เริงเสน่หาแม่มด

ดินแดนแห่งเวทมนตร์อันลี้ลับอันเป็นดินแดนของเหล่าพ่อมดแม่มดทั้งหลาย ตั้งอยู่อีกห้วงมิติกับโลกมนุษย์และดินแดน อื่นๆ ในจักรวาล มีราชาและราชินีเป็นผู้ปกครองแม่มดพ่อมด พวกเขาต่างถือกำเนิดมาจากต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานของพระราชวังขององค์ราชา วัฏจักรชีวิตของเหล่าพ่อมดแม่มดล้วนกำเนิดและแตกดับวนเวียนกันไปไม่รู้จบสิ้น ยามหมดอายุขัยร่างกายจะกลายเป็นเศษเถ้าธุลีกองเล็กๆ กองหนึ่ง ต่างจากมนุษย์และสรรพสัตว์ในแดนอื่น พ่อมดแม่มดที่หมดอายุขัยจะถูกนำเถ้ากระดูกใส่ขวดแก้ว ราชาจะส่งเถ้ากระดูกไปยังกลางลำต้นของต้นไม้แห่งชีวิตเพื่อให้กำเนิดใหม่ ต้นไม้แห่งชีวิตคือต้นไม้วิเศษกำเนิดคู่ดินแดนเวทมนตร์นี้มาตั้งแต่เริ่มแรก ลักษณะเป็นต้นไม้สูงกว่าสิบเมตร ลำต้นเท่ากับสิบคนโอบ มีด้วยกันสองต้น ต้นหนึ่งให้กำเนิดแม่มด อีกต้นให้กำเนิดพ่อมด ต้นไม้แห่งชีวิตลำต้นและใบเป็นสีม่วงใสคล้ายผลึกอัญมณีอะเมทิสต์ แผ่กิ่งก้านกินบริเวณกว้างนับสิบเมตร เรืองแสงในยามค่ำคืนละม้ายโคมไฟแก้ว ใต้ร่มเงาไร้สรรพสัตว์ใดๆ อาศัยเพราะมีความร้อนสูงแผ่กระจายออกมาจากใบและลำต้น ตรงกลางลำต้นช่วงบนสุดมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำอยู่ใจกลาง ขวดบรรจุเถ้ากระดูกของแม่มดพ่อมดที่สิ้นอายุขัยจะถูกดูดกลืนลงไปภายในลำต้น บนกิ่งแต่ละกิ่งจะมีดอกไม้ขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายดอกบัวห้อยระย้าลงมา ดอกเป็นสีม่วงเช่นเดียวกับลำต้นและใบ รอวันเบ่งบานให้กำเนิดชีวิตใหม่ ในแต่ละดอกให้กำเนิดแม่มดหรือพ่อมดหนึ่งชีวิต จะเบ่งบานในทุกๆ คืนเพ็ญต้นละสิบดอก ใช้เวลาตั้งแต่เป็นดอกตูมจนเบ่งบานสิบห้าปีเต็ม ยามดอกของต้นไม้แห่งชีวิตเบ่งบาน ราชาและราชินีจะเป็นผู้มารอรับเหล่าพ่อมดแม่มดที่ถือกำเนิดขึ้นใหม่ด้วยตัวเอง และจะเป็นผู้ตั้งชื่อให้เหล่าพ่อมดแม่มดแต่ละตน เป็นเช่นนี้อยู่ชั่วกาลนาน พ่อมดหนุ่มน้อยเมื่อกำเนิดมา จะโดนแยกไปยังดินแดนพ่อมดซึ่งอยู่ทิศตะวันออกของดินแดนเวทมนตร์ มีราชินีเป็นผู้ดูแล ส่วนแม่มดสาวน้อยจะอยู่ภายใต้การปกครองของราชาพ่อมดในดินแดนทิศตะวันตกนี้ กฎของดินแดนแห่งเวทมนตร์สำหรับพ่อมดและแม่มดคือ เหล่าพ่อมดแม่มดในวัยสิบห้าปีจะต้องเข้าไปถวายตัวให้แก่ราชาและราชินีแม่มด เพื่อรับพรและพลังเวทย์ในการเป็นพ่อมดแม่มดเต็มตัว และหากแม่มดพ่อมดตนใดปรารถนาจะได้พลังเวทย์ที่สูงกว่าพลังเวทย์ธรรมดา มีอีกทางเลือกคือเมื่ออายุครบสิบแปดปีก็จะต้องไปสังเวยตัวเองกับซาตานในวิหารดำ ทุกๆ เดือน แม่มดจำนวนสิบตนจะถูกนำเข้าถวายตัวกับราชาพ่อมดตามความสมัครใจ และในวันเดียวกันราชินีแม่มดก็จะไปที่ปราสาทในดินแดนของพ่อมดทางทิศตะวันออกเพื่อรับการถวายตัวจากพ่อมดน้อยจำนวนสิบตนเช่นกัน หลังจากถวายตัวแล้วก็จะสามารถจับคู่เสพสมกันได้อย่างเสรี หรือจะครองคู่แต่งงานกันก็ได้หากผูกใจรักกัน แต่หากแม่มดพ่อมดคู่ใดเลือกแต่งงานกันแล้ว จะไม่มีสิทธิ์ไปเสพสมกับพ่อมดแม่มดตนอื่นในดินแดนอีก แม้ว่าคู่ของตนจะสิ้นอายุขัยไปก็ตาม กฎอีกข้อของดินแดนเวทมนตร์คือ พ่อมดแม่มดตนใดยังไม่ได้ถวายตัวให้องค์ราชาหรือองค์ราชินี จะถูกห้ามไม่ให้เสพสมกับพ่อมดแม่มดตนอื่นๆ และหากอายุขัยครบสิบแปดปีแล้วยังไม่ได้ถวายตัวให้ราชากับราชินี  ก็จะถูกนำไปสังเวยให้ซาตานในวิหารดำในคืนเดือนมืด บางครั้งมีหนึ่งตนหรือบางครั้งไม่มีสักตน แม่มดพ่อมดกลุ่มนี้จะถูกสูบวิญญาณและความอ่อนเยาว์จนกลายเป็นพ่อมดแม่มดเหี่ยวชรา แต่จะได้อำนาจวิเศษด้านเวทมนตร์เหนือกว่าพ่อมดแม่มดธรรมดา มีสองทางเลือกในโลกของเวทมนตร์ หากผู้ใดไม่ทำตามก็หมดสิทธิ์อยู่ในดินแดนนี้ จะถูกสลายวิญญาณจนหมดอายุขัยและหมดโอกาสกำเนิดใหม่ เถ้าธุลีจะโดนโยนทิ้งไปในบ่อกรดไม่มีสิทธิ์ได้กำเนิดในต้นไม้แห่งชีวิตอีก คืนนี้เป็นคืนเดือนดับ คืนที่แม่มดในดินแดนแม่มดที่อายุครบสิบแปดปีต้องสังเวยร่างให้แก่ซาตานแลกกับพลังเวทย์อันมหาศาลและมีชีวิตอยู่รอดในดินแดนแห่งนี้ ฟาร่าแม่มดสาววัยสิบแปดอายุครบกำหนดสังเวยร่างให้ซาตานในค่ำคืนนี้ เธอเป็นเพื่อนสนิทกับมอลลี่แม่มดสาวซึ่งจะอายุครบสิบแปดในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ฟาร่าไม่ได้เข้าไปถวายตัวกับราชาพ่อมดจนอายุครบสิบแปดในคืนนี้ เธอจึงถูกหัวหน้าแม่มดนำตัวมาสังเวยให้ซาตานตามกฎของดินแดนแม่มด วิหารดำซึ่งเป็นที่สังเวยซาตานมีสองแห่ง แห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่ดินแดนพ่อมดทางทิศตะวันออก และตั้งอยู่ใกล้ปราสาทของราชาพ่อมดในดินแดนแม่มดแห่งนี้ ฟาร่าถูกนำตัวมายังวิหารดำในช่วงตะวันตกดิน โดยมอลลี่ได้แอบตามมาดูชะตากรรมของเพื่อนรัก เธอลอบเข้ามาในวิหารดำและแอบอยู่ที่หลังรูปปั้นซาตาน ซึ่งเป็นรูปปั้นคนแต่มีศีรษะเป็นแพะขนาดใหญ่นับสิบเมตร ด้านหน้ามีแท่นหินสีดำขนาดเท่าเตียงนอน สำหรับวางเครื่องสังเวยซึ่งก็คือ แม่มดสาววัยสิบแปดนามว่าฟาร่านั่นเอง คบไฟข้างผนังวิหารได้ถูกจุดขึ้นจนสว่างไสว