บทที่ 9
"หึ"
"เดี๋ยว!! ปล่อยฉันนะ" ร่างบางถูกนายตำรวจหนุ่มอุ้มขึ้นรถ โดยที่ร่างสูงไม่ฟังเสียงโวยวายของเธอสักคำ
"ฉันจะแจ้งกลับ ลักพาตัวกักขังหน่วงเหนี่ยวหมิ่นประมาทโอ๊ย!" เมื่อพูดเยอะไปจึงได้มะเหงกมาหนึ่งทีพร้อมกับรอยยิ้มเอ็นดูจากนายตำรวจหนุ่ม หึ จะยิ้มเก่งไปแล้วนะคุณตำรวจ
"รู้เยอะเสียด้วย"
"คุณไม่มีหลักฐานคุณจะมาจับฉันได้ยังไง"
"คุณไงหลักฐาน" คนที่อยู่ ๆ กลายเป็นหลักฐานถึงกับงับปากแทบไม่ทัน ทำไมอยู่ดี ๆ กลายเป็นหลักฐานจับตัวเองไปเสียแล้ว "หึ" ลูกศิษย์นักโจรกรรมถึงกับไปไม่เป็น
"..."
"นี่คุณแกะไอ้นี่ออกได้แล้วมั้ง" พะพิงยกข้อมือโชว์ให้คนที่ไปอุ้มเขามาจากหน้าผับดู
"ทุกรอบก็ทำได้นี่รอบนี้คงทำได้ใช่ไหมล่ะ" กวน! จนร่างบางนึกหมั่นไส้ ตั้งแต่โดนพาตัวมานายตำรวจหนุ่มก็พาหล่อนเข้ามานั่งในห้องทำงานไม่ได้พาไปไว้ในห้องขังอย่างที่คิดไว้ พอเข้ามาเจ้าของห้องก็เอาแต่นั่งทำงานไม่พูดจาอะไรกับพะพิงสักคำ
"คุณ"
"..."
"นี่คุณ"
"..."
"ถ้าจับมาแล้วไม่ทำอะไรฉันของตัวกลับก่อนแล้วกัน" พะพิงรู้สึกหงุดหงิดแล้วตอนนี้
"คุณหวังว่าผมจะทำอะไรคุณเหรอ" น้ำเสียงกวนประสาทของเจ้าของห้องทำให้คนที่หงุดหงิดอยู่แล้วยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม
"ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น!"
"คุณรูดทรัพย์ผมทำไม"
"เฮ้อ ท่านรองฉันจะบอกอีกรอบฉันไม่ใช่โจร"…ผู้ร้ายปากแข็ง
"ผมมั่นใจว่าเป็นคุณ"
"คุณไม่มีหลักฐาน" ถึงแผ่นดินจะมั่นใจว่าโจรรูดทรัพย์คือพะพิง แต่ก็แล้วไงล่ะร่างบางยิ้มอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า
"เหอะ!" เมื่อเห็นผู้ร้ายปากแข็งแผ่นดินก็อยากจะตีปากนิ่ม ๆ นั่นสักทีสองที "ผมไม่เข้าใจว่าคุณรูดทรัพย์ผมไปทำไม" เท่าที่ดูจากประวัติแล้วร่างบางไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินแค่กิจการผับระดับ vvip นั่นก็ได้กำไรไม่ต่ำกว่าเดือนละแปดหลักแล้วมั้งมีแต่ลูกค้ากระเป๋าหนักทั้งนั้น
"คนเราไม่จำเป็นต้องเข้าใจทุกเรื่องนะท่านรอง"
"..."
"หึ ฉันจะบอกอะไรให้อย่างหนึ่ง" เมื่อเห็นแววตาเคลือบแคลงของแผ่นดินก็อดพูดออกมาไม่ได้
"ว่ามาสิ"
"ฉันไม่ได้คิดร้ายกับคุณหรอก"
"หึ" คนฟังได้แต่หัวเราะในลำคอ ไม่ได้คิดร้ายแต่มาหลอกรูดทรัพย์เขาเนี่ยนะมันสมเหตุสมผลเหรอ
"งานของฉันมันจบแล้ว คุณไม่ต้องคิดให้ปวดหัวหรอก"
"ยอมรับแล้วเหรอ" เมื่อได้ยินคนร้ายสารภาพ?
