กลางดึกยามจื่ออันเงียบสงบ ภายในตำหนักใหญ่ของผู้เป็นเจ้าของจวนร่างใหญ่แข็งแรงหายใจหอบต่ำ ทั้งยังมีอาการสะลึมสะลือในขณะที่มือปลดเปลื้องอาภรณ์ของคนตรงข้ามอย่างบ้าคลั่ง
สตรีนางหนึ่งถูกจับกรอกยาปลุกกำหนัดโดยไม่อาจขัดขืน ชุดแต่งงานสีแดงสดถูกสลัดออกโดยไม่ไยดี ไร้การคล้องแขนดื่มสุราอวยพร ไร้ซึ่งการเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวอย่างที่ควรจะเป็น อากาศภายนอกหนาวจัดทว่าคนที่มาร่วมงานยังมิยอมไปไหน ยังได้ยินเสียงผู้คนร่ำสุราร้องเพลงบรรเลงดนตรีอย่างมีความสุข
ผ้าสีแดงถูกประดับทั่วทั้งจวนภายนอกเรือนผู้คนเริงสำราญ ภายในเรือนหอกลับกำลังเดือดพล่าน อ๋องเจ็ดเต๋อลู่หานปลดผ้าคาดเอวของตนเองออกโยนทิ้งลงข้างเตียงด้วยมือสั่นเทา ท่าทางเร่งร้อนคล้ายคนกำลังจะขาดใจ
ผิวพรรณขาวผ่องรูปร่างงดงามยวนตา ใบหน้าประดุจเทพเซียนที่ลงมาจุติจากสวรรค์ ในยามที่เขามองนางด้วยสายตาหื่นกระหายนั้นเมิ่งลี่เฟยกลับไม่ร้อนรนเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าราบเรียบไร้ความเขินอาย ไร้แววยินดี คล้ายกับว่าเต๋อลู่หานที่กำลังย่ำยีนางอยู่ในตอนนี้เป็นเพียงแค่ท่อนไม้ท่อนหนึ่ง
นางได้ยินเสียงหัวเราะหยัน สองมือใหญ่กดข่มร่างของนางเอาไว้ ลมหายใจของเขาเป่ารดเรือนร่างของนาง เพลิงราคะในกายลุกโชนเผาไหม้ให้ภายในกายเดือดพล่าน
เต๋อลู่หานเห็นแล้วว่ารอยยิ้มเย็นชาของสตรีผู้นั้นพลันเกิดขึ้นที่มุมปาก เมื่อเขาแยกขาของนางออกแล้วชำแรกร่างกายใหญ่โตเข้ามา ในเมื่อนางต้องการเขาก็จะทรมานนางให้รู้จักคำว่าอยู่ไม่สู้ตาย
เมิ่งลี่เฟยรู้สึกเจ็บแสบ มิได้มีความรักใคร่ มิได้มีการเล้าโลม มีเพียงความป่าเถื่อนและจุมพิตที่หนักหน่วงจนริมฝีปากของนางแตกยับ ในยามที่เขาก้มลงมาขบกัดครั้งแล้วครั้งเล่า
เสียงขู่คำรามพลันดังขึ้น
"พระชายาคงไม่อยากตายดีสินะ จึงกล้าหาญวางยาข้าเช่นนี้ ทำกรรมใดไว้ก็ให้ผลกรรมนั้นคืนสนองเถิด"
เขาบดอัดร่างกายรุนแรงยิ่งขึ้นสะโพกซอยไม่ยั้งกระทั่งเกิดเสียงดังสนั่น เขากัดลำคอขาวผ่องเมิ่งลี่เฟยเจ็บปวดทว่ากลับแหงนใบหน้ารับด้วยความหยิ่งทะนง
สัมผัสของเต๋อลู่หานรุนแรงยิ่ง ขอแค่เขาได้รับการปลดปล่อยหัวใจแข็งกระด้าง ไม่คิดปรานีนางเลยแม้แต่น้อยในขณะที่เมิ่งลี่เฟยได้แต่อดกลั้นเมื่อรู้สึกเจ็บปวดที่ราวกับร่างกายกำลังแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ข่มกลั้นความรู้สึกนี้เอาไว้เพื่อไม่ให้เขาเห็นว่านางกำลังอ่อนแอเพียงใด