ทำให้คนที่แอบมองอยู่หลังรูปปั้นเห็นพิธีกรรมต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ภายในโถงใหญ่หน้ารูปปั้นซาตาน แม่มดชราผู้มีใบหน้าเหี่ยวย่น จมูกงองุ้มน่าเกลียดน่ากลัว ได้พาแม่มดฟาร่ามายังแท่นพิธี “ฟาร่า ถอดชุดคลุมของเจ้าออก แล้วจงขึ้นไปนอนบนแท่นศิลาดำ” ฟาร่าทำตามคำสั่งด้วยใจเต้นระทึก เธอถอดชุดคลุมหนาหนักออกทิ้ง แล้วก้าวขึ้นไปทอดกายบนแท่นศิลาดำ ก่อนหน้านี้ ฟาร่าถูกนำตัวไปอาบน้ำชำระร่างกายจนสะอาด แม่มดผู้คุมกฎจัดชุดคลุมสีดำให้สวมทับชุดกระโปรงสีดำผ้าโปร่งบาง แล้วพาตัวเข้ามาในวิหารดำ แม่มดผู้คุมกฎจะมอบน้ำลาวาให้ดื่มหนึ่งแก้วใหญ่ เพื่อมอมสติให้แม่มดสาวรับการสังเวยจากซาตานได้โดยไม่ขาดใจตายไปก่อน และจะได้ร่วมมีความหฤหรรษ์ขณะสังเวยร่างอย่างเต็มที่ “หลับตาของเจ้าลงฟาร่า ข้าจะอัญเชิญซาตาน ห้ามลุกขึ้น ห้ามลืมตาขึ้นจนกว่าจะเสร็จพิธี ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกสลายวิญญาณ” แม่มดผู้คุมกฎกล่าวจบ ก็เริ่มร่ายเวทย์อันเชิญซาตานให้ปรากฏกายออกมารับเครื่องสังเวย เสียงร่ายมนตร์ดังก้องขึ้นภายในโถงกว้างนั้นจนคนที่ได้ยินขนลุกขนพอง “ข้าแต่ซาตาน ได้โปรดปรากฏกายออกมารับการสังเวยจากแม่มดฟาร่าด้วยเถิด” ฟาร่านอนหลับตาแน่น ร่างกายร้อนวูบวาบไปหมดจากฤทธิ์ของน้ำลาวาที่ดื่มไปแก้วใหญ่เมื่อครู่นี้ แม้จะหวาดกลัวแต่ก็ข่มใจยอมนอนนิ่งเพื่อรักษาลมหายใจตัวเองให้อยู่รอดต่อไป ทางเลือกของเธอหมดแล้วเมื่ออายุครบสิบแปดปี จำยอมต้องสังเวยร่างให้ซาตานตามกฎของดินแดนนี้ เปรี้ยง!!! สายฟ้าฟาดลงมาเหนือแท่นศิลาดำ ลมพัดแรงจนคบไฟไหววูบเจียนดับ กลุ่มควันสำพวยพุ่งออกมาจากปากของรูปปั้นซาตาน ค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปร่างของอสูรร่างกายสูงใหญ่ราวสองเมตร ลำตัวสีแดงราวกับเลือด มีเขาบนศีรษะเหมือนเขากระทิง จมูกใหญ่ตาโปน ใบหน้าดุร้ายน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โชคดีของ ฟาร่าที่นอนหลับตาอยู่ แต่เป็นโชคร้ายของมอลลี่ที่ได้เห็นปีศาจเต็มสองตา แม่มดสาวตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ยืนตัวแข็งทื่อในที่ซ่อน จ้องมองดูพิธีกรรมต่อไปด้วยใจระทึก แม่มดผู้คุมกฎคุกเข่าลงทำความเคารพราชาอสูร นั่งสงบนิ่งอยู่เช่นนั้นจนร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปดูแม่มดฟาร่าบนแท่นศิลาดำ ริมฝีปากหนาที่มีเขียวแหลมยื่นออกมาแสยะยิ้มกว้าง เมื่อเห็นร่างงดงามของแม่มดสาว