“เย้ กรี๊ด” พนักงานทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียวกันด้วยความดีใจ ของฟรีมีไม่บ่อย ส่วนเกวลินก็รีบปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายอย่างแข็งขัน จากนั้นทุกคนก็ก้มหน้าก้มตาทำงานกันต่อ รอเวลาที่จะออกจากออฟฟิศตอนเที่ยง
ธีร์หันกลับมามองที่โต๊ะนิดา เห็นเธอนั่งประคับประคองช่อดอกไม้อย่างถนอมพร้อมกับพิมพ์แชตไปด้วยโดยไม่ได้ยินดียินร้ายกับการที่เขาจะเลี้ยงมื้อกลางวัน
ธีร์เดินกลับมาที่โต๊ะ หยิบเอกสารปึกหนึ่งขึ้นมา แล้ววางลงตรงหน้าเธอ ทำให้นิดาต้องวางดอกไม้ไว้อีกด้าน
“ดูตัวเลขโรงแรมที่กำลังสร้าง ในนี้มีตัวเลขค่าใช้จ่าย ลองดูแผนงานในนี้ แล้วลองหาจุดคุ้มทุนให้หน่อย” เขารู้ว่าเธอไม่ชอบการคำนวณ จึงแกล้งให้เธอดูตัวเลข รวมทั้งออกคำสั่งไปส่งๆ และเดินกลับไปที่โต๊ะพร้อมรอยยิ้ม
ตัวเลขบนกระดาษไม่สามารถเข้าหัวนิดาได้เลยเพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เธอถนัด แล้วคำสั่งครอบจักรวาลของการหาจุดคุ้มทุนมันคืออะไร เธอนั่งมองพลางถอนหายใจ ยกมือขึ้นเท้าหัวแล้วเปิดเอกสารไปเรื่อยๆ
ธีร์แอบขำ ภาพนี้เขาเห็นเป็นประจำเวลาที่เธอเจอโจทย์เลขยากๆ เขายกมือประสานใต้คางมองเธอไปเรื่อยๆ สักพักเธอก็ลุกจากเก้าอี้
“ทำไม่ได้” เธอวางเอกสารคืนบนโต๊ะเขา
ธีร์เหลือบตามองเธอที่ยืนค้ำโต๊ะ เลื่อนมือไปดึงกระโปรงมินิเดรสรัดรูปที่รั้งขึ้นไปสูงลงมาให้เรียบร้อย จากนั้นก็มองเธอพร้อมกับยิ้มน้อยๆ
“ช่วงนี้ในรีสอร์ตก็ยังไม่ต้องวางแผนหรือเพิ่มการบริการอะไร โรงแรมก็ยังสร้างไม่เสร็จ เอาเป็นว่าช่วยงานจิปาถะพี่ๆ ไป แต่วันนี้ฉันจะอธิบายงานของรีสอร์ตอย่างครอบคลุมให้ฟังไปก่อน ตกลงไหม” เขาเลิกแกล้งแล้ว และดูเป็นการเป็นงานมาก
“ได้ค่ะ” นิดาตอบรับ
“ไปลากเก้าอี้มา”
นิดาเดินกลับไปลากเก้าอี้ตามคำสั่งเขา ธีร์ดึงมาไว้ข้างๆ ส่งสัญญาณให้เธอนั่งลง ส่วนเขาเดินไปเปิดตู้เอกสารด้านหลังแล้วหยิบแฟ้มสามเล่มมาวางบนโต๊ะ ความจริงเขาเตรียมงานที่เหมาะกับเธอไว้ให้แล้ว ตามสายที่เธอเรียน เพื่อให้เธอได้สนุกกับงาน เผื่อจะทำให้เธอชอบทำงานที่นี่ตามที่ได้วางแผนไว้กับคชา ส่วนเรื่องเมื่อกี้เป็นแค่การกลั่นแกล้งเล็กๆ น้อยๆ
เขาเริ่มเปิดแฟ้ม แล้วจู่ๆ ก็พูดขึ้นมา “มาคบกับฉันสิ รับรองเลยจุดคุ้มุทนตั้งแต่เริ่มต้น”
นิดามองตาเขาแน่วนิ่ง “คบคนเจ้าชู้ก็มีแต่ขาดทุน”
“เฮ้อ” ธีร์ถอนหายใจยาว “ไปเอามาจากไหน เด็กหนอเด็ก แล้วคอไปโดนอะไรมา ทำไมต้องแปะปลาสเตอร์” เขาเหลือบไปเห็นปลาสเตอร์ที่เธอพยายามใช้เส้นผมปิด ตรงนั้นเป็นอีกจุดที่เขาทิ้งร่องรอยไว้เมื่อคืนขณะโจนทะยานรักกันหนักหน่วง บนตัวเขาเองก็เต็มไปด้วยร่องรอยที่เธอฝากไว้ไม่น้อยไปกว่ากัน
เธอเห็นเขายิ้มกรุ้มกริ่มก็ยิ่งโมโห “มดกัด”
“แน่ใจเหรอว่ามด เธอก็รู้ว่าฉันไม่เล็ก”
จากที่โมโห หน้าหญิงสาวก็เริ่มแดง คำพูดของเขามีอิทธิพลต่อร่างกายของเธอเมื่อนึกถึงความเร่าร้อนที่กวาดต้อนให้เธอจนมุม มือบางสองข้างจับกันแน่นบนหน้าตัก ก้มหน้าหลบตาไม่ให้เขาจับสังเกตได้
“ยังเจ็บอยู่ไหม” เขาจับมือเธอที่กุมกันอยู่และบีบเบาๆ น้ำเสียงอ่อนโยนแสดงความเป็นห่วงกับความเอาแต่ใจของตนเอง
นิดาพยักหน้าน้อยๆ
“คราวหลังฉันจะอ่อนโยนกว่านี้”
“ไม่...”
“อ้ะ มาเริ่มที่แฟ้มแรกนะ”
เขาไม่ฟังเธอปฏิเสธ หยิบแฟ้มที่อยู่ด้านบนสุดขึ้นมา แล้วเริ่มสอนงานเธออย่างเป็นขั้นเป็นตอน เมื่อเขาจริงจังกับงาน เธอก็จำต้องเป็นผู้รับฟังที่ดี
“เอาน้ำเย็นเข้าลูบ บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น ห้ามใช้อารมณ์ ลูกค้าคือพระเจ้าก็จริง แต่ไม่จำเป็นต้องยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำเสมอไป กระแสโลกโซเชียลรุนแรง แต่ภาพจากกล้องวงจรปิดทุกจุดในรีสอร์ตจะทำให้โซเชียลเข้าข้างเราได้ แต่ไม่มีประเด็นจะดีที่สุด” ธีร์ตบท้ายด้วยการให้ข้อคิด “อันนี้ฉันพูดกว้างๆ ไว้ เราไม่ได้ถึงขนาดลงไปหน้างานแบบนั้น”
“ค่ะ”
“เอาละ คิดว่าทำได้ไหม” ธีร์ถามเมื่อจบการอธิบาย
“ได้ค่ะ” นิดาตอบอย่างมั่นใจ
“ดีมาก เดี๋ยววันที่มีประชุม เราก็เข้าประชุมด้วย จะได้รู้ว่าเราวางแผนการตลาดอย่างไรเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเลือกเราเป็นที่แรก แล้วก็มาดูนโยบายการบริการที่เราปรับปรุงใหม่ เราน่าจะชอบนะ เรียนมาทางด้านนี้นี่”
“ค่ะ”
“โอเค ไปกินข้าวกัน”
นิดายกมือไหว้ขอบคุณเขา มันเป็นมารยาทอันดีที่เธอไม่เคยบกพร่องและทำจนติดเป็นนิสัย ธีร์ยิ้มรับทั้งริมฝีปากและดวงตา แล้วทั้งสองก็พบว่าตอนนี้พนักงานคนอื่นๆ ออกไปจากออฟฟิศกันแล้ว เมื่อมองนาฬิกาบนข้อมือจึงเห็นว่าตอนนี้เที่ยงสิบห้านาที เธอลากเก้าอี้กลับมาที่โต๊ะ เก็บข้าวของ หยิบกระเป๋าสะพายและดอกไม้ ทว่าทันทีที่ก้าวออกมาพ้นโต๊ะ ธีร์ก็ก้าวมาดักหน้าขวางเธอไว้
นิดารีบเอาดอกไม้หลบไปข้างหลัง
เขามองเธอนิ่ง ทำตัวเป็นกำแพงไม่ให้เธอก้าวไปไหนได้ นิดาจึงขยับไปด้านข้าง ทว่าจังหวะที่เธอจะเดินผ่านเขาไปนั้น มือแกร่งก็ยกขึ้นจับแขนเธอ ใบหน้าคมก้มลงจนริมฝีปากอยู่ใกล้ใบหน้าเธอ ลมหายใจของเธอร้อนผ่าว
“ไข้ขึ้นใช่ไหม รู้ว่าร่างกายยังไม่แข็งแรงดีแล้วมาทำงานทำไม” นี่คือประโยคที่เขาต้องการจะถามเธอตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสเพราะพนักงานนั่งกันอยู่