หลังจากน้าหลานช่วยกันทำกับข้าวจนเสร็จ ธิดารัตน์จึงให้นุชธิดาไปเรียกบิดามาทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน
@โต๊ะกินข้าว
"นี่ลองชิมน้ำพริกนี่ซิ เผ็ดไปมั๊ย ไหนสั่งให้ทำให้กิน อ่ะ" พสุธาพูดพร้อมกับตักน้ำพริกตามด้วยผักที่ไม่มีรสขมให้น้องน้อยทำผู้ร่วมวงในโต๊ะอาหารแอบเหล่มองมุมปากยกยิ้มไปตาม ๆ กัน
"ไม่เผ็ดนะ ม๊าชิมแล้ว ไม่เผ็ดมากลุก กินซิอร่อยเลยแหละ" ธิดารัตน์เอ่ยสนับสนุนสินค้าให้หลานชายอย่างไม่แคร์ใครหน้าไหนทั้งนั้นทำเอาผู้เป็นสามีถึงกับยกยิ้มมุมปาก ซึ่งเขาเองก็เห็นด้วยที่จะได้ใบเตยเป็นหลานสะใภ้อยู่เหมือนกัน ส่วนนุชธิดาก็ยิ้มแก้มปริมองคนนั้นคนนี้ทีอย่างสุขใจ
เมือรับประทานอาหารกันจนอิ่มหนำสำราญ สองสาวขอไปเล่นกับจิ๊ดริ๊ด และดีดี้ ซึ่งทั้งสองได้เป็นเพื่อนกันไปโดยปริยาย ดีดี้เป็นแมวอ้วนที่ไม่มีอุปนิสัยไม่ดุร้ายเลย ออกจะขี้อ้อนขี้กล้วด้วยซ้ำ ส่วนจิ๊ดริ๊ดก็เป็นนกขี้แกล้งชอบแกล้งจิกขนดีดี้แล้วหัวเราะชอบใจแต่ทั้งสองก็ไม่โกรธกันเลย สองสาวพาจิ๊ดริ๊ดและดีดี้ไปเล่นที่สวนหลังบ้านอยู่พักใหญ่
สองสาวและสองตัวเล่นกันจนเหนื่อย สังเกตได้จากแววตาของสองสาวดูอิดโรย มีเหงื่อซึมตามไรผมและกรอบหน้า ส่วนอีกสองตัวไม่ยอมวิ่งไม่ยอมบินนอนกองรวมกันอยู่บนโต๊ะใกล้ ๆ ที่สองสาวนั่งอยู่
อีกด้าน
พสุธานั่งมองสองสาวจากเทอเรซ ที่อยู่ไม่ไกลจากสวนหลังบ้านนักทำให้มองเห็นสองสาวชัดเจน เขาเลือกที่จะนั่งทำงานอยู่ตรงนั้นทุกครั้งที่มาพักบ้านน้าสาว
"ยุงไม่กัดบ้างเหรอพสุ น้าเห็นนั่งอยู่นานแล้ว ช่วงนี้ยุงชุมนะ ยากันยุงก็เอาไม่อยู่หรอก เดี๋ยวน้าจะไปเรียกสองคนนั้นเข้าบ้านเหมือนกันเล่นกันเป็นเด็ก ๆ มืดค่ำไม่ยอมเข้าบ้านซะที น่าตีจริง ๆ เดี๋ยวก็ยุงกัด ไหนจะงูเงี้ยวเขี้ยวขออีก" คนเป็นน้ำบ่นกระปอดกระแปดพร้อมกับเดินไปในสวนหลังบ้าน ขนาดเดินไปไกลแล้ว ยังได้ยินเสียงของเธอชัดเจนอยู่
"หึหึ คร๊าบ" พสุธาตอบรับผู้เป็นน้า แล้วรีบเก็บอุปกรณ์การทำงานแล้วเข้าบ้านไปอย่างว่าง่าย
ทางด้านสองสาวเล่นกันกับสองตัวจนเหงื่อไหลไคลย้อยแล้วมานั่งกองรวมกันทั้งคนทั้งสัตว์
"เข้าบ้านได้แล้ว มืดค่ำ ยุงเยอะ ไหนนะงูเงี้ยวเขี้ยวขอมองไม่เห็นไปเหยียบเข้าเขาก็จะกัดเอานะ" เป็นธิดารัตน์บ่นกระปอดกระแปดพร้อมกับลูบผมลูกสาวและว่าที่หลานสะใภ้อย่างเบามือ
"ค่า/ค่า"สองสาวรับคำอย่างพร้อมเพรียง
