อน
บ้าจริง ทำไมเขาจะต้องเอาเรื่องของผู้หญิงที่ตัวเองไม่ต้องการมาคิดให้รกสมองด้วยนะ
แต่เขาตัดหล่อนออกไปไม่ได้ นี่แหละคือปัญหาอันยิ่งใหญ่
เจ้าชายสูงศักดิ์ถอนใจแผ่วเบา ภาพในหัวยังคงมีผู้หญิงคนนั้นฝังแน่นอยู่
ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ตัวเล็กนิดเดียว ส่วนสูงก็ยังไม่ถึงบ่าของเขาเลย แต่ในความเล็กกะทัดรัดเช่นนั้น กลับอวบอิ่มน่าฟอนเฟ้น
หัวนมของหล่อนเล็กนิดเดียว แต่ฐานเนื้อนวลอวบใหญ่น่าจะล้นมือของเขา
ระยำ ทำไมเขาจะต้องคิดถึงหัวนมของยายนั่นด้วย มาริสา สำส่อน และถึงขนาดใจง่ายยอมตกเป็นภรรยาของมาฮัดไปแล้ว เขาจะไปคิดถึงหล่อนทำไม
แม้จะพยายามบอกตัวเอง แต่ความสะสวยแปลกตาที่ไม่เคยพบเห็นจากหญิงใดมาก่อน กลับทำให้เขาไม่อาจจะหยุดคิดถึงหล่อนได้
“องค์ชายทรงเป็นอะไรไปพ่ะย่ะค่ะ”
“เราเป็นอะไรหรือ”
“กระหม่อมเห็นองค์ชาย นั่งขมวดพระขนงตลอดเวลาเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“เราทำแบบนั้นหรือ”
“ใช่ พ่ะย่ะค่ะ”
“เราคงกำลังเครียดกับการเจรจาที่กำลังจะเกิดขึ้นล่ะมั้ง”
เจ้าชายอัฟฟานถอนใจออกมา ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืนตระหง่าน
“เราหวังกับการเจรจาครั้งนี้เอาไว้มาก”
“กระหม่อมมั่นใจว่าองค์ชายจะต้องเจรจาสำเร็จพ่ะย่ะค่ะ”
“เราก็หวังแบบนั้นแหละ”