อลิษากลับมาที่สถาบันเดิมอีกครั้ง เธอร้อนใจเป็นบ้าเพราะหมออินทัชคิวแน่นไปถึงอีกสองเดือนข้างหน้า โชคดีของเธอที่มีคิวหนึ่งเลื่อนออกไปพอดี อลิษาเลยใช้เงินช่วยนิดหน่อยเพื่อให้ได้คิวนั้นมา
ซึ่งก็คือวันนี้
ที่นี่เป็นสถานบริการเกี่ยวกับเพศและครอบครัวแบบครบวงจร จะเรียกว่าโรงพยาบาลก็ไม่เชิง เพราะสถาบันนี้ดูแลแค่เฉพาะทาง ให้คำปรึกษาเรื่องบุตรและช่วยเหลือผู้ที่มีบุตรยากรวมถึงทำคลอด ดูแลเรื่องเพศตั้งแต่ตรวจภายในไปจนถึงปรึกษาเรื่องอวัยวะเพศไม่แข็งตัวหรือหลั่งไว รับปรึกษาและรักษาปัญหาทางด้านจิตใจเกี่ยวกับเพศและครอบครัวทุกเรื่องโดยจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
สถาบันนี้ก่อตั้งมาเป็นเวลาห้าปีโดยคุณหมออินทัช ผู้ที่ได้รับฉายาว่าคุณหมออัจฉริยะ เขาเป็นคุณหมอมือหนึ่งเรื่องการทำบุตรให้คู่สามีภรรยาที่มีบุตรยาก ไม่มีเคสไหนที่อินทัชล้มเหลว ตลอดเวลาที่เปิดสถาบันมาห้าปี มีเด็กนับร้อยที่เกิดขึ้นมาจากฝีมือของหมออินทัช
สำหรับอินทัชนั้นไม่มีอะไรที่ยากเกินไป เขาเชื่อว่าทุกอย่างบนโลกมีทางออก เชือกถ้าผูกได้ก็ย่อมต้องมีทางแก้ จนกระทั่งวันนี้ที่เขาแทบจะเปลี่ยนความเชื่อของตัวเองทั้งหมด
“คุณอลิษา”
“คุณหมอจำลิษาได้ด้วย”
อลิษายิ้มกว้าง มองคุณหมอผู้หล่อเหลาด้วยดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ
“พอดีมีชื่อเขียนไว้น่ะครับ” เขายกแฟ้มให้อลิษาดู
อินทัชเห็นรอยยิ้มกว้างหุบฉับลงทันที อันที่จริงเขาจำผู้หญิงคนนี้ได้จริง ๆ นั่นแหละ รูปร่างหน้าตาโดดเด่นขนาดนี้ แต่อินทัชคิดว่าไม่พูดออกไปคงจะดีกว่า
“ไม่ทราบว่าคุณอลิษาอยากปรึกษาส่วนตัวกับผมเรื่องอะไรครับ”
ในแฟ้มไม่มีเขียนบอก กำกับมาแค่ต้องการปรึกษาเรื่องส่วนตัวที่เป็นความลับ ในทางการแพทย์ที่ต้องรักษาความลับของคนไข้ยิ่งชีพเจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิ์เค้นถาม ยกเว้นคนที่ต้องดูแลเคสนี้อย่างอินทัช
“เรื่องมีลูก จำได้ไหมคะว่าฉันมาปรึกษาเรื่องมีลูกกับคุณหมอเมื่อสองเดือนกว่า ๆ ที่แล้ว”
“ครับ ในประวัติมันเขียนไว้”
“..ค่ะ” หญิงสาวหน้ายู่หน้า ถ้าไม่มีประวัติคุณหมอก็คงจำเธอไม่ได้สินะ
แต่สุดท้ายอลิษาก็กลับมายิ้มกว้างเหมือนเดิม คุณหมอคิวแน่นขนาดนั้น สองเดือนที่ผ่านมาคงเจอคนเป็นร้อย ๆ จำไม่ได้ก็ไม่เห็นแปลกเลย
“มีคุณหมอรับทำให้ฉันแล้วนะคะ”
“ยินดีด้วยครับ ขอให้สำเร็จนะครับ”
“มันไม่สำเร็จแน่ ๆ ค่ะถ้าคุณหมอไม่ช่วย”
“คุณอลิษาครับ”
อินทัชปิดแฟ้มลง เขามองหน้าสวยจัดของอลิษาอย่างจริงจัง
“ผมบอกชัดเจนแล้วนะครับว่าทำไม่ได้ ผมไม่อยากเอาสถาบันไปข้องเกี่ยวกับเรื่องสีเทา ถ้ามีปัญหาขึ้นมาไม่ใช่แค่ผมที่จะแย่ ผมอยากให้คุณเข้าใจนะครับ”
“ฉันก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้คุณหมอทำให้นี่คะ ฉันบอกแล้วว่ามีคุณหมอคนอื่นรับทำให้แล้ว”
“แต่คุณบอกว่าผมต้องช่วยถึงจะสำเร็จ”
“ใช่ค่ะ” อลิษาพยักหน้าแรง ๆ “แต่เรื่องฉันจะขอที่ให้ช่วย คุณหมอไม่เดือดร้อนแน่นอนค่ะ”
อินทัชถอนหายใจ ไม่เคยเจอใครที่ตื้อหนักขนาดนี้มาก่อน อลิษาคือคนแรก และอินทัชก็หวังว่าจะเป็นคนสุดท้าย..
