ทางด้านพสุธา
หลังจากมั่นใจแล้วว่าสาวเจ้าเป็นคนเดียวกันที่บังเอิญผงะหงายหลังมาชนตนเองที่ห้างดัง และคนที่สาวเจ้าเดินทั้งลากทั้งจูงก็คือพี่ชายของสาวเจ้านั่นเอง* เกิดความโล่งใจแปลก ๆ แบบไม่เคยเป็นมาก่อน เขาตกลงใจว่าจะเลี้ยงนกยูง และนกอื่น ๆ เพราะเป็นสัตว์ที่สาวเจ้าดูจะสนใจมากเป็นพิเศษ พสุธาหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ติดต่อขอข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอศึกษาดูงานจากองค์กรอื่น ๆ ตลอดจนปรึกษาเพื่อนฝูง (*คุณรี้ดอาจย้อนไปดูเรื่องยุทธการเด็ดปีกนางฟ้าตอนที่สองได้นะคะ)
"มึงเอาแน่แล้วเหรอว๊ะ ยังเด็กอยู่เลยนะเว๊ย" ปาล์ม ถามขึ้นอย่างแปลกใจเพื่อนรัก
"กูก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าถอยไม่ได้ มันขึ้นใจ ดึงดูดว่ะ หนักเลย"
"เฮ๊ย!! มึงไม่เคยเป็นแบบนี้นี่หว่าไอ้พสุ กุชักอยากเห็นเด็กของมึงแล้วซิ่" กายเอ่ยแทรกขึ้นอย่างแปลกใจอีกคน
"เฮ๊อ กุก็ไม่รู้ว่ะ ทั้ง ๆ ที่เด็กนั้นยังไม่รู้ตัวเลย ออกจะเนิร์ด จะไปไหนทีก็ให้พี่ชายตามรับตามส่ง ติดพี่ชายแจเลย กุนี่จะเข้าหาแต่ละทีก็ลำบาก"
"เฮ๊ย นานรึยัง?" เป็นปาล์มที่เอ่ยถามขึ้นลอย ๆ
"อะไรของมึงที่ว่านาน?" พสุธาถามกลับ
"ก็มึงอ่ะ เจอน้องเค้านานรึยัง?" ปาล์มตอบให้
"ก็ตั้งแต่ยัยนุชเขามหา'ลัย" แต่ความจริงเค้าเจอก่อนนั้นแล้วแต่ไม่บอกพวกมันหรอกเดี๋ยวมันล้อแย่เลย
"ห๊ะ ก็เพิ่งเข้าเรียนไม่ใช่?" สองคนอุทานขึ้นพร้อมกัน
"ก็เพิ่งเห็นกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว" พสุธาเฉลย
"ไอ้พสุเอ๊ย มึงตาย กุว่ามึงเจอมือปราบแล้วว่ะ/เออกุว่าด้วย" กายเอ่ยขึ้น/ปาล์มสำทับ
"พวกมึงต้องช่วยกู กูจะทำมาตรฐานฟาร์มเพื่อยื่นขอรับนักศึกษาเข้าฝึกงานในฟาร์มกู"
"เออ เดี๋ยวกูจะถามพี่ที่นับถือให้ว่าต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง แกมีความรู้เลยหละ เป็นอาจารย์มหา'ลัย แต่ตอนนี้เห็นว่าเป็นสัตวแพทย์ประจำฟาร์มใหญ่ในแก่งคอย แต่ตอนนี้ได้ยินว่าแกมีเรื่องยุ่ง ๆ ก็เลยไม่ได้คุยกันสักพัก" กายเอ่ยขึ้น
"ฉันก็จะช่วยดูเรื่องกฎหมาย พ.ร.บ. ให้แล้วกัน" เป็นปาล์มที่เอ่ยขึ้น เนื่องจากมีบิดาเป็นทนายที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงนี้
"ขอบใจมากเพื่อนรัก" พสุธาตบบ่าเพื่อนทั้งสองหนัก ๆ ด้วยมือคนละข้าง
"หึหึ เจ้าตัวยังไม่รู้อะไร มึงเตรียมซ๊ะขนาดนี้ กุละเชื่อมึงเลย ถ้าน้องไม่เอากะมึงด้วยมึงทำไงว๊ะ กุถามหน่อย"
"กุก็จะเอาทุกทาง" พสุธาเฉลย
"หน้าตามึงได้เลยว่ะ กุละเชื่อมึงเลย" ปาล์มเอ่ย
"ยังไงว๊ะ?"
"เลว/เลวว่ะ" ปาล์มตอบ/กายสำทับตาม
"หึหึ กุยอม"
ด้านใบเตยที่ครอบครัวที่เกิดเรื่องพลิกผันในครอบครัวกลับกลายเป็นว่าต้นข้าวและใบเตยกลายเป็นน้องเล็กของตระกูลราชไมตรี ซึ่งทั้งสองเป็นลูกของดวงดาว ที่หายตัวไปพร้อมกับบอดี้การ์ดมือดีของเขตแดน บิดาของแดนชล แดนไตร และนุชธิดา แต่ในวิกฤตก็มีโอกาสทำให้เขาได้มีโอกาสพบปะหญิงสาวที่สนใจมากขึ้นโดยมียัยน้องสาวเป็นตัวตั้งตัวดี และมีคุณนายธิดารัตน์และคุณนายกัลยารัตน์เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอีกด้วย
"ยัยนุช มาช่วยฉันจับดีดี้หน่อย มันไม่คุ้นฉัน" เสียงเจื้อยแจ้วที่ดังมาจากชั้นสองของบ้าน เป็นใบเตยที่กำลังฝึกตรวจสุขภาพให้สัตว์เลี้ยงของเพื่อนสาวในขณะที่คนเรียกเข้าใจว่าเจ้าของห้องอยู่ที่ไหนสักแห่งน่าจะใกล้ ๆ นี้
"ยัยนุชไม่อยู่หรอก เห็นขับรถออกไปไหนไม่รู้ ถามก็บอกว่าไปแป๊บเดียว" เป็นพสุธาที่เดินเข้ามาในส่วนของชั้นล่าวของบ้านพอดี จึงช่วยตอบให้แทน
"อ้าว.. สวัสดีค่ะพี่พสุ ยัยนุชนะยัยนุช ไปไหนก็ไม่บอก ถ้าพี่ต้นข้าวอยู่ก็ดีซิ" หญิงสาวได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง ต่างกับอีกคนที่รู้สึกดีใจเหลือเกินที่เห็นหญิงสาวที่แอบคิดถึง วันนี้สาวเจ้าอยู่ในลุคเด็กมัดผมจุกเปิดหน้าผากไม่ให้ผมปรกหน้าปรกตา ใส่เสื้อคอปาดแขนตุ๊กตา กางเกงขาสั้นระดับเหนือเข่าเล็กน้อย อยู่ในลุคสีฟ้าสดใสด บวกกับขนาดสัดส่วนที่เล็กกะทัดรัดยิ่งดูน่ารักน่าทะนุถนอมเป็นอย่างมากในสายตาของเขา
"ไหนมีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้นะ จับดีดี้ใช่มั๊ย?" คนพี่รีบเสนอตัว
"รอยัยนุชก็ได้ค่ะ ไม่ได้รีบร้อนอะไร เดี๋ยวไปเล่นกับจิ๊ดริ๊ดรอ" คนน้องยังใจเย็น
"แล้วดีดี้กับจิ๊ดริ๊ดเค้าเข้ากันได้หรือเปล่าล่ะ ดีดี้มันจะกัดจิ๊ดริ๊ดหรือเปล่า" คนพี่แกล้งชวนคุยไปเรื่อยไม่ได้อยากรู้หรอกแต่อยากคุยกับคนตัวเล็กมากกว่า
"อ๋อ.....ไม่เลยค่ะ ถ้าเป็นแมวตัวอื่นอาจจะมีกัดบ้าง แต่ถ้าเป็นดีดี้นี่หนูฟันธงให้ได้เลยไม่มีทาง ออกจะกลัวจิ๊ดริ๊ดเสียด้วยซ้ำ หึหึ" ใบเตยพูดจาพาซื่อ
"เจ้าแมวอ้วนมันจะมีอะไร๊ กินแล้วก็นอนเหมือนเจ้าของมันนั่นแหละ" พสุธาพูดกลั้วหัวเราะ
"อะไร นินทาอะไรน้อง หายไปแว๊บเดียวก็ถูกนินทาซ๊ะแล้ว" เป็นนุชธิดาที่ประท้วงขึ้น
"อ้าวมาแล้วเหรอ ว่าจะให้ช่วยจับดีดี้หน่อย" ใบเตยพูดไปยิ้มไปช่างน่ารักในสายตาอีกคน
"แก่นี่ พี่พสุก็อยู่ก็ไม่รู้จักไหว้วานเค้า" นุชธิดาแกล้งส่งไม้ต่อให้พี่ชาย
"ก็ถามอยู่ แต่น้องบอกว่าจะรอแกไง อีกอย่างดีดี้คงไม่เชื่อฟังพี่หรอก" พสุธาพูดรักษาน้ำใจอีกฝ่าย
"แหม ออกรับแทนกันเน๊าะ ทีกับน้องนิ่ ฮื๊อ....อย่าให้เซดเลย" นุชธิดาแกล้งเย้าพี่ชาย
ต่อไปนี้เป็นบทกระซิบกระซาบกันสองคนพี่น้องที่อีกคนที่อยู่ชั้นสองของบ้านคงไม่ได้ยินนะคะ
"ดีใจละซี๊ พี่ชาย รู้น๊ะคิดอะไรอยู่ มองดูจากดาวอังคารยังรู้เลย"
"ไม่ต้องมาทำเป็นรู้ดี เงียบไว้ก่อนอย่างเพิ่งให้เป้าหมายรู้ตัว เข้าใจ๊"
"แต่บอกหม่าม๊ากับป่าป๊าได้ใช่มั๊ย?" คนน้องต่อรอง
"เฮ๊อ ฉันปิดอะไรแกไม่ได้จริงเลยนะยัยหมวยน้อย" คนพี่พูดพร้อมกับวางฝ่ามือลงบนศีรษะทุยแล้วโยกเบา ๆ
"อื้อ หนัก เอาออกไป"
"หึ หึ" (ถ้าแกเจอของจริงหนักกว่านี้อีก) พสุธาคิดในใจ