"เปล่านิ แต่ถึงถ้ายอมรับคุณก็จับฉันไม่ได้อยู่ดี"
"มั่นใจขนาดนั้นเชียว"
"ท่านรองแผ่นดินคุณควรจำไว้ คุณ-ไม่-มี-หลัก-ฐาน :) " ทำไมคนร้ายจะไม่มั่นใจล่ะ ในเมื่อเป็นคนวางแผนเองทั้งหมดข้อผิดพลาดเล็กน้อย ๆ จะมีพวกคนในทีมจัดการให้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องหลักฐานถึงฝันยังไม่มีให้เห็นเลย
"คุณรู้ไหมว่าคุณมีกลิ่นเฉพาะตัวที่หอมมาก" คนที่ถูกบอกว่ามีกลิ่นเฉพาะตัวอดที่จะก้มดมกลิ่นที่ว่านั้นจากตัวเองไม่ได้ แต่ก็พบแต่กลิ่นน้ำหอมแบรนด์ดังที่ฉีดก่อนออกจากบ้าน
"คุณมั่ว" พะพิงมั่นใจว่าเขาทิ้งน้ำหอมกลิ่นที่เขาฉีดในวันนั้นไปแล้ว แผ่นดินจะมามั่วจำกลิ่นนั้นได้ไง
"หึ กลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม" เมื่อเห็นว่าพะพิงเอาแต่ก้มดมตัวเองก็อดยิ้มขำไม่ได้ และยิ่งเห็นคิ้วสวยขมวดเข้าหากันเพราะสงสัยก็เลยเฉลยให้ฟัง
"คุณเป็นหมาหรือไง"
"กลิ่นคุณแค่มีเอกลักษณ์เท่านั้นเอง" เอกลักษณ์ในความหมายของแผ่นดินคือถูกใจเจ้าของกลิ่นเลยจำไม่มีวันลืม
"ขนลุก"
"หึ"
"ท่านรองถูกใจกันก็พูดออกมาเท่านั้น" ร่างบางเดินไปทิ้งตัวนั่งตักแกร่ง ก่อนที่มือเรียวสวยที่หลุดจากพันธนาการตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ถูกคนมากเล่ห์เชยคางได้รูปของนายตำรวจหนุ่ม "ไม่เห็นต้องอ้อมค้อมเลย" เมื่อรู้สึกว่านายตำรวจนั่งตัวแข็งก็อดจะแกล้งกระซิบที่ข้างหูไม่ได้
"..."
"หึ เก็บอาการหน่อยท่านรอง" เมื่อเห็นใบหน้าหล่อขึ้นสีเข้มกับเสียงหัวใจที่เต้นเร็วกว่าปกติก็อดแซวไม่ได้ "เห้อ กุญแจมือของคุณหลุดเสียแล้ว" ร่างบางย้ายตัวเองไปนั่งที่เดิมก่อนจะหยิบซากกุญแจมือขึ้นมาควงให้แผ่นดินดู
"นี่คุณ! ทำลายของหลวงเหรอ" มือหนาหยิบกุญแจมือเคเบิ้ลไทร์ขึ้นมาดูก็พบว่ามันโดนตัดด้วยของมีคม
"จุ ๆ คุณเป็นคนบอกให้ฉันแกะเองนะ" พะพิงใช้ใบมีดขนาดเล็กที่ซ่อนไว้ตัดอยู่ตั้งนานกว่ากุญแจมือเจ้าปัญหา? จะขาด
"เห้อ"
ก๊อก ก๊อก
"ขออนุญาตครับท่านรอง"
"เข้ามาจ่าแช่ม"
"มีคนมารับตัวคุณพะพิงครับ" จ่าแช่มรีบรายงานทันทีที่เข้ามา ในมือถือคีมตัดเคเบิ้ลไทร์มาด้วย
"อืม เดี๋ยวผมพาออกไป"
"ไม่ตัดก่อนเหรอครับ" จ่าแช่มจำได้ว่าพะพิงโดนล็อกข้อมือตอนท่านรองพาเข้ามา
"ไม่" มือหนาส่งซากขอกุญแจมือให้จ่าขี้ลืมดู "มันเปื่อย" เพราะขี้เกียจตอบคำถามลูกน้องขี้สงสัยเลยบอกไปแบบนั้น
"ครับ" ถึงจ่าจะงงแต่เมื่อนายบอกแบบนั้นก็คือแบบนั้น "งั้นผมขอตัวนะครับ"
"อืม"
"หึ จ่าแกเชื่อนะครับ" พะพิงได้แต่ขำเบา ๆ "งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
"พี่เพชร" พะพิงเอ่ยทักคนที่มารับหล่อนกลับอย่างแปลกใจทำไมรอบนี้ป๋าถึงส่งพี่เพชรมาทั้งที่ปกติจะเป็นลูกน้องอีกคนของป๋า
"ขอโทษที่มาช้านะครับ" ร่างสูงกล่าวอย่างรู้สึกผิดเพราะกว่าเขาจะรู้ว่าน้องพะพิงโดนท่านรองแผ่นดินพาตัวมาก็เลยเวลาไปหลายชั่วโมงแล้ว
"ไม่เป็นไรค่ะพี่เพชร" มันไม่ใช่ความผิดของพี่เพชรสักหน่อยช่วงนี้ป๋ายังไม่กลับจากประเทศทำให้สายของป๋าทำงานช้าก็ไม่แปลก การที่พี่เพชรตามมารับเขาภายในสามชั่วโมงนี่ก็ถือว่าไวแล้ว
"ครับ"
"อะ แฮ่ม" เพราะมัวแต่คุยกันร่างบางจึงไม่ได้สังเกตว่ามาใครเดินตามออกมาด้วย
"อ้าว ท่านรองสวัสดีครับ" สารวัตรพชรเอ่ยทักท่านรองแผ่นดินตามมารยาท สารวัตรหนุ่มค่อนข้างไม่พอใจแผ่นดินเท่าไหร่เพราะชายหนุ่มบังคับพาพะพิงมาที่นี่
"สวัสดีสารวัตรเพชร"
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวพาน้องพิงกลับก่อนนะครับ"
"ไปก่อนนะคะท่านรอง" โจรแสบตอบอย่างอารมณ์ดีก่อนจะละมือข้างหนึ่งที่กอดแขนล่ำของพี่เพชรออกมาโบกมือลาท่านรอง
"เหอะ" เมื่อเห็นว่าร่างบางเอาแต่เกาะแขนของเพชรอย่างสนิทสนมก็เกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นมา "ครับ" จึงตอบรับส่ง ๆ แล้วเดินกลับห้องทำงานไป