อาริตา กอบกุล หรือที่เพื่อนๆ เรียกว่า ริต้า หล่อนคือหญิงสาววัยยี่สิบสามปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐบาลไทย จากนั้นก็เดินทางไปทำงานที่ประเทศรัสเซียในฐานะเชฟอาหารไทย จนกระทั่งได้รับข่าวร้ายว่าพี่สาวฝาแฝดนามว่า มาริสา กอบกุล หรือ แมรี่ ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตลงกะทันหัน ทั้งๆ ที่ภายในเดือนหน้าจะเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าชายจากประเทศแถบตะวันออกกลาง พระโอรสของสุลต่านองค์ปัจจุบันของประเทศคาร์มาลย์อยู่แล้ว
“ไม่ได้นะคะ ริต้า... ริต้าทำไม่ได้หรอกค่ะ”
หล่อนรีบปฏิเสธ ส่ายหน้าดิก เพราะไม่เห็นด้วยอย่างแรงที่จะต้องสวมรอยหลอกลวงคนอื่น แม้คนๆ นั้นจะเป็นพี่สาวฝาแฝดของตัวเองก็ตาม
“ต้องได้สิริต้า แกต้องทำเพื่อครอบครัวของเรา”
น้าสะใภ้ของหล่อนย้ำหนักแน่น
“แต่ริต้า...”
“ถ้าแกไม่แต่งงานแทนแมรี่ ครอบครัวของเราก็ต้องคืนของหมั้นทั้งหมด แล้วแกคิดว่าเราจะเอาของหมั้นจากไหนมาคืน”
“แล้วของหมั้นไปไหนหมดล่ะคะ ตั้งมากมายก่ายกอง”
“ก็น้าศักดิ์สุดที่รักของแกเอาไปละเลงในบ่อนหมดแล้วน่ะสิ”
หล่อนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ รู้อยู่หรอกว่าน้าชายแท้ๆ ติดการพนัน แต่ไม่คิดว่าจะติดงอมแงมขนาดนี้
“แต่ของหมั้นตั้งมากมายนะคะ ทำไมถึง... หมดเร็วนักล่ะคะ”
“แกไม่ต้องถามให้มากความหรอก เพราะถึงยังไงเราก็ไม่มีของหมั้นไปคืนเจ้าชายอยู่ดี”
“แต่... แต่ริต้าไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยนะคะ ทำไมริต้าจะต้อง... เสียสละตัวเองขนาดนั้นด้วย”
“ถ้าแกไม่เสียสละตัวเอง พวกเราทุกคนก็ต้องเสียสละชีวิตทั้งหมด!”
“น้าดา...”
“นี่มันคือเรื่องจริง และแกก็เป็นเพียงคนเดียวที่จะต่อลมหายใจให้พวกเราได้”
หล่อนทรุดลงนั่งกับโซฟาอย่างอ่อนแรง ความตื่นตกใจและความทรมานซัดเข้าใส่ร่างเต็มแรง มันเกี่ยวกับหล่อนที่ไหนกันล่ะ ของหมั้นจากเจ้าชายอาหรับหล่อนก็ไม่ได้แตะต้อง แล้วทำไมจะต้องเป็นหล่อนด้วยที่จะต้องเสียสละอิสรภาพเพื่อทุกคน
“เป็นตายยังไงริต้าก็ไม่แต่งงานกับใครที่ไหนก็ไม่รู้หรอกค่ะ” ในที่สุดหล่อนก็โพล่งออกไปอย่างเหลืออด
“แกจะเล่นตัวทำไมนักหนา ผู้ชายคนนั้นเป็นถึงเจ้าชายเชียวนะ แกได้ตกแต่งไปก็จะสบายไปทั้งชาติ ทำไมถึงได้เล่นตัวนักนะ!”
“ถึงจะเป็นเจ้าชาย แต่เขาไม่ได้รักริต้านี่คะ คนที่ผู้ชายคนนั้นต้องการแต่งงานด้วยคือพี่แมรี่ ไม่ใช่ริต้า”
“เจ้าชายบ้านั่นแยกไม่ออกหรอก เชื่อน้าสิ”
“น้าดาก็พูดได้นี่คะ ในเมื่อน้าดาไม่ได้เป็นคนที่จะต้องปลอมตัวไปแต่งงาน”
“ถ้าเจ้าชายเอาฉันนะ ฉันนี่จะรีบหย่ากับน้าศักดิ์สุดที่รักของแกเดี๋ยวนี้เลย” ดาริกาพูดเสียงดังอย่างโมโห “แต่แก่ๆ อย่างฉันใครจะมาเอา”
อาริตาถอนใจแรงๆ ยกมือขึ้นกุมขยับ “ริต้าจะพยายามหาเงินมาให้ได้เยอะที่สุดค่ะ เพื่อเจ้าชายอะไรนั่นอาจจะไม่เอาเรื่องพวกเรา”
“เงินไม่รู้กี่ล้าน แกจะไปเอาที่ไหนมา ริต้า”
หล่อนยังไม่รู้เลยว่าจะไปเอาที่ไหน แต่มันก็ยังดีกว่าการก้มหน้ายอมแต่งงานกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้
“ริต้าก็ยังไม่รู้เลยค่ะ”
“นั่นไง แกยังไม่รู้เลยว่าจะไปเอาเงินที่ไหน แล้วแกจะมาพูดว่าจะพยายามได้ยังไง ทางที่ดีนะริต้า แกยอมรับสภาพความเป็นจริงเถอะ แต่งๆ ไป สักพักค่อยหย่าแล้วกลับมาอยู่เมืองไทยเหมือนเดิมมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่”
“แต่ตอนนั้นริต้าก็จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้วนะคะ แล้วจะมีผู้ชายที่ไหนมาสนใจริต้าล่ะ ริต้าไม่เอาด้วยหรอก”
“งั้นก็เตรียมตัวถูกลากไปตัดหัวที่คาร์มาลย์เถอะ!”
น้าสะใภ้ของหล่อนเค้นเสียงโมโหออกมา ก่อนจะสะบัดก้นเดินหนีไป
อาริตากระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ ความเครียดกัดกินอยู่ในใจจนแสนจะทรมาน
“แล้วนี่จะทำยังไงดีนะ จะทำยังไงดี”
หล่อนกำลังคิดหาทางออก แต่น้าสมศักดิ์ก็เดินเมาแอ๋เข้ามาในบ้านเสียก่อน
“น้าศักดิ์ไปดื่มเหล้ามาอีกแล้วเหรอคะ”
สมศักดิ์มองเห็นหลานสาวที่ตัวเองเอามาเลี้ยงตั้งแต่เล็กเพราะพี่สาวป่วยตายกำลังเดินเข้ามาหา
“ริต้าใช่ไหมเนี้ย”
“ก็ริต้าน่ะสิคะ”
หญิงสาวถอนใจแรงๆ และรีบประคองสมศักดิ์ที่ตัวเองรักไม่ต่างจากบิดาไปนั่งบนโซฟา จากนั้นก็ถามขึ้นด้วยความไม่พอใจนัก
“เมื่อไหร่น้าศักดิ์จะเลิกดื่มคะเนี่ย”
“น้าเลิกได้ก็ดีน่ะสิ เหล้ามันอร่อย ดื่มแล้วมีความสุข ริต้าลองไหมล่ะ”
“ไม่ล่ะน้า” หล่อนลุกขึ้นยืน และถอยออกห่าง “ริต้าถามจริงๆ เถอะน้าศักดิ์ เงินค่าสินสอดของพี่แมรี่หายไปไหนหมดเหรอคะ”
สมศักดิ์หัวเราะน้อยๆ ท่าทางเมาแอ๋ “ก็เอาไปต่อทุนในบ่อนน่ะสิ แต่คำนวณเลขพลาดไปหน่อย ก็เลยหมดตัวเหมือนเดิม”
“น้าศักดิ์คะ รู้ไหมคะว่าสินสอดนั่นจะต้องส่งคืนให้เจ้าชายอาหรับน่ะ ไม่อย่างนั้นเราจะเดือดร้อนนะคะ”
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่านังแมรี่พี่สาวของริต้าจะมาด่วนตายกะทันหันแบบนี้” สมศักดิ์พูดไปตามความจริง “ดีนะที่ปิดเรื่องการตายของแมรี่เอาไว้เป็นความลับ ไม่อย่างนั้นคงต้องยกเลิกการแต่งงาน”
“ไม่ใช่แค่ยกเลิกหรอกค่ะ เราต้องคืนสินสอดทั้งหมดด้วย”
“จะเอาที่ไหนมาคืนล่ะริต้า ก็น้าบอกแล้วไงว่าหมดไปในบ่อนแล้ว”
อาริต้ายกมือขึ้นบีบขมับของตัวเองอย่างเคร่งเครียด “แล้วน้าศักดิ์เอาไปเล่นการพนันทำไมล่ะคะ รู้ไหมว่าตอนนี้พวกเรากำลังจะเดือดร้อน”
“จะเดือดร้อนได้ยังไงกัน ก็นังดามันบอกว่าจะเกลี่ยกล่อมให้ริต้าแต่งงานแทนนี่น่า”
คนฟังกำมือแน่น รู้สึกโมโหยิ่งนัก
“ริต้าไม่แต่งค่ะ” หล่อนยืนกรานคำเดิม “ริต้าจะไม่ยอมเสียสละตัวเองแบบนั้นหรอก”
“งั้นริต้าก็คงอยากเห็นน้า... น้าที่เลี้ยงดูริต้ามาอย่างยากลำบากตายใช่ไหมล่ะ”
“ริต้าไม่คุยกับน้าศักดิ์แล้ว ขอตัวนะคะ”
“ริต้า! ถ้าแกไม่ยอมแต่งงานกับเจ้าชายอาหรับ น้าก็จะ... ก็จะ...”