เหงื่อของนางเปียกชื้นเต็มตัว บุรุษผู้นี้แม้ว่าวาจาจะเผ็ดร้อน กลับไม่อาจละจากร่างกายของนางได้เลยแม้แต่น้อย เขาเลื่อนริมฝีปากลงมา กัดเข้าที่ลำคอขาวผ่องท่าทางราวกับสุนัขป่าที่กำลังขย้ำเหยื่อ ทั้งดูดกินทั้งกลืนด้วยความกระหาย
เสียงหายใจของคนทั้งคู่หอบรุนแรงขึ้น ในขณะที่เมิ่งลี่เฟยรู้สึกคล้ายจะไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป แท่งหยกของเขาใหญ่โตเกินไป แม้ว่านางจะเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ก็ยังเจ็บปวดอยู่จนเกินทนไหว
"อ๊ะ เจ็บ"
สุดท้ายแล้วนางก็อดที่จะร้องออกมาไม่ได้
บุรุษผู้นั้นคล้ายจะสติหลุดลอยเมื่อสตรีนางนี้เปล่งเสียงออกมา เสียงของนางหวานใสดุจจักจั่นในเดือนหงาย หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้าที่ทำให้คนเคลิบเคลิ้มอยากลิ้มลอง
ดวงตากลมโตของนางเบิกกว้างเมื่อริมฝีปากคู่นั้นครอบครองที่ปทุมถันอันหวงแหน สิบเจ็ดปีที่ผ่านมาจุดนี้นางจากบ่าวข้างกายที่ปรนนิบัติยามอาบน้ำแล้ว ไม่เคยมีสักคนที่จะได้ยลและล่วงล้ำ
ความรู้สึกแปลกใหม่กับสัมผัสจากริมฝีปากทำให้นางคล้ายจะล่องลอย ปลายถันของนางเปียกชุ่มยามที่เขาอ้าปากรวบดูดตวัดเลีย นิ้วมือร้อนจัดบีบเขี่ยยอดถัน
"อื้ม ไม่คิดว่าจะดีเพียงนี้"
นางได้ยินเสียงดูดเลียชัดเจน ใบหน้าแดงก่ำรู้สึกคล้ายตนเองเป็นสตรีที่ไร้ยางอายยิ่งนัก เขาขยับท่อนล่าง ปากรวบดูดสองเต้าสลับไปมาคล้ายจะหลงใหลจุดนี้ไปเสียแล้ว
"ใหญ่โตยิ่งนัก กินอร่อยยิ่งนัก คนชั่วช้าเช่นเจ้าไม่สมควรได้รับร่างกายที่งดงามเพียงนี้"
เสียงกระซิบหยาบคาย ยิ่งทำให้อารมณ์ของคนเดือดพล่าน
"ใช่ ข้าชั่วช้าแล้วอย่างไร ท่านมิใช่พระสวามีของข้าหรือ"
"ข้ามิใช่สามีของเจ้าแม้แต่น้อย ในใจอย่างไรก็ไม่ใช่อย่าได้เพ้อฝันถึงเรื่องนี้อีก"
น้ำเสียงนี้เต็มไปด้วยไฟโทสะ กระซิบต่ำแหบพร่า
"อย่างไรฐานะพระชายาของข้าท่านก็มิอาจปฏิเสธได้"
กระแสเสียงของนางเองก็เต็มไปด้วยความชิงชังอย่างเปิดเผย แม้ว่าจะอยู่ในอ้อมกอดของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยปากจากการละเลียดดูดกลืนปทุมถัน แต่วาจากลับเผ็ดร้อนชิงชังตรงกันข้ามยิ่งนัก
"เจ้าอย่าหวังว่าจะได้สิ่งที่เจ้าต้องการ ไม่มีทาง"
ริมฝีปากอุ่นร้อนบดเบียดดูดเลียลงมาถึงหน้าท้องแบนราบ แล้วลากลิ้นเลียขึ้นไปจนถึงเต้าถันคู่งามอีกครา ริมฝีปากร้อนรุ่มถูไถที่ปลายถัน สร้างความรัญจวนให้นางเสียวซ่าน
สถานะในจวนนี้ของนางต้องยิ่งใหญ่และปลอดภัย นางรู้ดีว่าเขาชิงชังสกุลของนางเพียงใด นางมิใช่ยอดหญิงในดวงใจของเขา คนผู้นี้เคยสาปส่งนางอยู่หลายคราและแสดงความชิงชังรังเกียจอย่างเปิดเผย การแต่งเข้าจวนของเขาแม้ว่าจะอยู่ในฐานะพระชายา แต่จะมีประโยชน์อันใดหากเขาไม่เคยแตะต้องร่างกาย
นางยังคงคิดเอาตัวรอด อย่างน้อยต้องมีบุตรชายสักคนเพื่อคงสถานะอันสูงส่งนี้เอาไว้ เรื่องแผนการวางยาอ๋องเจ็ดในคืนแต่งงานจึงเกิดขึ้น
"อ๊ะ อื้อ"
สมองของนางพลันพร่าเลือน เมื่อริมฝีปากของเขาขบกัดเข้าที่ปลายถัน รู้สึกเจ็บไปพร้อมกับความรู้สึกเสียวจนยากจะบรรยาย ร่างกายของนางอ่อนเปลี้ยความเจ็บปวดนั้นแม้จะหลงเหลืออยู่ทว่าความสุขสมที่กำลังเกิดขึ้นกำลังกลบความรู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะไม่หลงเหลือ
เขาโอบร่างงดงามของนางแนบแน่น ไต่เลียและเล็มจนนางต้องแหงนใบหน้าคราง ริมฝีปากคู่นั้นตามมาประกบ ช่วงท้องของหญิงสาวบิดเกร็ง สองมือของนางโอบรอบร่างเขา จิกเล็บแหลมทั้งลากนิ้วข่วนลงบนเนื้อแข็งแกร่งจนเกิดรอยแดงและเลือดซิบ
เสียงครางดังออกมาเมื่อเขากดแท่งหยกเข้ามาในกายของนางอย่างลึกล้ำ นางจิกเล็บจมเนื้อแข็งเมื่อเขาขยับช่วงสะโพกเร็วขึ้น
"อ๊า อืม อืม"
เสียงหวานใสที่ครางคล้ายจะหลอกล่อให้เขาขยับเร็วขึ้น ริมฝีปากถูกครอบครองอีกครั้ง ทั้งขบกัดดูดลิ้นเล็กของนางไม่หยุด ในใจของเต๋อลู่หานรู้สึกรังเกียจ ทว่ามิอาจต้านทานฤทธิ์ของยาที่ถูกวางเอาไว้ได้
เขาดึงลิ้นนางออกมาด้วยปากของเขา พัวพันและดูดกลืนหลายครั้งอย่างรุนแรง พิษของยาปลุกกำหนัดก่อให้เกิดความใคร่ที่มิอาจหยุดยั้ง ท่วงท่าแปลเปลี่ยนเมื่อเขาขยับตัวแล้วกระเตงนางขึ้นมาอุ้ม
"โอบขารอบเอวข้าเอาไว้"
นางจำต้องทำตามคำสั่ง ปากของเขายังคงดูดปากของนาง ในยามที่จับแก้มก้นงอนด้วยสองมือแล้วจับกระแทกเข้าหาร่างของเขา
ปัก ปัก ปัก
"อื้อ อื้อ ข้าเจ็บ"
เพราะอยู่ในท่านี้ทำให้เขาเข้าลึกเกินไป ร่างกายของเมิ่งลี่เฟยบัดนี้เกินจะรับไหวจริง ๆ แล้ว สองมือน้อยโอบรอบลำคอของเขาและก่อนที่นางจะรู้สึกว่าร่างกายกำลังแตกเป็นเสี่ยง ๆ หน้าท้องของนางพลันร้อนระอุและของบางสิ่งบางอย่างพลันวิ่งเข้าไปสู่ช่องท้องของนาง
ในยามนั้นที่เขากอดนางแนบแน่น ร่างกายเกร็งกระตุกและครางออกมาราวกับสัตว์ป่าที่บาดเจ็บ
นางหอบหายใจปวดร้าวไปตั้งแต่ช่วงกลางกระทั่งถึงปลายเท้า ศีรษะเล็กซบที่อกแข็งแกร่งอย่างอ่อนแรง กระทั่งร่างบางถูกกระชากออกจากอกของเขา นางรู้สึกคล้ายตกจากที่สูงเมื่อเขาโยนร่างของนางลงบนเตียง
"กล้าที่จะทำก็รับผลที่ตามมาเถิด"
นางเจ็บไปทั้งแผ่นหลังยังไม่ทันหวีดร้องร่างสูงก็ทาบทับลงมาขบกัดริมฝีปากอย่างร้อนแรง มือใหญ่ยึดสะโพกกลมกลึงเอาไว้ ปลายลิ้นพัวพันดูดกลืนลิ้นนางไม่หยุด
เป็นอีกครั้งที่นางต้องแยกขาออกให้เขาเข้ามาภายใน เขากัดนางกระทั่งเลือดไหลออกมา รุนแรงเกินที่สตรีในห้องหอเช่นนางจะรับได้ แม้จะทรมานเพียงใดก็ได้แต่อดกลั้นเอาไว้ด้วยความทรมาน
เขาจับนางให้หันหลัง ยกขาเรียวงามข้างหนึ่งให้สูงขึ้น ส่งเสียงคำรามต่ำอยู่ข้างหูในขณะที่ทาบปากลงมาที่ลำคอแล้วกัดจนเกิดรอยช้ำ
ฮึก ฮึก ฮึก
ในที่สุดนางก็ไม่อาจอดทนได้อีกแล้ว แม้จะพยายามเพียงใดที่จะหยุดน้ำตาแห่งความเจ็บช้ำเอาไว้ ท้ายที่สุดมันก็ไหลออกมา
หลังจากหลุดพ้นจากความทรมานร่างกายบัดนี้กลับรับรู้ความเป็นเจ้าของ เขากลืนกินนางแทบจะทุกสัดส่วนทั้งไม่ยอมถอนริมฝีปากจากปทุมถันคู่งามของนางด้วยความหลงใหล
"อื้มเต้าเต่งตึงงดงามยิ่งนัก ข้ามิเคยพบมาก่อน"
"อ๊า ซี๊ด อืมม ท่านอ๋อง อ๊า"
ราตรีนี้ผ่านไปพร้อมกับเสียงครางและร่างกายอันบอบช้ำจนแทบจับไข้ของคุณหนูสกุลเมิ่งผู้เลื่องชื่อเรื่องความยโสโอหัง
พิษความใคร่จากยาปลุกกำหนัดเลือนหายไปแล้ว ร่างเล็กถูกจับห่อเอาไว้ในห่อผ้าสีแดง บัดนี้นางกำลังรู้สึกสะลึมสะลือเพราะยังไม่คลายจากฤทธิ์ยาอันรุนแรงที่เขาเอาคืน!
เต๋อลู่หานอุ้มนางขึ้นมาคล้ายจะอ่อนโยน ทว่าในดวงตากลับฉายแววเหี้ยมโหด
"กฎของการวางยา แม้ว่าจะเป็นพระชายาก็ต้องรับโทษ"
เขาพานางไปที่เรือนเย็นท้ายจวนด้วยตนเอง ร่างอรชรมีเพียงผ้าห่มสีแดงผืนนั้นห่อกาย ความเจ็บปวดพุ่งชนไปทั่วทุกส่วนในร่างกาย เจ็บเจียนตายทว่าได้แต่เปล่งเสียงบางเบาออกมา
อากาศภายนอกบัดนี้เยียบเย็นเสียดแทงไปจนถึงกระดูก ร่างเล็กของเมิ่งลี่เฟยถูกผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีโยนทิ้งไว้ที่ตำหนักร้างอันหนาวเหน็บ
นางได้ยินเสียงสั่งอันเหี้ยมเกรียมดังขึ้น
"เฝ้าเอาไว้ให้ดีอย่าปล่อยให้นางไปทำเรื่องชั่วช้าอีกเด็ดขาด"