บทที่5
ตะวันคล้อยต่ำ ร่างดรุณน้อยตระกองกอดร่างไร้วิญญาณของสตรีชราเอาไว้ เสียงร้องคร่ำครวญของนางเงียบไปได้สักพักแล้ว
แม่ครัวหนึ่งในบ่าวรับใช้ที่ค่อยแอบแบ่งอาหารเอาให้แม่นมหม่า รู้เรื่องก็รีบรุดมายังลานกลางจวน พาบ่าวรับใช้ชายที่คอยช่วยหาบน้ำในโรงครัวมาอีกหลายคน
“คุณหนูข้าช่วยเอง ท่านไม่ต้องเป็นหาวงข้าจะฝังร่างนางเป็นอย่างดี” ไม่ใช่นางไม่สงสารคุณหนูเสี่ยวถง แต่เป็นคำสั่งจากฮูหยินใหญ่ นางที่เป็นเพียงบ่าวฐานะต่ำ ถูกขายเข้ามาก็ต้องก้มหน้ารับใช้ตามคำสั่งเจ้านายเท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็จะไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ภายในจวนได้ เมื่อคนจากไปแล้ว ชีวิตก็ต้องสู้ต่อไป บ่าวต้อยต่ำเช่นพวกนางก็เป็นเช่นนี้
กวนเสี่ยวถงพยักหน้ารับ ดวงหน้ายังคงเปอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา หากไม่ยอมรับความช่วยเหลือ ร่างของแม่นมก็จะถูกทิ้งเอาไว้แบบนี้
หลุมศพของแม่นมหม่าถูกฝังอยู่ที่สุสานรวม กวนเสี่ยวถงนั่งเฝ้าหลุมศพอยู่แบบนั้นไม่ขยับเขยื้อนกาย
“นางอยู่ที่ไหน” กวนหยงเหอได้รับรายงานว่าแม่นมหม่าตายแล้ว ร่างอวบท้วมยิ้มเยาะ กวนเสี่ยวถงไร้ซึ่งคนที่ไว้ใจคอยดูแล หากต้องเดินทางไปต่างแคว้นก็ไร้ซึ่งที่พึ่ง นางจะต้องพึ่งพาเขาผู้ซึ่งเป็นบิดา
“คุณหนูยังอยู่ที่สุสาน นางยังนังนั่งเฝ้าอยู่หน้าหลุมศพเจ้าคะ”
“ปล่อยไปให้ไม่ต้องสนใจ ใกล้ถึงเวลาก็เอาชุดพวกนี้ไปให้นางใส่แล้วพาไปถึงเกี้ยวที่หน้าประตูเมือง อย่าให้มีอะไรผิดพลาด ชีวิตของคนทั้งแคว้นถูกกำหนดเอาไว้ถึงแค่พรุ่งนี้”
“เจ้าคะ”
“ท่านพี่ของข้าฉลาดล้ำ กำจัดนางออกไปจากจวนได้โดยไม่ต้องถูกผู้อื่นครหา อีกทั้งยังสร้างผลงานครั้งยิ่งใหญ่” กวนฮูหยินนั่งจิบชา นึกดีใจที่สามีกำจัดกวนเสี่ยวถงออกไปจากจวนได้เสียที่ นางเป็นถึงลูกคุณหนูตระกูลใหญ่แต่งออกเรือนอย่างยิ่งใหญ่กับจองหงวน ไม่คาดคิดช่วงที่นางตั้งครรภ์ สามีกลับพาผู้หญิงคนหนึ่งกลับมาด้วย เป็นเพียงสตรีไร้หัวนอนปลายเท้าจากป่าเขา แต่กลับมีฐานะในจวนเทียมนาง โชคดีที่นางทำตัวเองให้มีหมดรัก แต่ถึงอย่างนั้น ข้าเกลียดเจ้าเหมยฮวา
กวนหยงเหอพนักหน้ารับ ถึงแม้แคว้นจะแพ้สงคราม ไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางใด แต่เขาสร้างบุญคุณใหญ่หลวงให้แก่บ้านเมือง ฮองเต้ต้องเห็นเขาอยู่ในสายตามากกว่าเดิม ตอนนี้ขอเพียงเมื่อกวนเสี่ยวถงไปอยู่แคว้นจ้าว นางจะต้องทนไม้ทนมือรัชทายาทมีชีวิตอยู่ให้นานที่สุดพอให้เขากอบโกยผลประโยชน์ให้ได้
ใกล้ฟ้าสางสาวใช้หลายคนลากกวนเสี่ยวถงออกมาจากสุสาน ไร้การขัดขืน ไร้การต่อสู้ อย่างที่ทุกคนกังวล ให้ทำอัไรกวนเสี่ยวถงก็ทำตามเงียบ
ดรุณีน้อยอายุเพียง 16 หนาว ในชุดเจ้าสาวสีแดงก้าวขึ้นเกี้ยวแดง ไม่มีแม้คนครอบครัวมาส่ง ชาวเมืองหลายร้อยชีวิตมองภาพนั้นด้วยแววตาเวทนา จากคุณหนูตระกูลใหญ่บุตรสาวเสนาบดี ได้เลื่อนฐานันนดรเป็นถึงองค์หญิงเพียงวันเดียว ก็ต้องจากแคว้นไป หากเลือกได้พวกเขาที่เป็นสามัญชนอยากเป็นเช่นนางหรือไม่ พูดได้อย่างไม่อายไม่มีใครอยากเป็นนาง แม้จะนึกขอบคุณที่นางนั้นเสียสละตนเองเพื่อทุกคนแต่ เรื่องราวของนางอีกไม่นานก็ไม่มีผู้ใดจดจำได้ นางหาใช้วีรบุตรที่กอบกู้แคว้น เป็นเพียงองค์หญิงที่แต่งออกเรือนไปเท่านั้น
รถม้าเจ้าสาวค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากประตูเมืองหลวง โดยการคุ้มกันจากทหารแคว้นจ้าวหลายร้อยนาย แม้ไม่รู้ว่าเหตุใดองค์รัชทายาทอยากได้องค์หญิงแคว้นเว่ยเพื่อยุติสงคราม ทั้งๆที่แค่พังประตูเมืองเข้าไปพระองค์ก็สามารถสั่งเป็นสั่งตายทุกชีวิตได้
แต่ก็นั้นล่ะพวกเขาได้แค่คิด ใครจะไปอาจหาญขัดคำสั่งพระองค์กัน แม้ทุกวันนี้ยังดำรงค์ตำแหน่งเป็นรัชทายาทแต่อำนาจในมือกลับเหนือยิ่งกว่าฮองเต้เสียอีก แล้วฮองเต้ก็ไม่เคยไม่พอพระทัยที่บุตรชายมีอำนาจเหนือกว่า ออกจะดูพออกพอใจด้วยซ้ำ ตั้งแต่รัชทายาทอายุ 16หนาว ก็บุกตระลุยยึดดินแดนไปทั่ว แคว้นจ้าวจากแคว้นเล็กๆ ก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แม้จะทำสงครามตลอดเวลาราษฎรไม่เคยบ่น ทุกครัวเรือนอยู่ดีกินดี ก็เพราะของบรรณาการของเมืองขึ้นทีแพ้สงครามนั้นล่ะ
เสียงสะอื้อไห้ดังออกมาจากรถม้า นายทหารหลายคนมองหน้ากันส่งสายตาแปลกให้ก่อนเสมองพื้นเบื้องหน้า
องค์หญิงจะโศกเศร้าที่ต้องการบ้านเมืองก็ไม่แปลก เมื่อครู่ตอนที่นางขึ้นรถมัาพวกเขาเห็นนางยังคงเยาว์วัยยิ่งนัก แถมคนที่ต้องแต่งยังเป็นคนผู้นั้น ขนาดพวกเขาที่เป็นทหารเดนตาย เห็นเลือดเห็นคนตายไม่รู้เท่าไร แต่ทุกครั้งที่คนผู้นั้นปรากฎตัวอยู่ไม่ไกล พวกเขาก็พลันหายใจลำบาก เย็นเฉียบไปถึงขั้วหัวใจ
กวนเสี่ยวถงนั่งอยู่ในรถม้านางมองประตูเมืองหลวงที่ค่อยๆห่างไปเรื่อยๆ มือบางกำพู่หยกของมารดาที่แม่นมเก็บรักษาเอาไว้ให้นางไว้มั่น วันหนึ่งนางจะกลับมาที่นี่อีกคร้ัง
“ข้าจะกลับแล้วเผาพวกเจ้าทุกคนด้วยไฟโทสะที่พวกเจ้าทั้งหมดทำเอาไว้กับข้า”
สักวันหนึ่งนางจะกลับมา และทุกคนต้องมองนางด้วยสายตาหวาดกลัวหาใช่แววตาตาสมเพชเวทนา โดยเฉพาะคนในสกุลกวน
ที่แม่นมไม่ให้นางใช้พลัง นางรู้ดีว่าเพราะเหตุใด แม่นมย้ำและคอยเตือนเสมอ แต่ด้วยความยังเด็กกวนเสี่ยวถงก็มักจะดื้อรั้น อยากใช้พลังที่มีก้าวผ่านความเจ็บปวดจากการถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว
“ข้าจะรอวันที่ข้าอายุ 18 วันที่ปราณแท้ของข้าสมบูรณ์” เสียงเล็กๆเค้นเขี้ยวออกมาด้วยความคับแค้น
ที่แม่นมไม่ให้นางใช้พลังเพราะหากใช้ต่อหน้าคนอื่น แค่ไฟดวงเล็กหรือความร้อนเพียงเล็กน้อยไม่อาจหยุดคนที่มุ่งจะทำร้ายนางได้ กวนเสี่ยวถงก็ต้องใช้พลังจากปราณ หากปราณยังไมาสมบูรณ์ฝืนใช้พลังไปอาจธาตุไฟเข้าแทรกไม่วิปราสก็ตาย
ผู้เฒ่าตระกูลมู่หรงพาสายเลือดทั้งหมดที่เหลืออยู่เล้นกายหายเข้าไปในหุบเขาอู่ไถ ตัดทางโลก เพื่อที่จะไร้ซึ่งกิเลส ไร้ซึ่งความโกรธก็ไร้ซึ่งพลัง ด้วยพลังปราณพิเศษที่สืบทอดมาในสายเลือดนั้นคือไฟโลกัลต์ ยิ่งมีความโกรธเกลียดมากเท่าใดพลังก็จะยิ่งรุนแรง