“ลองว่ามาสิครับ”
เขาจะยอมรับฟังให้มันจบ ๆ ไป ส่วนจะช่วยหรือไม่นั้นอินทัชยังบอกไม่ได้
“ตรง ๆ เลยนะคะ ฉันอยากได้สเปิร์มของคุณหมอ”
“อะไรนะครับ!!”
“ฉันมาขอซื้อสเปิร์มคุณหมอค่ะ คุณหมอจะขายราคาเท่าไหร่คะ”
อินทัชนิ่งค้างเหมือนถูกแช่เข็ง เขาเบิกตากว้างมองผู้หญิงที่หน้าตาสะสวย แต่งตัวดี พูดจาสุภาพ แต่กลับพูดออกมาว่าอยากซื้อสเปิร์มของเขาได้หน้าตาเฉย ท่าทางของเธอจริงจังไม่มีวี่แววล้อเล่น อลิษาไม่ได้ล้อเล่น.. แต่อินทัชกลับอยากให้มันเป็นแค่เรื่องตลกขบขันที่เอามาหยอกล้อกันมากกว่า
เมื่อเห็นคุณหมอเงียบไปอลิษาก็คิดไปเองว่าคุณหมออาจจะกำลังประเมินราคาสเปิร์มตัวจิ๋วอยู่ เธอก็เลยใจดีเสนอราคาให้ด้วยตัวเลขที่มากกว่าสเปิร์มจากเว็บสีเทาหลายเท่า
“สองล้าน”
“ครับ?”
“หรือว่าน้อยไปคะ ถ้าอย่างนั้นห้าล้านก็ได้ ฉันจ่ายไหวแค่นี้นะคะคุณหมอ อย่าขูดรีดผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้เลยค่ะ”
“คุณอลิษา”
“คะ?”
“ไม่ทราบว่าอะไรทำให้คุณคิดว่าผมจะขายสเปิร์มกิน”
อินทัชถามเสียงเครียด เขาไม่ตลกเลย อลิษาไปเอามาจากไหนว่าเขาขายสเปิร์มตัวเองจนมาเสนอราคาให้แบบนี้
“ไม่มีค่ะ”
“ไม่มี?”
“ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ
“แล้วทำไม..”
“ฉันแค่ถูกชะตากับคุณ และคุณสมบัติของคุณก็เป็นคุณสมบัติที่ฉันอยากได้มาเป็นพ่อพันธุ์”
“พ่อพันธุ์?”
