“ค่ะ แล้วก็ตามที่พี่เกวเข้าใจ แฟนนิก็คือคนเดียวกับเจ้าของดอกไม้”
ตอบเสร็จเธอก็มองไปที่ธีร์อีกครั้ง รอยยิ้มของเขายังคงอยู่เช่นเดิม เขาไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับคำตอบของเธอเลยสักนิด
เกวลินเป็นคนถือแก้วน้ำของตัวเองและดาวกลับไป ส่วนนิดาก็ถือแก้วของธีร์กลับมาให้เขา
“ขอบคุณค่ะ” ธีร์เอ่ยพร้อมยิ้มให้เธอ “ตะกี้ใครมาขอถ่ายรูปคะ”
“คนรู้จักค่ะ” นิดาตอบโดยไม่ขยายความเพิ่มเติม
“ขออนุญาตเสิร์ฟของหวานนะครับ” บริกรเข้ามาพร้อมกับถาดของหวาน เขาเสิร์ฟให้กับลูกค้าทีละคนจากนั้นก็เดินกลับไป
“ทับทิมกรอบมะพร้าวน้ำหอมค่ะน้องนิ มันดีมาก แป้งบาง มะพร้าวอ่อนกำลังดี หอมมากๆ” เกวลินบรรยายคุณงามความดีให้หญิงสาวฝั่งตรงข้ามฟัง
นิดาตักเนื้อมะพร้าวเข้าปากก่อน เพราะชอบกินที่สุด จากนั้นก็ตามด้วยทับทิมกรอบ
“อร่อยจริงๆ ด้วยค่ะ นิชอบกินมะพร้าวอ่อน ชอบแห้ว”
“เฮ้อ ได้ยินคำว่าแห้วแล้วเจ็บ” ดาวถอนหายใจ แล้วหันไปบอกเกวลิน “เพิ่งรู้ว่าคนที่ฉันแอบรักดันมีเจ้าของแล้ว”
“แล้วจะทำยังไง ถอนตัวสิ เดี๋ยวจะเจ็บไปมากกว่านี้นะ แบบคราวก่อนก็ฟูมฟายไปหลายอาทิตย์” เกวลินแนะนำด้วยความเป็นห่วง
“ก็รักอะ เขายังไม่ได้แต่งงานนะ” ดาวยังตัดใจไม่ได้ “ต้องทำยังไงดีคะพี่ธีร์” เธอตัดสินใจถามผู้จัดการหนุ่ม
“ถ้ารักเขา ก็ต้องทำทุกอย่างให้เขาเห็นว่าเรารักให้ได้ ก็ต้องแล้วแต่เคสด้วย” ธีร์บอก
“ถ้าเป็นพี่ธีร์ พี่ธีร์จะทำยังไงคะ” ดาวถามต่อ
“พี่เป็นผู้ชาย” เขาหันไปมองนิดา วางมือบนขาเธอ “ก็ใช้วิธีแบบผู้ชาย จะทำทุกอย่างให้ได้เขามา แล้วก็จะไม่มีวันปล่อยมือจากเขา ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร ดาวก็ลองไปคิดดูว่าผู้ชายเขาทำยังไง” ท้ายประโยคเขาหันไปพูดกับดาว
“คงใช้กับดาวไม่ได้ ถามคนสวยๆ มั่งดีกว่า” ดาวเลื่อนสายตามาที่นิดา “น้องนิล่ะคะ จะทำยังไง”
“ถ้าเขามีคนรักแล้ว นิไม่เอาค่ะ” นิดาตอบดาวแล้วหันไปมองธีร์ เขาขมวดคิ้วมองเธอ ถ้าเธอหมายถึงเขา แสดงว่าเธอต้องไปรู้อะไรมาแน่ๆ
เกวลินออกความเห็นบ้าง “ฉันว่าถอยออกมาดีกว่า ไม่อยากเห็นเพื่อนเจ็บอีก ถ้ารักก็ต้องเผื่อใจไว้บ้าง”
“อือ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า พอดีเรื่องแห้วมันพาไปไกล” ดาวพูดแบบปลงๆ
“ลองกินอันนี้สิ พี่สั่งมาให้พิเศษ คิดว่าเราต้องไม่เคยกินแน่ๆ” ธีร์ตักขนมที่มีรูปทรงคล้ายบัวลอย แต่ลูกใหญ่กว่า สีเขียวใสซึ่งอยู่ในน้ำกะทิกับมะพร้าวอ่อนขึ้นมา “เรียกว่าอินทนิลมะพร้าวอ่อน”
เขายื่นช้อนไปที่ปากนิดา หญิงสาวอ้าปากรับ สองสาวฝั่งตรงข้ามถึงกับเม้มปากยิ้ม หันไปซุบซิบว่าหลังจากนี้ต้องจับตาดูคู่นี้ให้ดี
“เป็นไงคะ” ธีร์ถาม
“นุ่มๆ หนึบๆ หอมใบเตย แล้วน้ำกะทิก็หอมกลิ่นควันเทียน เพิ่งเคยเห็นแล้วก็เพิ่งเคยกิน อร่อยนะคะ”
“เป็นขนมโบราณ ไม่ค่อยมีคนทำ” เขาป้อนเธออีก จนนิดาทำมือส่งสัญญาณว่าพอแล้วเขาจึงนำกลับไปกินต่อ
เมื่อรับประทานอาหารกันเสร็จแล้วทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปขึ้นรถที่ตัวเองนั่งมา ธีร์เดินมาส่งนิดาที่รถ เขารั้งประตูรถไว้เมื่อเธอทำท่าจะปิด และก้มลงมาใกล้ๆ
“เดี๋ยวพี่ต้องไปธุระ ตอนค่ำพี่ไปหาที่บ้านนะ”
“วันนี้ฉันให้พี่สิริมานอนเป็นเพื่อน” นิดาฝืนทำลายความปรารถนาลึกๆ ของเธอเอง แล้วปิดประตูรถ
ธีร์มองตามหลังรถนิดาที่ขับออกไปก่อนที่เขาจะขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัย ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสาย รอไม่นานปลายสายก็ตอบกลับมา
“ธีร์ ถึงแล้วเหรอ” เสียงหวานใสดังขึ้น
“ยังจ้ะ ไม่เกินสิบห้านาทีเจอกันนะ โอเคจ้ะ” เขากดวางสายแล้วก็ขับรถออกไป
*********
เช้าวันรุ่งขึ้น
สิริออกไปจากบ้านของนิดาตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อกลับไปอาบน้ำแต่งตัว จากนั้นจะกลับมาทำงานที่สโมสร นิดาเองก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว เธอเห็นว่ายังเช้าเกินไปจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเข้าอินสตาแกรม ปกตินิดาเป็นคนติดโซเชียล ไปไหนมาไหนมักจะโพสต์ถี่ยิบ จนคนรู้ว่าวันนี้เธอไปไหน กินอะไร มีคนติดตามเธอหลักแสน ทุกโพสต์มีคนกดถูกใจมหาศาล แต่ที่มากที่สุดจะเป็นรูปถ่ายของเธอเอง
แต่ตั้งแต่ช่วงสอบเธอก็ยังไม่ได้เข้าไปอัปรูปเพิ่ม ทันทีที่เข้าอินสตาแกรมเธอก็เห็นว่ามีใครบางคนตามกดหัวใจให้เธอย้อนหลังทุกรูป T_C ฟอลโล่เธอมานานแล้ว แต่เพิ่งจะเคลื่อนไหว เธอเข้าไปดู ไม่มีภาพไหนที่แสดงให้เห็นเลยว่าเจ้าของไอดีนี้เป็นใคร ภาพที่ลงไว้มีแค่สองสามภาพเป็นภาพท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว กุหลาบสีชมพู และแหวนเพชรเม็ดเดี่ยว มีคนติดตามเขาหลักหมื่น แต่เขาติดตามแค่เธอ นิดาใจเต้นแรง ที่แล้วมาเคยมีคนกดหัวใจให้เธอรัวๆ แบบนี้ แต่ก็ไม่ได้ตามกดตั้งแต่ภาพแรก และก็ไม่ได้ติดตามเพียงแค่เธอคนเดียว เขาฝังตัวอยู่ในไอจีของเธอนานแล้ว แต่เพิ่งจะแสดงตัว หรือว่าจะเป็นเขา
นิดาปัดความฟุ้งซ่านทิ้งไป แล้วค้นหาภาพเพื่ออัปขึ้นไอจี จากนั้นเธอก็เลือกที่จะหยิบกุญแจรถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่ท่ามกลางกุญแจรถอีกหลายคันของพี่ชายมาใช้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอคุ้นกับมัน เวลามาที่รีสอร์ตเธอจะใช้คันนี้เป็นประจำ
เธอขับรถไปจอดหน้าออฟฟิศ พอเห็นว่ายังไม่มีคนมาทำงานจึงเดินไปที่สโมสรเพื่อหาอะไรกิน แทนที่จะไปกินช็อกโกแลตร้อนในออฟฟิศ
“พี่สิริกลับมาเร็วจัง” นิดาทักทายสิริด้วยความประหลาดใจ สิริออกไปจากบ้านเธอแค่ชั่วโมงเดียว ตอนนี้ก็กลับมาทำงานที่สโมสรแล้ว
“โถ บ้านคนงานอยู่ใกล้ๆ นี่เองค่ะน้องนิ ขี่มอเตอร์ไซค์แค่ห้านาทีก็ถึง” ครอบครัวของสิริอาศัยอยู่บ้านคนงานของรีสอร์ตมานานแล้ว เป็นสวัสดิการที่ ‘นิรชา’ ให้กับพนักงานและลูกจ้างของที่นี่โดยไม่คิดเงิน ลูกของสิริก็อยู่มัธยมแล้ว ช่วยเหลือตัวเองได้ สิริจึงไม่ต้องดูแลอะไรมาก
“อุ๊ย ไข่อะไรคะ ฟองใหญ่จัง” นิดาจับไข่ที่เหมือนไข่ไก่ แต่สีอ่อนกว่า ใบใหญ่ยาวกว่าขึ้นมาดู
“ไข่แฝดน่ะค่ะ พวกคนงานเขาเลี้ยงไก่ไว้ ทุกเช้าเขาจะเก็บไข่แล้วขายให้สโมสรเพื่อทำอาหารขาย พี่ก็คัดเอาไข่แฝดมาขาย แป๊บเดียวก็หมดค่ะ มีลูกค้าประจำหลายคนชอบมาซื้อ”
“อ๋อ เสียงไก่ที่นิได้ยินแว่วๆ ไกลๆ ตอนเช้ามืดมาจากบ้านคนงานใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ คุณคชาอนุญาตให้เลี้ยงได้ เพราะมันช่วยให้คนงานมีรายได้เสริม เมื่อเช้าพี่กลับบ้าน คนงานก็กำลังเก็บกันอยู่ แล้วฝากพี่มา”
“อุ๊ย อยากเก็บไข่มั่งจัง นิไม่เคยเห็นเลย พรุ่งนี้เช้าพี่สิริพานิไปด้วยนะคะ” นิดาร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น
พอเห็นท่าทางของหญิงสาว สิริก็ไม่อยากขัดใจจึงรับปากออกไป “ได้สิคะ แล้วนี่น้องนิจะกินอะไรไหมคะ เดี๋ยวพี่ให้แม่ครัวทำให้”
“ตอนเช้านิกินไม่ค่อยลงค่ะ นิขอช็อกโกแลตร้อนแล้วกันค่ะ”
“ได้ค่ะ น้องนิไปนั่งรอเลยนะคะ เดี๋ยวพี่ยกไปเสิร์ฟให้ค่ะ อ้อ มีพัสดุส่งมาให้น้องนิตั้งแต่เมื่อวานเยอะเลย พี่ลืมเอาไปให้ที่บ้าน เดี๋ยวจะไปแล้วทวงพี่ด้วยนะ”
“ค่ะ” นิดารับคำแล้วก็เดินไปนั่งรอที่โต๊ะ สิริมองตามหลังเธอไปด้วยสายตาเอ็นดู นิดาเป็นคนน่ารัก เธอเป็นลูกคุณหนู แต่เมื่อคืนที่สิริไปนอนเป็นเพื่อนก็ทำให้รู้ว่าเธอใช้ชีวิตง่ายๆ ไม่ถือตัว ไม่ต่างจากพี่ชายของเธอเลย
.......................................