Chapter 1 – Restart
-ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว-
ถ้าทุกอย่างเริ่มต้นได้แค่คำว่ากดรีสตาร์ตก็ดีสิ...ชีวิตใหม่ของฉันคงได้เริ่มขึ้นนับตั้งแต่วันนี้
“ครีม หนูแน่ใจนะว่าอยู่คอนโดนี้คนเดียวได้”
“ได้สิคะแม่ ไม่ต้องเป็นห่วง นี่ครีมก็เพิ่งถึงห้องสักพักค่ะ” ฉันที่เพิ่งลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาใบเดียว เดินเข้ามาภายในห้องของคอนโดแห่งใหม่ที่แม่เพิ่งเช่ากับคนรู้จักมาให้
“ดีแล้วลูก ดูดี ๆ ละ ส่วนของกินของใช้แม่เตรียมเอาไว้ให้หมดแล้วเห็นหรือยัง”
“เห็นแล้วค่ะแม่ ขอบคุณมากนะคะ”
ฉันเดินดูรอบ ๆ ห้อง ดูเหมือนว่า แม่จะเตรียมของเอาไว้ให้พร้อมสรรพ มีทั้งหม้อหุงข้าว กระทะไฟฟ้า ไมโครเวฟ ที่สำคัญทั้งข้าวสาร ไข่ไก่ มาม่า แม่เล่นเตรียมเอาไว้ให้ซะครบ
เชื่อเลยละว่าแม่เป็นห่วงฉันมากแค่ไหน
“งั้นหนูต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ กลางคืนต้องล็อกห้องให้มั่นใจ แม่ดูข่าวตามทีวีแล้วไม่ค่อยสบายใจเวลานักศึกษาไปอยู่หอพักคนเดียวมันดูน่าอันตรายมาก เฮ้อ...ทำไมหนูต้องเลือกเรียนมหาวิทยาลัยไกลบ้านก็ไม่รู้”
แม่พูดแบบนี้กับฉันมาเป็นรอบที่ร้อยแปดตั้งแต่รู้ว่าฉันจะได้เข้ามหาวิทยาลัย
ถามว่ามหาวิทยาลัยฉันไกลอย่างที่แม่พูดไหม ก็น่าจะเรียกได้ว่าไกลจริง เพราะบ้านฉันอยู่แถวพระรามสองแต่ไปเรียนแถวรังสิต ไกลไม่ไกลคิดดู
“แหมแม่อะ ครีมพยายามจนเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังขนาดนี้แม่ต้องภูมิใจกับครีมสิ นี่ครีมอุตส่าห์ตั้งใจเรียนตอน ม.ปลายเลยนะ กว่าจะเข้าเรียนที่นี่ได้”
“จ้า ไอ้ภูมิใจแม่ก็ภูมิใจ แต่แม่ก็เป็นห่วงเราด้วยเข้าใจไหม เราเพิ่งสิบแปดสิบเก้าเองนะ”
“ค่าแม่ รับรองครีมไม่ทำให้แม่ผิดหวังเด็ดขาด”
“จ๊ะ งั้นตั้งใจเรียนนะลูก”
หลังจากวางสายจากแม่ ฉันก็กระโดดตัวลอยลงบนที่นอนนุ่มเด้ง
“วู้...สวัสดีชีวิตใหม่”
ร่างเล็กของฉันกระโดดเด้งตัวบนเตียงนอนนุ่ม ๆ พร้อมกับกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างมีความสุข มันเป็นชีวิตอิสระอย่างที่ฉันฝันเอาไว้มาตลอด
ฉันชื่อ ครีม ชีวิตของฉันกำลังจะเริ่มต้นใหม่กับชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิตที่เพิ่งสอบติดมาหมาด ๆ ได้ออกมาใช้ชีวิตอิสระอย่างที่เคยฝันมานาน
พ่อกับแม่ของฉันเลิกกัน ซึ่งมันก็ค่อนข้างเป็นเรื่องปกติละเนอะของสมัยนี้ ฉันไม่ได้ซีเรียสหรือจะเอามาเป็นดรามาให้กับชีวิตสักเท่าไหร่ ในเมื่อคนสองคนไม่รักกันแล้วจะยื้อกันไปเพื่ออะไร ถ้าจะทนอยู่ แล้วต้องมาทะเลาะกันบ่อย ๆ สู้เลิกกันไปเลยยังดูจะมีความสุขมากกว่าอีก
ส่วนคนเป็นลูกอย่างฉันจะทำอะไรได้ ในเมื่อพ่อแม่ไม่รักกันแล้ว ฉันก็พยายามเข้าใจสัจธรรมของโลก
บางทีโลกก็ไม่ได้ออกแบบมาให้ทุกคนสมหวังเหมือนกันหรอก และฉันก็เชื่ออีกอย่างว่า คนเราสามารถเลือกที่จะออกแบบชีวิตตัวเอง เพื่อให้มีความสุขได้ด้วยตัวของตัวเอง
ส่วนความทุกข์ก็แค่ซ่อนมันเอาไว้ให้ลึกสุดใจก็เท่านั้น
อีกอย่างทั้งพ่อและแม่ของฉัน ต่างก็แต่งงานใหม่มีสามีใหม่มีลูกใหม่ มีครอบครัวใหม่กันหมดแล้ว ฉันเลยไม่รู้จะอยู่ตรงนั้นเพื่ออะไร
ใช่ไหมล่ะ…บางครั้งคนที่เป็นส่วนเกินก็ต้องเดินออกมา
คอนโดห้องนี้...เลยเปรียบเสมือนความสุขที่เป็นโลกใบใหม่ของฉัน และเป็นเซฟโซนสำหรับชีวิตนักศึกษาของฉันที่กำลังจะเริ่มต้น
???