“ค่ะ ฉันอยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามี ฉันก็เลยต้องการหาพ่อพันธุ์ที่ดีที่สุดเพื่อลูกที่จะเกิดมา คุณน่ะ.. เหมาะสมที่สุดแล้วค่ะ ทั้งหล่อ สูง ฉลาด ไม่ดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่ ส่วนฉันเองก็สวย เรียนจบปริญญาโท มีธุรกิจของตัวเอง และไม่ดื่มไม่สูบเหมือนกัน คุณนึกภาพออกไหมคะว่าลูกของฉันจะออกมาเป็นประชากรที่มีคุณภาพขนาดไหน”
“คุณอลิษา ลูกไม่ใช่ธุรกิจ”
“ฉันก็ไม่ได้มองว่าเขาเป็นธุรกิจนี่คะ ถึงมันจะฟังแล้วคิดไปได้แบบนั้นก็เถอะ แต่ฉันแค่อยากให้เขาเกิดมาพร้อมกับสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันพอจะทำได้”
อินทัชฟังอลิษาพูดเจือยแจ้วด้วยความใจเย็น เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่อลิษาต้องการสื่อ อินทัชเปิดใจกว้างรับฟังในฐานะหมอคนหนึ่ง เขาพอจะดูออกคร่าว ๆ ว่าอลิษาไม่ได้มีปัญหาทางจิตแต่อย่างใด เธอแค่อยากมีลูกและค่อนข้างเป็นเพอร์เฟกต์ชั่นนิสต์ ทุกอย่างสำหรับเธอต้องเพอร์เฟกต์และดีที่สุด รวมถึงลูกด้วย
“ผมมีข้อเสียตั้งมากมายที่คุณไม่รู้ ไม่ได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้นหรอกนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรู้ว่าไม่มีใครเพอร์เฟกต์ทุกอย่างอยู่แล้ว แค่อะไรที่ถ่ายทอดมาให้ลูกได้มันดีฉันก็โอเค พวกนิสัยหรืออะไรภายนอกฉันสามารถสอนเขาได้”
อลิษาพูดชัดถ้อยชัดคำ มีความมั่นอกมั่นใจตามประสาผู้บริหารไฟแรง เธอมั่นใจว่าอินทัชจะยอมขายสเปิร์มให้เธอ เพราะตลอดเวลาที่อธิบายเขาไม่มีท่าทางต่อต้านเลย แถมยังรับฟังเป็นอย่างดี
“ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะไม่ให้ลูกมาวุ่นวายกับคุณเด็ดขาด คุณไม่ต้องเป็นพ่อของเขา และเมื่อคุณแต่งงาน ฉันก็ขอยืนยันว่าลูกจะไม่เป็นปัญหาให้คุณและภรรยาของคุณ ฉันยินดีทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรค่ะ”
อินทัชเงียบ
“คุณหมออินทัชคะ ขายสเปิร์มของคุณให้ฉันเถอะนะคะ”
คุณหมอยังคงเงียบ ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใด ๆ
“คุณหมอ..”
“คุณอลิษาคงไม่รู้ ว่าการใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์เข้าช่วยมันไม่ได้ดีไปกว่าทำตามธรรมชาติเลย โอกาสติดมากกว่าแต่ก็ไม่เยอะ และคุณต้องทนฉีดยาเข้าหน้าท้องเกือบเดือน เจ็บตัวโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้ผลไหม”
“ฉันทนได้ค่ะ”
“งั้นเหรอครับ” อินทัชเลิกคิ้วสูง “แต่ผมเสียใจที่ต้องบอกตามตรงว่า.. ผมไม่ขาย”
"ทำไมล่ะคะ"
“หนึ่ง ผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน สอง ผมไม่ต้องการมีลูกที่ไม่ได้เกิดจากคู่สมรส”
“แต่ต่างประเทศเขาทำกันปกตินี่คะ บางคนช่วยให้คุณแม่ที่อยากมีลูกมีลูกได้สมใจไม่รู้ตั้งกี่คน”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปทำที่ต่างประเทศสิครับ”
อินทัชพูดเรียบ ๆ แต่แปลได้ว่าเขากำลังไล่เธอให้ไปไกล ๆ อลิษาเข้าใจแต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องหน้าหนาให้ถึงที่สุด
“แต่ฉันอยากได้ของคุณคนเดียวนี่คะ”
“แต่ผมไม่ขายครับ”
“แล้วต้องทำยังไงฉันถึงจะได้ล่ะคะ”
“ไม่ต้องทำอะไรหรอกครับ เพราะมันไม่มีวันนั้นแน่นอน คุณกลับไปเถอะ อย่าทำให้ทั้งผมและคุณต้องเสียเวลาไปมากกว่านี้เลย”
อลิษาอ้าปากค้าง คุณหมอที่แสนสุภาพจิกกัดเธอได้เจ็บ ๆ คัน ๆ คำพูดนุ่ม ๆ ที่เชือดได้นิ่ม ๆ บางทีอาจจะทำให้รู้สึกละอายยิ่งกว่าโดนด่าแรง ๆ ด้วยซ้ำ
ผู้บริหารสาวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง วางมือลงบนโต๊ะแล้วโน้มตัวไปข้างหน้าจนเนินอกอิ่มในชุดเดรสล้นทะลักออกมา
อินทัชเบนสายตาไปทางอื่น เขาเห็นร่างกายผู้หญิงมานับร้อยนับพัน แต่นั่นมันตอนที่รักษา ไม่ใช่เวลาแบบนี้
“คุณรู้ไหมคะว่าฉันจะไม่ปล่อยมือจากสิ่งที่ต้องการง่าย ๆ”
“....”
“เตรียมรับมือได้เลยค่ะ ฉันไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้แน่ ๆ”