"ค่า ค่อก ค่อก/เมี๊ยว...ป็นเสียงจิ๊ดริ๊ด นกแก้วแสนรู้ที่พูดตามสองสาวและตามด้วยเสียงดีดี้เจ้าแมวอ้วน
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า" สามสาวต่างวัยหัวเราะร่วนอย่างมิได้นัดหมายเพราะขำเจ้านกปากแจ๋วกับเจ้าแมวตัวอ้วน
"ปะ เข้าบ้านค่า รู้แล้วก็รีบเลยค่า ไม่งั้นหม่าม๊าจะประเคนไม้เรียวให้ทั้งคนทั้งแมวเลยค่า" สองสาวได้ยินดังนั้นต่างคนต่างอุ้มสัตว์เลี้ยงของตนวิ่งเข้าบ้านอย่างไว ทำเอาคนที่ไปตามถึงกับยิ้มในหน้าแล้วส่ายหัวเบา ๆ
หลังจากสองสาวขึ้นมาบนห้องต่างก็อาบน้ำชำระร่างกายและเช็ดตัวให้สัตว์เลี้ยงของตนจนสะอาดแล้วคนที่ยังเรียนไม่จบก็มานั่งอ่านหนังสือทบทวนบทเรียน ส่วนคนที่ฝึกงานก็ดูการ์ตูณ ดูซีรีย์วนไป
อีกด้าน
พสุธาที่ย้ายเข้ามาทำงานในห้องนั่งเล่นผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงรู้สึกเมื่อยล้าสายตาจึงคิดว่าควรจะขึ้นห้องเข้านอนจะดีกว่า คิดได้ดังนั้นจึงรีบเก็บข้าวของสาวเท้าขึ้นบันไดตรงไปที่ห้องประจำของตนเอง
แต่เอ๊ะ?? ระหว่างที่เดินผ่านห้องของน้องสาวบังเอิญเห็นแสงไฟเล็ดลอดผ่านทางระเบียงมาจากห้องน้องสาวจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปดู และข้อสันนิษฐานของเขาก็ไม่ผิดเลยสักนิด สองสาวหลงหลับอีกตามเคย อีกคนนอนฟุบลงที่โต๊อ่านหนังสือ ส่วนอีกคนกึ่งนั่งกึ่งนอนหลับบนเตียงในมือมือแท็บเล็ตที่กำลังจะตกแหล่มิตกแหล่ พสุธารีบเข้าไปหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาวางที่โต๊ะอ่านหนังสือให้น้องสาวแล้วจัดท่าจัดทางให้นอนดี ๆ พร้อมกับห่มผ้าให้ แล้วเดินไปอุ้มคนตัวเล็กที่อ่านหนังสือจนหลับคาหนังสือมานอนที่เตียงดี ๆ อีกคน แล้วห่มผ้าให้เช่นกัน
เขานึกเอ็นดูและอดที่จะจุ๊บเหม่งของทั้งสองคนไม่ได้ เขาขยับเข้าไปจุ๊บเหม่งน้องสาวก่อน แล้วขยับมาจุ๊บเหม่งของคนของใจเป็นคนสุดท้าย เขายังรู้สึกเหมือนเดิม หัวใจยังเต้นแรงเหมือนเดิม ความรู้สึกนี้ไม่มีเปลี่ยนนับวันยิ่งมั่นใจว่านี่ไม่ใช่แค่ชอบซ๊ะแล้ว มันมากกว่านั้น
ทางด้านธิดารัตน์ที่กำลังเดินมาดูความเรียบร้อยของสองสาวอย่างที่เคยทำประจำมาเห็นหลานชายกระทำกับสองสาวแอบยิ้มกริ่มในใจ เธอจึงไม่อยากแสดงตัวหรือรบกวนอะไร ปล่อยให้หลานชายทำไป เธอเพียงแง้มประตูไปดูสองสาวเพียงเล็กน้อยแล้วเอื้อมมือไปกดล็อกประตูจากข้างในให้แล้วเดินกลับไปยังห้องของตนเองอย่างเป็นสุข