แม้จะเมาแต่สมศักดิ์ก็ยังพอมีสติอยู่บ้าง เขาพยายามหาทางบีบเค้นให้อาริตายอมตกลง
อาริตาเมินหน้าหนี และจะเดินจากไป ก่อนจะต้องชะงัก และหันไปมองสมศักดิ์
“น้าจะวิ่งไปให้รถชนตาย”
หล่อนถอนใจแรงๆ เพราะมั่นใจว่าสมศักดิ์ไม่มีทางทำได้อย่างที่พูดแน่
“ตามสบายเถอะค่ะน้าศักดิ์ ริต้าขอตัวก่อนนะคะ”
เมื่อหลานสาวไม่มีทีท่าว่าจะเชื่อในคำขู่ของตัวเอง สมศักดิ์จึงต้องแสดงให้สมจริงมากกว่าคำพูด เขาวิ่งผ่านหน้าของอาริตาออกไปหน้าบ้าน
“น้าจะตายให้ริต้าดู”
อาริตาไม่สนใจกำลังจะก้าวเข้าไปในห้อง แต่เสียงล้อรถครูดไปกับพื้นถนนที่ดังมาเข้าหู และเสียงดังโครมใหญ่ ทำให้หล่อนต้องหันไปมอง
“น้าศักดิ์!”
สิ่งที่เห็นก็คือร่างของสมศักดิ์นอนจมกองเลือดอยู่บนถนน และรถคันที่ชนก็ขับหนีไปอย่างรวดเร็ว ดาริกาที่อยู่ในครัวรีบวิ่งออกมาเช่นกัน
“ตายแล้ว ศักดิ์... ไอ้ศักดิ์ ทำไมแกถูกรถชน”
อาริตารีบวิ่งเข้าไปประคองร่างชุ่มเลือดของสมศักดิ์ ร้องไห้ด้วยความเสียใจ
“น้าศักดิ์ ริต้าขอโทษ ริต้าขอโทษ... อย่าเป็นอะไรไปนะ น้าศักดิ์...”
“รับ... รับปากกับน้า...” สมศักดิ์พูดเสียงกระตุก มองอาริตาด้วยสายตาวิงวอน
“แต่งงานกับ... เจ้าชาย... แทนแมรี่... รับปากกับน้านะ ริต้า...”
อาริตาเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุทำให้สมศักดิ์ถูกรถชน หล่อนจึงจำต้องรับปากอย่างไม่มีทางเลือก
“ค่ะ ได้ค่ะ ริต้าจะแต่งงาน แต่น้าศักดิ์อย่าตายนะ ใจแข็งเอาไว้นะ น้าศักดิ์” หญิงสาวร้องไห้คร่ำครวญด้วยความตื่นตระหนก
“น้าดา โทรเรียกรถพยาบาลสิคะ เร็วเข้าค่ะ น้าศักดิ์เลือดออกมากแล้วค่ะ”
หล่อนหันไปตะโกนบอกดาริกาที่ยืนตัวสั่นอยู่ไม่ไกล จากนั้นก็หันมากอดร่างของสมศักดิ์ และพยายามวิงวอนให้สมศักดิ์ต่อสู้กับความเจ็บปวดให้ได้นานที่สุด