5.อยากรู้จักให้มากขึ้น

1281 คำ
พสุธาพาร์ท หนึ่งปีผ่านไป เด็กน้อยของเขาใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยย่างก้าวเข้าสู่ปีที่สอง ผลการเรียนในปีแรกทำได้ดีมากสมกับพี่ชายเป็นสัตวแพทย์ที่คอยบอกคอยสอนน้องทุกอย่างจริง ๆ เขานึกชื่นชมความรักความเอาใจใส่ที่ต้นข้าวมีต่อน้องสาวของเขามาก ชั้นปีที่สองนี้เด็กน้อยของเขาก็อายุ 19 ปี เพราะเรียนก่อนเพื่อน ก็เลยอายุยังไม่ 20 ปี นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเกร็ง ต้องรู้จักวางตัว หักห้ามความรู้สึกอย่างมากเวลาอยู่ใกล้ ต้องทำหน้าดุเข้าไว้ เดี๋ยวถูกจับได้ เสียงเรียกเรียกเข้าจากน้องนุช ตู้ด..... พสุธา: ว่า น้องนุช: คิดถึง อยากไปหา ไปเยี่ยมคุณป้ากันด้วย พสุธา: เอาดี ๆ คิดถึงพี่กับแม่ หรืออยากให้พี่พาเที่ยว ยัยตัวดี น้องนุช: รู้ทันอิก ก็ทั้งสองอย่างแหละ พสุธา: แล้วจะมาเมื่อไรพี่จะได้บอกคนที่คอยสปอยแกเตรียมของกินไว้ให้ น้องนุช: เสาร์นี้ ออกเดินทางเช้าน่าจะถึงสาย ๆ เตรียมของกินไว้เยอะ ๆ เพราะสามสาวจะไปลุยให้เรียบไม่เหลือ อ้อเตรียมสถานที่เที่ยวและยานพาหนะไว้ด้วย พสุธา: แล้วมีใครมาด้วย น้องนุช: สาวสาวสาวแองเจิ้ล พสุธา: เอาดี ๆ ใคร? น้องนุช: หุ๋ย ก็น้องต้อง น้องนุช แล้วก็น้องคนเล็กสุดใบเตยไง พสุธา: แล้วมายังไง อย่าบอกนะว่าขับรถมาเอง ให้ที่บ้านมาส่งมั๊ย หรือจะให้คนที่ฟาร์มพี่ไปรับ น้องนุช: ไม่ไม่ไม่ น้องจะขับมาเอง คุณนายธิดารัตน์ และคุณเขตแดนอนุญาตแล้ว เจ้าค่ะ ดังนั้น ตามนี้ พสุธา: เออ ขับดีดีล่ะ อย่าแซงซ้าย แซงขวา อย่าขับจี้ ดูหน้าดูหลังให้ดี ระวังตัวด้วยไม่ใช่สนุกไปเรื่อย น้องนุช: ไม่ต้องห่วงค่า เพราะว่ามีบอดี้การ์ดของป๊าตามมาแน่ ๆ เรื่องความปลอดภัยหายห่วง เพียงแต่น้องอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ในการขับรถออกนอกจังหวัดบ้างก็เท่านั้นเอง พสุธา: เออ เออ อย่าให้เหมือนคราวก่อนล่ะ ได้ยินว่าแหกปากร้องไห้ไม่อายวงศ์ตระกูลเลยไม่ใช่ไง น้องนุช: ไม่จ้าไม่มีอีกแล้วค่า ถ้ามีอีกยัยต้องมันโกรธตาย ไม่คุยด้วยแน่ ๆ * พสุธา: อืม ตามนี้แล้วเจอกัน ตั้งใจเรียนด้วย