8.ความจริง

1280 คำ
หนึ่งปีผ่านไป ด้านใบเตยน้องเล็กสุดของกลุ่มที่จะมีอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ในอีกสามวันข้างหน้าซึ่งเป็นวันราชการทุกคนต่างต้องมีภารกิจเรื่องการเรียนการงานในวันนี้เป็นวันศุกร์ ต้นข้าวมารับน้องสาวกลับบ้านพร้อมกัน โดยเขาเลือกที่จะพักที่บ้านที่กรุงเทพฯ ก่อนหนึ่งคืนแล้วค่อยพาน้องไปพักที่สวน-นนฯ ในวันเสาร์หนึ่งคืนและกลับในบ่ายวันอาทิตย์ @บ้านต้นข้าวที่กรุงเทพฯ "พี่ข้าววันเกิดปีนี้ เป็นวันทำการแต่หนูอยากให้พี่ข้าวกลับบ้านมาในงานวันเกิดของหนูจะได้มั๊ย?" ใบเตยที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาตัวยาวเอาศีรษะซบที่ไหล่ของคนพี่ "ได้ซิ เดี๋ยวขอลางานกับพี่แองเจิ้ลเลยหนึ่งวัน เพราะจะมางานวันเกิดน้องสาว ชวนเฮียแดน กับเฮียดามมาด้วยโน๊ะ" คนพี่ตอบอย่างละมุนพร้อมกับลูบศีรษะทุยคนน้องอย่างเบามือ "แต่หนูอยากจัดงานที่บ้านสวน-นนฯ" ใบเตยกล่าว "ได้ซิ เราจะได้นอนกับคุณย่าปานใจด้วยกัน" ต้นข้าวยังคงความเป็นพี่ที่อบอุ่นอยู่เสมอ "เราชวนยัยต้องตากับยัยนุชธิดาไปด้วยจะได้มั๊ยคะ พ่อป้องจะว่าหรือเปล่า?" คนน้องยังเป็นกังวล "ได้ซิ พี่เชื่อว่าพ่อป้องต้องไม่ว่าอะไร แถมยังจะดีใจอีกต่างหาก" "พี่ข้าว" "หืม หนูอยากให้พ่อป้องเป็นพ่อของหนูจริง ๆ จัง หรือไม่รู้สึกรังเกียจเลยที่พ่อป้องจะเป็นแค่คนธรรมดาไม่ได้ร่ำรวยอะไร" "อืม พี่เชื่อ" ต้นข้าวพยายามเก็บความรู้สึกข้างในไว้อย่างมิดชิด "พี่ข้าว" "หืม" "พี่คิดถึงพ่อของเราบ้างมั๊ย พี่เคยเห็นหน้าของพ่อเราหรือเปล่า" "ไม่เคย แม่ไม่เคยให้ดูเลย" คนพี่ตอบไปตามตรง "ทำไมแม่ถึงไม่มีรูปพ่อเลยล่ะ แม่กับพ่อทะเลาะกันเหรอ" "ไม่รู้ซิ แม่คงมีเหตุผลของแม่แหละ" "หนูรักพี่ข้าวจัง มีคนบอกว่าเราหน้าตาไม่เหมือนกันเป็นพี่น้องกันได้ยังไง แต่หนูไม่แคร์ หนูอาจจะหน้าตาเหมือนพ่อที่ตายไปก็ได้ เพราะพี่ข้าวหน้าตาเหมือนแม่ยังกับแกะ แต่นัยน์ตานี่ซิที่ไม่เหมือน" คนน้องลูบที่เปลือกตาคนพี่อย่างเบามือ "ไปนอนเถอะ เดี๋ยวพี่ดูงานนิดหน่อยแล้วจะเข้านอนแล้วเหมือนกัน" "ค่ะ" คนน้องรับคำอย่างว่าง่ายแล้วเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป ส่วนคนพี่ก็คิดอะไรไปเพลิน ๆ เช้าวันรุ่งขึ้น สองพี่น้องออกเดินทางตั้งแต่เช้ามุ่งหน้าสู่บ้านสวนจังหวัดนนทบุรี @บ้านสวนคุณนายปานใจ "คุณย่า หนูมาแล้ว" ใบเตยวิ่งตั่กตั่ก ทันที่ที่ลงจากรถโดยไม่รอพี่ชาย "หึหึ ไม่รอเลย" "อ้าว ยัยหนูไม่คิดถึงแม่กับพ่อป้องเหรอ คิดถึงแต่คุณย่า มันน่าน้อยใจจริงเลย" พิมพ์ดาวหรือดวงดาวแกล้งเย้าลูกสาว "สวัสดีค่ะคุณแม่ สวัสดีค่ะพ่อป้อง คิดถึงซิคะทำไม่จะไม่คิดถึง เมื่อคืนยังคุยกับพี่ข้าวเลยว่าคิดถึงทั้งสามคนเลย" ใบเตยเอาตัวรอด "หึหึ อยู่เป็นนะเรา" เป็นปกป้องที่พูดขึ้น "แฮร่ คุณย่าขา หนูอยากกินขนมขึ้นชื่อเมือง-นนฯ ค่ะ" ใบเตยออดอ้อนผู้สูงวัย "ได้ซิ เดี๋ยวย่าพาไปร้านอร่อย ให้พ่อเราขับรถให้ดีมั๊ย เค้าชินทาง" ผู้สูงอายุชี้ชวนอย่างรู้ความในเพราะอยากให้ทั้งสองใกล้ชิดกัน "ดีค่ะ ให้แม่ไปด้วยนะคะ" ใบเตยเสนอ "ไปกันหมดนี่แหละ จะได้ช่วยกันถือของ" เป็นปกป้องที่เสนอ เพราะไม่อยากให้ต้นข้าวรู้สึกเคว้งหรือน้อยใจ "ไม่เป็นไรดีกว่าครับ ผมขอนอนเฝ้าบ้านรอดีกว่า ขับรถมาจากแก่งคอยก็เมื่อยจะแย่แล้ว ผมขอส่งไม้ต่อให้อาจารย์แล้วกัน" (ปกป้องรู้สึกสะกิดใจที่ต้นข้าวยังเรียกตนว่าอาจารย์อยู่ เขาอยากได้ยินคำว่าพ่อมากกว่า ถึงจะไม่ใช่สายเลือดแต่เขาก็รักเด็กผู้ชายคนนี้อย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ด้วยความดีของเขานั่นเอง เขานึกขอบคุณพ่อแท้ ๆ ของต้นข้าวด้วยซ้ำที่ได้มอบสิ่งที่มีค่าที่สุดไว้ให้เขาได้ดูแล และเขาจะดูแลต่อด้วยหัวใจและความรักทั้งหมดที่มี) "เอาอย่างนั้นเหรอเรา งั้นพักผ่อนเถอะ วันพรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางอีก" เป็นปกป้องที่พูดขึ้นพร้อมกับตบที่ไหล่ของชายหนุ่มรุ่นลูกเบา ๆ "ครับ" ต้นข้าวยิ้มจาง ๆ ให้ผู้มีพระคุณเสมือนพ่อคนที่สอง แล้วหลับตาพริ้มและเผลอหลับไปด้วยความเพลีย °°ต้นข้าว ฝากดูแลแม่ด้วยนะ ดูแลแม่ให้ดี°° เฮื๊อก! ฝันหรอกเหรอนี่ หรือว่าผู้ชายที่เห็นจะเป็นพ่อเราจริง ๆ (ถ้าผู้ชายในฝันเป็นพ่อของผมจริง ๆ ผมขอยืนยันตรงนี้ได้เลยว่าผมจะไม่ทิ้งแม่เด็ดขาดครับ แล้วผมจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้นะครับเขารู้แค่ว่าพ่อชื่อพีรพัฒน์เท่านั้น) หนึ่งชั่วโมงเศษ ๆ ผ่านไป "มาแล้วจ้า ขนมหวานขึ้นชื่อเมือง-นนฯ ผลไม้เมือง-นนฯ มังคุด ชมพู่มะเหมี่ยว ลิ้นจี่ลูกโต ๆ อาหารมีทอดมันหน่อกะลา ทอดมันปลากราย ปลาช่อนลุยสวน ต้มข่าไก่รสดี และตบท้ายด้วยข้าวแช่ชาววังอันนี้จะเอาไปฝากยัยนุชมันให้มันชิมสักหน่อย" ใบเตยสาธยายเสียยืดยาว "หึหึ ให้พี่กินอันไหนได้บ้างเนี่ย" คนพี่เอ่ยถามอย่างรู้มารยาท "ให้ทุกอันเลย เพราะซื้อมาเยอะมาก เงินในกระเป๋าของหนูเองเลย ค่ารีวิวสินค้าเก็บไว้นานล๊ะ" ใบเตยตอบอย่างภูมิใจ "เหรอ เก่งนี่เรามีเงินเก็บกับเค้าด้วย แล้วรีวิวอะไรล่ะ?" คนพี่ถามกลั้วหัวเราะ "ก็รีวิวอาหารสัตว์ ตอนนี้มีจ้างรีวิวอาหารสุนัขอยู่" ใบเตยตอบอย่างซื่อ ๆ "ฮื้อ...ไปรู้ได้ยังไง ใครติดต่อให้เหรอลูก?" เป็นพิมพ์ดาวหรือดวงดาวถามขึ้นอย่างสนอกสนใจ "พี่คนนึงค่ะเป็นสาวสอง พี่ที่คณะแนะนำให้รู้จักกันก็เลยใช้บริการเตยมาเรื่อย ๆ จนบัดนี้แหละค่ะ" "เหรอ.. ลูกแม่เก่งจัง" ผู้เป็นแม่ชื่นชมลูกสาวอย่างจริงใจ มีเพียงหญิงชราและชายวัยกลางคนเท่านั้นที่รู้สึกเจ็บปวดลึก ๆ ที่ได้ยินบทสนทนา หลังจากกินอาหารกันจนอิ่มหนำสำราญแล้วทั้งหมดนั่งคุยกันในห้องนั่งเล่นอย่างอบอุ่น สักพักผู้อาวุโสสูงสุดจึงขอตัวไปเข้านอน ซึ่งคุณนายปานใจเลือกที่จะให้ปกป้องเป็นคนพยุงไปยังห้องนอน @ห้องนอนคุณนายปานใจ "พ่อป้อง เป็นยังไงบ้างลุก" "ผมไม่เป็นไรครับ แม่สบายใจเถอะ ผมทนได้" "พ่อป้องอึดอัดใช่มั๊ยที่ไม่สามารถออกหน้าได้ทั้งที่อยากจะส่งเสียเลี้ยงดูลูกสาวใจแทบขาด" "จะทำยังไงได้หล่ะครับ ในเมื่อแม่เค้าไม่ยอมปริปากพูดอะไรเลย แล้วผมที่เป็นพ่อนอกทำเนียบจะมีสิทธิ์มีเสียงอะไรได้" "เรากำลังน้อยใจเมียอยู่ใช่มั๊ยลูก?" "ผมใช้คำนั้นได้ด้วยเหรอครับแม่?" "ปกป้อง ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แม่ว่าแม่ดูหนูพิมพ์ไม่ผิด เค้ารักลูก ผู้หญิงเราถ้าไม่รักแล้วจะไม่ยอมอยู่ด้วยนานจนลูกโตขนาดนี้หรอกเชื่อแม่"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม