“กว้างดีนะคะ แต่มันยังกว้างไม่พอ” นิดากวาดตามองไปรอบๆ
“น้องนิอยากทำอะไรเหรอครับ” เมฆาถามขณะเดินตามหญิงสาวเข้าไปตามทางเล็กๆ ในทุ่ง
“นิอยากดูว่ากว้างแค่ไหน รอบๆ มีอะไรบ้าง จะดูซิว่าปลูกดอกไม้สีอะไรดี” เธอบอกยิ้มๆ นัยน์ตาชวนฝัน ถ้าเธอไม่ใช่น้องสาวของคชา เมฆาคงจีบเธอตั้งแต่แรกแล้ว แต่เมื่อทุกอย่างมันเป็นอย่างนี้เขาก็ไม่กล้าคิดเกินเลย
“ที่ดินผืนนั้นก็บอกขายนะครับ รู้สึกจะห้าร้อยไร่ เผื่อน้องนิอยากจะขยายอาณาเขต” เมฆาชี้ไปยังที่ดินผืนติดกัน ด้วยความที่ที่ดินผืนใหญ่มาก ทำเลดี คนที่มีกำลังซื้อจะต้องเป็นนักธุรกิจกระเป๋าหนัก ลำพังที่ดินของนิรชาก็กว้างใหญ่จนบางส่วนยังทิ้งร้าง คชาจึงยังไม่มีความคิดที่จะซื้อเพิ่ม
“โอ้โห แค่นี้ก็ดูแลกันไม่หวาดไหวแล้วค่ะ”
“ตอนนี้ร้อนมากนะครับ เรากลับกันดีไหม”
“ใช่ ควรกลับแล้ว”
นิดาและเมฆาหันขวับไปมองพร้อมกันเมื่อได้ยินเสียงบุคคลที่สามดังขึ้นด้านหลัง ธีร์ยืนหน้าเข้มดุจนเมฆาขนลุก พนักงานชายก้มหน้านิ่ง รอคำสั่ง แต่นิดาไม่ได้สะท้านเลยสักนิด แถมฉุนกึก
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” นิดาถาม หน้าตาเอาเรื่อง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องทำหน้าเป็นยักษ์แบบนี้
“ไปที่โรงเรือนเมล่อนทำไม” ธีร์เลือกที่จะถามเมฆา เพราะน่าจะให้คำตอบเขาได้ทันใจกว่าไปถามนิดาที่เอาแต่ยียวน
“เอ่อ...” เมฆาไม่อยากตอบเพราะเขารับปากนิดาไว้แล้ว
นิดาจ้องหน้าเมฆานิ่ง เตือนด้วยสายตาว่าห้ามผิดคำพูด
“เราน่ะเป็นอะไร จ้องพี่เขาตาเขียวทำไม ไปทำอะไรกันมา” ธีร์หันมาคาดคั้นนิดา แล้วก็จำต้องหลับตาลงชั่วครู่ พยายามสงบสติอารมณ์ให้เย็นลง เห็นหน้าเมฆาแล้วก็รู้สึกสงสารลูกน้อง “ไปเมฆา กลับไปออฟฟิศ ส่วนเรามากับพี่” เขาคว้ามือนิดา และจับแน่นขึ้นเมื่อนิดาออกแรงสะบัด
“ครับพี่ธีร์ พี่ไปก่อนนะน้องนิ” เมฆารับคำธีร์แล้วหันไปบอกนิดา หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ จ้องเขาตาดุ ไม่ให้เขาพูดอะไร
“ไป” ธีร์ดึงมือนิดาให้เดินตามออกมา
เขาเปิดประตูรถแล้วดันหลังบางให้ขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับ ก่อนจะเดินไปนั่งประจำตำแหน่งหลังพวงมาลัย สตาร์ตเครื่องแล้วเปิดแอร์
“นุ่งสั้น ซ้อนมอเตอร์ไซค์ กอดเอวผู้ชาย” เขาพูดลอยๆ
“อกุศล ใจทราม ลามก” เธอพูดลอยๆ บ้าง
“หูย ด่าแรงจัง” ธีร์หันไปมองหน้า อารมณ์ขุ่นมัวเริ่มเจือจางกับการต่อปากต่อคำของเธอ พลันนั้นตาสีน้ำตาลก็เบิกโต เมื่อนิดาถอดเสื้อตัวนอกออกจากแขนข้างหนึ่ง ตามด้วยอีกข้าง จนกระทั่งเหลือเพียงเกาะอกสีดำขับผิวขาวจั๊ว เธอซุกเสื้อตัวนั้นไว้ข้างที่นั่ง
“ในรถมีน้ำไหมคะ” เธอหันมาถาม ธีร์จึงได้สติ แต่ใจก็ยังเต้นแรง เธอดูชิลมากกับการถอดเสื้อต่อหน้าเขา แต่เขาไม่ชิลเลย ธีร์รีบหันไปหยิบน้ำที่แช่ไว้ในตู้แช่เย็นที่ห้องผู้โดยสารมายื่นให้
นิดาเปิดประตูลงจากรถไปอีกครั้ง ธีร์ได้แต่มองอย่างงุนงง เธอเปิดน้ำแล้วเทน้ำใส่มือข้างหนึ่งลูบไปบนแขนและคอ จากนั้นก็ทำแบบนี้กับแขนอีกข้าง สุดท้ายก็ใช้น้ำที่เหลือล้างหน้า เธอกลับขึ้นมานั่งบนรถ ล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าสะพาย เริ่มเช็ดหน้า ลำคอ หน้าอก และแขน ก่อนจะหันหน้าโทรมๆ แดงๆ จากแดดมามองเขา
“ไปไหนคะ”
ธีร์ยิ้มมุมปาก “ไปประชุมที่โรงแรมข้างนอก ไหวไหม สภาพดูไม่ได้”
นิดาดึงกระจกบนที่บังแดดหน้ารถลงมาส่องดู ภาพสะท้อนตรงหน้าทำให้หวนนึกไปถึงวันรับน้องตอนปีหนึ่งไม่มีผิด เธอเก็บกระจก รูดยางมัดผมออก แล้วเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ๆ แอร์ เขาจึงเร่งแอร์ให้เย็นฉ่ำมากขึ้น นิดาปล่อยให้ลมเย็นๆ แทรกเข้าไปในหนังศีรษะ และรูขุมขน เมื่อเหงื่อแห้งแล้วก็รวบผมมัดกลับเข้าทรงเดิม
“อายหรือเปล่าล่ะคะ ถ้าฉันจะไปแบบนี้ ตัวเหม็นด้วย”
“ไหนมาพิสูจน์ซิ” ธีร์ไม่รอช้า เขาต้องใช้ความอดทนแค่ไหนที่ต้องดูเธอถอดเสื้อ ล้างตัว โชว์รักแร้มัดผม เขาโน้มตัวคว้าเธอมากอดซุกไซ้ซอกคอ
นิดาดันเขาออกไปสุดแรง “โอ๊ย ออกไป จะบ้าเหรอ”
กลิ่นเหงื่อผสมกลิ่นกายของเธอทำให้ธีร์ต้องรีบผละออกมา ไม่เช่นนั้นอาจจะเสียการเสียงานพาเธอที่อื่น เขาตั้งใจแค่หยอกเธอเล่นเท่านั้น
“ไม่อายค่ะ เดี๋ยวไปกินข้าวข้างนอกแล้วไปประชุมกัน”
“ค่ะ” นิดารับคำสั้นๆ เธอหยิบเสื้อตัวนอกขึ้นมา มันเปียกเหงื่อจนเกือบจะชุ่ม นิดาทำท่าจะโยนไปไว้เบาะหลัง ธีร์รีบคว้าไว้
“ไม่ใส่เสื้อเหรอ” เขามองหน้าเธอสลับมองหน้าอก บอกให้รู้ว่ามันไม่โอเคถ้าจะไปแบบนี้
“ไม่ใส่ค่ะ ไปแบบนี้แหละ ชินแล้ว” นิดาตอบหน้าตาเฉย ปกติเธอก็แต่งตัวแบบนี้ไปไหนมาไหนอยู่แล้ว ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะโป๊ตรงไหน เสื้อเกาะอกตัวนี้ถูกออกแบบมาให้ใส่ได้ทั้งมีเสื้อคลุมและไม่มีก็ได้
“ตากแอร์แป๊บเดียวเดี๋ยวก็แห้ง” ธีร์ยังไม่ละความพยายาม
“หือ อะไร ไม่เอา เหม็น” นิดาแย่งเสื้อคืนมา เห็นเขายังทำตาขุ่นไม่เลิก จึงหันไปหาเขาทั้งตัวแล้วเอาเสื้อโปะหน้าอุดจมูก “นี่แน่ะ ดมสิ เหม็นไหมล่ะ ใครจะไปใส่”
แทนที่จะโกรธ กลับหลุดขำ ธีร์จับแขนเธอไว้แล้วแย่งเสื้อกลับคืนมาอีกครั้ง “โอเคๆ ไม่ใส่ก็ไม่ใส่ งั้นพี่ขอไว้นะ เอาไว้ดมเวลานอน” ว่าแล้วก็ซุกเสื้อไว้ที่ซอกขาตัวเอง “แล้วบอกได้หรือยังว่ามาทำอะไรที่นี่” เขาถามขณะหยิบกระเป๋าอุปกรณ์เสริมความงามที่คว้ามาจากโต๊ะเธอ มาวางไว้บนตักหญิงสาว แล้วค่อยๆ ประคองรถไปบนถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ
“บอกไม่ได้ พูดเยอะเดี๋ยวหน้าแตก แล้วไม่ต้องไปคาดคั้นจากพี่เมฆาด้วยนะ เขารับปากไว้แล้วว่าจะไม่บอกใคร อย่าทำให้เขาต้องผิดคำพูด แล้วก็ห้ามไปใส่อารมณ์ทำให้เขาอึดอัด” นิดาดักคอเขาไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นเมฆาจะลำบากใจถ้าหากธีร์จะเอาคำตอบให้ได้ หรือไม่ก็เกรี้ยวกราดใส่ เมื่อพ้นจากถนนผิวพระจันทร์แล้วนิดาก็เริ่มทำการแปลงโฉมเพื่อให้เหมาะกับการไปออกงานกับเขา
“ตื่นเต้นจัง เมื่อไรจะได้รู้คะ” ธีร์ถามอย่างอารมณ์ดี นิดาดูมีความสุขกับความลับของเธอ ดวงตาของเธอแพรวพราว
“สักเดือนกว่าๆ” นิดาหันมายิ้มให้เขา ใจเธออยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ อยากเห็นผลการทดลองของตัวเอง มันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเธอแล้วมันคือความแปลกใหม่ เธอไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มของเธอมันทำให้เขาชุ่มชื่นหัวใจขนาดไหน
“มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนะคะ”
“ค่ะผู้จัดการ” เธอตอบรับอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับเก็บเครื่องสำอางใส่กระเป๋าแล้วเอื้อมไปวางไว้เบาะหลัง “พอออกงานได้หรือยังคะ”
“สวยเกินไป” ธีร์หันมาสำรวจสาวน้อยข้างกาย ทั้งหน้าและผมถูกเนรมิตขึ้นมาใหม่ด้วยเวลาเพียงไม่นาน “อยู่ใกล้ๆ พี่ไว้นะ พี่หวง”
.....................