น้องนุช: เจ้าค่ะ สวัสดีค่า บาย รักนะ จุ๊ฟ จุ๊ฟ ติ๊ด เสียงกดวางสาย หึหึ พสุธาได้แต่หัวเราะในลำคอกับความทะเล้นของน้องน้อยที่เหมือนจะไม่โตสักทีหลังจากนั้นเขาได้สั่งงานลูกน้องให้ตรวจเช็คสภาพรถขับชมฟาร์ม ทำความสะอาดคอกม้า วัว นก และอื่น ๆ เป็นการใหญ่ ตลอดจนตรวจตาดูผลไม้ในฟาร์มเพื่อเตรียมเก็บบ่มไว้ให้คนไกลที่จะเดินทางมาจากเมืองหลวงในสุดสัปดาห์นี้ ด้านคุณนายกัลยารัตน์เมื่อรู้ว่าหลานสาวจะมารีบจัดหาของกินขนมนมเนย ผลไม้ไว้ให้เสียยกใหญ่ รีบโทรหาแม่ค้าที่เคยสั่งขนมของกินกันเป็นประจำ คุณนายกัลยารัตน์: แม่แตงนี่คุณนายกัลยารัตน์นะ วันเสาร์นี้ฉันเหมากะหรี่ จะเอาไปฝากคนที่เมืองกรุงเค้ามาน่ะ ปลายทาง: ได้จ้า แล้วจะมารับใช่มั๊ยจ้า คุณนายกัลยารัตน์: เดี๋ยวจะให้คนที่ฟาร์มไปรับสักวันศุกร์บ่าย ๆ เป็นไงจะได้ทำสด ๆ อยู่ได้นาน คิดค่าเสียหายมาแล้วโอนจ่ายเหมือนเดิม ปลายทาง: ได้ค่า ยินดีเสมอค่ะ คุณนายกัลยารัตน์: อื่อ เท่านี้แหละ ขอบคุณมาก สวัสดี ติ๊ด เสียงกดวางสาย "มะรืนนี้แล้วซินะ ที่ฉันจะได้พบหน้าหลาน จะทำอะไรให้กินดีน๊า" "บ่นอะไรครับคุณนายกัลยารัตน์ ท่าทางอารมณ์ดีซ๊ะด้วย" "บ่นที่ไหน ก็เตรียม ๆ ไว้แหละ มะรืนเค้าก็จะมากันแล้ว" "อ้อ อย่างนี้นี่เอง สั่งขนมไว้รึยังล่ะ ของโปรดน้องสาวน่ะ" "จะเหลือเร๊อะ ตะกี้แม่โทรไปล็อคกะหรี่ไว้แล้ว ไหนจะผลไม้ พืชผัก โอ๊ยเยอะ" "หึหึ" พสุธาได้แต่หัวเราะในความคุณนายแม่ วันหยุดสุดสัปดาห์ @บ้านธำรงวงศ์ตระกูล หลังจากรถยนต์จอดสนิท สาว ๆ ลงจากรถยนต์ตรงมายังบ้านซึ่งมีคุณนายกัลยารัตน์ยืนชะเง้อคอยาวรออยู่ก่อนแล้ว "สวัสดีค่ะคุณป้ากัน/สวัสดีค่ะ/สวัสดีค่ะ" สาวสาวไหว้ผู้ใหญ่ของบ้านโดยพร้อมเพรียง ต่างที่ยัยหลานสาวตรงเข้าไปกอดผู้เป็นป้าเสียแน่นหนึบ "เป็นยังไง เดินทางเหนื่อยมั๊ย กินอะไรกันมารึยัง?" "กินข้าวเช้ามานิดเดียวเอง กะว่าจะมาล้มทับป้ากันนี่แหละ" นุชธิดาตอบเสียงเจื้อยแจ้ว "ได้เลยปะเข้าบ้านกัน พวกพ่อบอดี้การ์ดก็ไปทานอะไรกันก่อนนะป้าเตรียมไว้ให้แล้ว เดี๋ยวเดินตามแม่บ้านไปเลยนะคะ" กัลยารัตน์เชื้อเชิญอย่างเจ้าบ้านที่ดี "ขอบคุณครับคุณป้า" เหล่าบอดี้การ์ดต่างพากันยกมือไหว้เจ้าบ้านอย่างนอบน้อม "ยัยหนูใบเตยใช่มั๊ยลูก มัวแต่มองอะไรอยู่ อ่อนั่นเค้าเตรียมที่เตรียมทางจะทำคอกนกยูงน่ะลุก พอได้มั๊ย?" "โห กว้างใหญ่มากเลยค่ะคุณป้า เค้าชอบร่มรำไรค่ะ อากาศถ่ายเท ที่กว้าง ๆ มีน้ำ มีดิน มีต้นไม้ค่ะ โหที่นี่มีทุกอย่างเลย น่าอิจฉานกยูงนะคะ" "ดูพูดเข้า ยังไม่เห็นนกยูงสักตัวเลย เห็นพ่อคนที่เค้าจะเลี้ยงบอกว่ารออีก 4-5 ปี อะไรนี่แหละ ป้าก็ไม่เข้าใจ นั่นเจ้าของเรื่องมานู่นพอดี มาเข้าบ้านกันเถอะลูก" คนตัวเล็กยกมือกระพุ่มไหว้คนที่พึ่งมาถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนพสุธาก้มศีรษะเพียงเล็กน้อยเป็นการรับทราบและเดินเข้ามาในบ้านโดยมีคนตัวเล็กเดินนำหน้าพร้อมกับคุณนายกัลยารัตน์ เค้าแอบสังเกตเห็นว่าเด็กน้อยของเขารู้สึกเกร็ง ๆ ไม่เป็นตัวของตัวเองเอาเสียเลย เห็นแล้วรู้สึกขัดใจยังไงพิกล @บนโต๊ะอาหาร "หมวยน้อยนี่ของโปรดหนูรสชาติจัดจ้านมาก ป้าทำไว้ให้ อะนี่ป้าตักให้ทุกคนเลย" คุณนายกัลยารัตน์ตักอาหารใส่จานให้หลานสาวและเพื่อนหลานสาวทีละคนจนมาถึงจานของใบเตย "น้องไม่กินเผ็ดน่ะแม่ อ่ะเอานี่ไป ผักนี่ไม่ขมหรอก หัดกินผักด้วยเรียนหมอซ๊ะเปล่า" พสุธาพูดแทรกขึ้นก่อนที่มารดาจะตักอาหารรสจัดใส่จานสาวเจ้า "ขอบคุณค่ะ หนูกินผักได้ แต่ไม่ชอบผักที่มีรสขมเท่านั้นเอง" ใบเตยตอบแก้ต่างให้ตัวเอง "อ้าวเหรอ กินเผ็ดไม่ได้เหรอลูก งั้นแกงจืดสักหน่อยมั๊ยป้าทำให้แป๊บเดียว หรือจะไข่เจียวดี" คุณนายกัลยารัตน์เอ่ยถามอย่างห่วงใย "ไม่เป็นไรค่ะ หนูกินอย่างอื่นได้ ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ" พรึ่บแต่อีกคนได้ลุกออกจากโต๊ะไปแล้ว สักพัก "อ่ะนี่ แกงจืดใส่เต้าหู้ไข่ไม่ใส่หมู ไม่ใส่กระเทียม แต่ใส่ผักด้วยนะ ผักมีวิตามิน" พสุธายืนถ้วยแกงจืดวางตรงหน้าน้องน้อย ทำเอาทุกสายตาต่างจับจ้องที่สองหนุ่มสาว (บร๊ะ ถ้าจะได้ลูกสะใภ้ก็อิคราวนี้แหละว๊ะ ตามันแหลมจริง ๆ โว่ยไอ้ลูกชาย เล่นเด็กที่สุดในกลุ่มด้วย ยัยหนูนิ่ก็น่ารักหยอกใครถูกใจคุณนายกัลยารัตน์จริงจริ๊ง) เธอได้แต่คิดในใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม