-INTRO-

1133 คำ
-INTRO-  ? นิยามของคำว่าเพื่อน ว่ากันว่าความสัมพันธ์ของความเป็นเพื่อน คือการที่คนสองคนใช้ใจแลกใจในการคบหากัน นอกจากจะมีความจริงใจ คอยช่วยเหลือ คอยซัปพอร์ต คอยเป็นกำลังใจกันและกัน ยังต้องดูแลหัวใจ และถนอมความรู้สึกกันไป ในตลอดชีวิตของ ‘ความเป็นเพื่อน’ หากแต่ระหว่างทางของความสัมพันธ์ทุกความสัมพันธ์ มักจะมีเส้นบาง ๆ ที่ซ่อนอยู่ โปรดจงรักษาระดับความสัมพันธ์ และคงไว้แต่ความเป็นเพื่อนที่ดี ถ้าน้อยไป…ไม่เรียกว่าเพื่อน แต่ ถ้ามากไป…ก็ไม่เรียกว่าเพื่อนอีกเหมือนกัน เพราะหากรักที่มากเกินกว่าความเป็นเพื่อน นั่นต้องเรียกว่าคนรัก... บรรยากาศในวันหยุดสุดสัปดาห์ ในขณะที่ครีมกำลังอ่านบทความในไอแพด เธอเผลอขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเข้าใจในบทความที่ว่าเท่าไหร่นัก บทความบรรยายซะยาวเหยียด อ่านเหมือนจะเข้าใจง่ายแต่ความเป็นจริงทำได้ยาก โดยเฉพาะการที่ต้องคงความเป็นเพื่อน กับคนที่ตัวเองเผลอคิดเกินเพื่อน ในขณะที่ครีมยังหมกมุ่นกับบทความ พลันกลิ่นบุหรี่จากนอกระเบียงก็โชยมาแตะจมูก จนทำให้เธอต้องลุกขึ้นอย่างหงุดหงิด “ธันย์! นายเลิกมาสูบบุหรี่ที่ห้องฉันได้แล้ว กลับห้องนายไปเลย โคตรเหม็น” ครีมเอ่ยกับผู้ชายร่างสูงโปร่งเจ้าของส่วนสูง 187 เซนติเมตรที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงห้อง เขาชื่อ ธันย์ เป็นเพื่อนสนิทของครีมตั้งแต่อนุบาลยันตอนนี้ ซึ่งความจริงอีกอย่าง คือห้องของธันย์ก็อยู่ติดกันกับห้องของเธอ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาถึงกลับเลือกที่จะมาสูบบุหรี่ที่ห้องเธอเป็นประจำ ยิ่งพักหลังครีมรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไป ดูธันย์พูดน้อยลง ถามคำก็ตอบคำ จะว่าเขาอกหักก็ไม่ใช่ เพราะที่ผ่านมาผู้หญิงรอบตัวที่เข้ามาหาธันย์ไม่เคยขาด มาห้องคนอื่นแต่ไม่พูด หงุดหงิดนะเอาจริง ในที่สุดครีมเลยต้องยอมวางมือจากไอแพดแล้วหันไปให้ความใส่ใจกับธันย์แทน เธอเดินไปหาเขาที่ระเบียง “ถามจริง นายเป็นไรนักธันย์” เธอเข้าใจได้ว่า แต่ก่อนธันย์ก็เป็นคนไม่ค่อยพูดกับคนอื่น แต่อย่างน้อยเขาก็พูดมากกับเธอแค่คนเดียว และที่สำคัญเขาก็ไม่ได้เป็นหนักอย่างตอนนี้ ทั้งอาทิตย์แล้วเถอะ ที่เหมือนธันย์มีเรื่องอะไรอยากจะพูดกับครีม แต่กลับไม่ยอมพูดออกมา หรือธันย์กำลังเรียกร้องความสนใจ ไม่ก็บางที…ธันย์อาจจะกำลังนอยด์ที่เธอกำลังจะมีแฟน อืม…คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกเพราะเขาก็ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ได้คิดกับครีมเกินคำว่าเพื่อน “ว่ามา นายเป็นไร” ครีมยืนเท้าสะเอวมองธันย์ประหนึ่งว่า ถ้าเขายังไม่ตอบ เธอจะเข้าไปง้างปากให้พูดซะเดี๋ยวนี้ “จะให้กูเป็นไร กูไม่ได้เป็นอะไร” ธันย์หันหน้าหล่อ ๆ ของเขากลับมองสบตากับครีมแค่ชั่วครู่ ก่อนจะเบือนสายตาหนีกลับไปมองวิวของท้องถนนที่คราคร่ำด้วยเสียงไฟของรถยนต์ตามเดิม “ก็หน้านายบอกว่าเป็น บอกมาตรง ๆ เลยดีกว่า” “กูบอกอยู่นี่ไง ไม่มีไร...” ยัง ยังอีก ตกลงนี่มันเก๊ก หรือว่ามันเครียดกันแน่นะ ครีมถอนหายใจ ก่อนจะยืนจ้องหน้าธันย์ไม่เลิก “ไม่มี เท่ากับ มี ...พูดมา ถ้านายไม่พูดนายก็กลับห้องไปเลย” ... นานนับนาที ในขณะที่ครีมใช้สายตากดดันให้ธันย์พูด สุดท้ายเขาก็ยอมละสายตาจากนอกระเบียงแล้วหันมามองเธอ “ครีม...กูว่า...” คนตรงหน้าดูนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมา ปล่อยให้คนรอฟังคำตอบอย่างครีมถอนหายใจออกมาคล้ายเริ่มจะหมดความอดทน “โอเค ธันย์ ถ้ามันจะพูดยากขนาดนี้นายก็ไม่ต้องพูดแล้ว” ครีมทำท่าสีหน้าเหมือนไม่ต้องการฟังมันแล้วคำตอบ ก่อนจะรีบหันหลังเดินออกมาไม่กี่ก้าว ...ความจริงไม่ใช่ความอดทนของเธอหรอกที่หมด แต่พอเขาเรียกชื่อเธอด้วยสายตาจริงจังแบบนี้ เธอก็เลยกลัวว่า… เขา…อาจจะพูดในสิ่งที่เธอไม่อยากฟังออกมา สุดท้ายเสียงนั้นก็พูดขึ้น ในจังหวะที่ครีมเดินห่างออกมาสามสี่ก้าว “กูว่า...กูไม่อยากเป็นเพื่อนกับมึงแล้วว่ะครีม” ... กึก! สองขาของครีมหยุดชะงัก นั่นไง สิ่งที่ครีมนึกกลัว กลัวว่าสักวันหนึ่งธันย์จะต้องพูดแบบนี้ออกมา และเขา...คงจะคิดจริงจังกับ ‘ต้นข้าว’ ซึ่ง ‘ต้นข้าว’ ที่ว่านี้ นี่ก็คือเพื่อนใหม่ของครีมเอง เธอเป็นคนแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน ธันย์เงียบ ส่วนครีมก็...เงียบ ความรู้สึกประเดประดัง จนทำให้เธอจุก จุกจนพูดออกมาไม่ถูก “คือกูกำลังจะบอกมึงว่า....” “พอ...นายไม่ต้องพูดอะไรออกมาแล้วธันย์เพราะนายพูดแบบนี้กับฉัน เป็นครั้งที่สองแล้ว” ใช่...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ธันย์พยายามบอกกับเธอ ถ้านับไปครั้งแรกที่เขาเคยพูดแบบนี้ คือตอนที่ทั้งคู่จบม.5 ก่อนที่ธันย์จะย้ายโรงเรียนกะทันหัน ทำให้ทั้งสองคนไม่ได้เจอหน้ากันตลอดหนึ่งปีตอนม.6 แต่จนแล้วจนรอด โลกกลม ๆ ก็เหวี่ยงให้ครีมต้องมาเจอธันย์อีกครั้ง ในตอนเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันปีที่แล้ว แถมต้องมาอยู่คอนโดเดียวกันข้างห้องกันอีก ครีมเงยหน้าขึ้นมองเพดาน ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหน่วง ๆ สุดท้ายก็รวบรวมความรู้สึกภายในใจเก็บเอาไว้แล้วหันหลังกลับไปมองธันย์ “โอเค...งั้นเราสองคนก็ไม่ต้องเป็นเพื่อนกัน...” เสียงครีมดูสั่น ๆ คล้ายมีอะไรบางอย่างจุกขึ้นมาอยู่ที่คอ จุกนะที่ต้องพูดคำนี้ออกมา แล้วไม่รู้ว่าทำไมม่านน้ำตาของเธอมันเอ่อขึ้นมาเองดื้อ ๆ กับอีแค่คนคนหนึ่งบอกไม่อยากเป็นเพื่อนกับเราแล้ว ทำไมต้องเสียใจด้วยนะ ...ฮึบสิ…ครีม อย่าร้อง... “ตามที่นายบอกเลยธันย์ ต่อไปไม่ต้องเป็นเพื่อนกันงั้นไม่ต้องมาเจอ ไม่ต้องเห็นหน้า ถ้าเจอกันก็ไม่ต้องทัก ตามนี้เลย เพราะฉันก็ไม่อยากเป็นเพื่อนกับนายแล้วเหมือนกัน!” ธันย์กดบุหรี่ลงกับกำแพง ก่อนหันมามองหน้าเธอด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ครีมมึงรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา” “สติดี ไม่ได้เมา” “กูว่ามึงกับกูกำลังพูดคนละเรื่องเดียวกัน...” ???
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม