เมื่อถึงวันเสาร์ที่รอคอย
"เจ๊ วันนี้ไปกินข้าวร้านประจำท้ายซอยกัน คิดถึงฝีมือป้าไม่ได้ไปกินนานละ" ศรันย์ส่งไลน์มาหาฟ้าขวัญแต่เช้า
ผ่านไป20นาทีแล้วฟ้าขวัยก็ยังไม่ตอบกลับไลน์ของศรันย์ จนศรันย์สงสัยเดินไปกดกริ่งหน้าบ้าน
"ยังไม่ตื่นหรือเป็นลมในห้องน้ำหรือเปล่าเนี่ย" ศรันย์บ่นแต่บ่นไปอย่างนั้นไม่คิดว่าฟ้าขวัญจะเป็นอะไรไปจริงๆหรอก
"ติ๊งหน่องๆๆๆ" ศรันย์กดกริ่งหน้าบ้านรัวๆ
"มาแล้วๆจะกดอะไรนักหนากำลังแต่งตัวอยู่" ฟ้าขวัญเดินออกมาบ่นศรันย์
"เอ่อ ขอโทษครับผมน่าจะกดกริ่งผิดบ้าน" เมื่อศรันย์เห็นคนที่เดินออกมาไม่ใช่คนที่คุ้นหน้าเลยคิดว่ากดกริ่งผิดบ้าน
"แต่เอ บ้านเจ๊มันก็รั้วติดกับบ้านเรานี่หว่า" ศรันย์ไม่แน่ใจชะเง้อไปมองเลขที่บ้านเพื่อความแน่ใจ
"เจ๊ฟ้าไม่อยู่หรือครับ" ศรันย์ถามผู้หญิงสาวสวยที่ยืนอยู่ตรงหน้า
"อะไรของแกศรันย์ ฉันนี่ไงฟ้าขวัญมามุกไหนเนี่ย" ฟ้าขวัญหงุดหงิดกับลีลาของศรันย์
"ห๊า นี่เจ๊ฟ้าหรือ ใช่เหรอ เจ๊ฟ้าแอบอยู่ไหนเขาให้คุณมาอำผมใช่ม๊า" ศรันย์หยอกแต่เขาไม่รู้จริงๆว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร
"แก แหกตาดูดีๆ ฉันฟ้าขวัญ" ฟ้าขวัญเดินตรงเข้าไปเอานิ้วมือถ่างตาของศรันย์แล้วเอาหน้าไปจ้องใกล้ๆ
"ฉัน ฟ้าขวัญ" เธอเอานิ้วชี้ชี้เข้าหาตัวเองแล้วพูดเน้นๆหนักๆว่าใช่เธอจริงๆ
"เจ๊ฟ้าจริงๆด้วย ไปทำอะไรมาสวยข้ามคืนขนาดนี้" ศรันย์ตะลึงเมื่อแน่ใจแล้วว่าเธอคือฟ้าขวัญจริงๆ
ภาพที่ปรากฎตรงหน้าของศรันย์คือผู้หญิงสาวผมยาวตรงสลวย แต่งหน้าเข้ากับชุดกระโปรงสวยสีหวาน ปากกระจับได้รูปผิวขาวใสปัดแก้มอมชมพูอ่อนๆดูเป็นธรรมชาติ ปากแดงระเรื่อเงาด้วยลิปติก ไม่ใช่ฟ้าขวัญที่ใส่แว่นหน้าเตอะรวบมัดผมเป็นมวยเหมือนคนแก่ เธอเริ่มเปลี่ยนมาใส่เป็นคอนแทคเลนส์สีน้ำตาลเข้มธรรมชาติแทน
"ฉันมีเดท" ฟ้าขวัญยิ้มภูมิใจ
"เดทกับใครเจ๊ทำไมฉันไม่เห็นรู้"
"แล้วทำไมแกต้องรู้ด้วยล่ะ แต่ที่จริงแกก็เคยเห็นเขานะ"
"ใครวะ"ศรันย์งงหนักไปอีก
"เฮ้ยอย่าบอกนะว่า...ไอ้คนที่มันชอบมาวนเวียนเจอเจ๊บ่อยๆอ่ะ"ศรันย์นึกได้ก้ตกใจ
"ช่ายยยย" ฟ้าขวัญยิ้มเขินรับ
"เอาดีๆนะเจ๊ ฉันว่ามันแปลกๆ เร็วไปเปล่า" ศรันย์เตือนด้วความเป็นห่วง
"เร็วที่ไหนฉันอายุ 35 แล้วนะ"
"ฉันไม่ได้หมายถึงอายุเจ๊" ศรันย์เท้าเอว
"เอาน่าฉันโตแล้ว แต่ก็ขอบใจนะที่เป็นห่วง ฉันไปก่อนนะเด๋วเขาจะรอ"
ศรันย์มองตามทั้งเป็นห่วงทั้งตะลึงในความสวยของฟ้าขวัญ เขาเองก็มองเธอมานานมองทั้งๆที่เธอเป็นป้าเชยในสายตาคนอื่นแต่สำหรับเขาเธอจริงดูสดใสและมีความจริงใจ
........................................................................................................................
ณ ห้างกลางใจตัวเมือง ฟ้าขวัญลงมาจากรถไฟฟ้าแล้วก็เดินเข้าไปตามสะพานทางเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าและห้าง
ฟ้าขวัญลงบันไดมายืนรอที่ข้างล่าง เธอมองออกไปนอกห้างเห็นรถบิ๊กไบค์คันหนึ่งค่อนข้างสะดุดตาเลี้ยวเข้ามาทางด้านข้างของห้าง คนขับอยู่ในชุดหนังสีดำ แว่นตากันแดด และเมื่อเขาจอดรถและวาดขาออกมาจากตัวรถ ถอดแว่นตาดำออกพร้อมรูดซิปเสื้อแจ๊คเก็ตหนังออก
"เขตตะวัน!" เธอหลงในความเท่ห์ของเขาเพราะทุกทีที่เจอกันคือเสื้อ เชิ้ตแขนยาว ผูกไทด์และกางเกงผ้าสแลคเท่านั้น
เขตตะวันเดินผ่านเธอไปทำท่ามองหา
"เขตตะวัน" ฟ้าขวัญเรียกเขา
"คุณเอ่อ...อ้าวนี่ฟ้าหรือ" เขาเองก็จำเธอไม่ได้เช่นเดียวกัน
"วันนี้สวยจนผมจำไม่ได้เลย" วันนี้เขาพูดความจริง ฟ้าขวัญเธอได้ใช้ความสวยที่พระเจ้าให้มาอย่างถูกวิธีแล้ว
"ขอบคุณค่ะ" เธอเขิน
"เราเข้าไปข้างในกันดีกว่าไปดูรอบกัน" เขาชวนเธอ
หนังที่ทั้งสองคนเลือกดูในวันนี้เป็นหนังแนวสยองขวัญมีจังหวะผีโบ๊ะบ๊ะออกมาให้ตกใจจนฟ้าขวัญได้เอาหน้าซุกที่ไหล่ของเขาด้วยความตกใจ
เขตตะวันเองก็เอ็นดูในความป้าของเธออยู่เหมือนกัน
ระหว่างที่ดูหนังกันเพลิดเพลินเขตตะวันทำแค่เพียงจับมือเธอเป็นบางจังหวะเท่านั้น ทำให้ฟ้าขวัญรู้สึกว่าเขาช่างเป็นสุภาพบุรุษเหลือเกิน
หลังที่ออกมาจากโรงหนังทั้งสองได้แวะหาอะไรทาน เดินเล่น ช็อปปิ้ง จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น
"ถ้าฟ้าไม่รีบกลับเราไปนั่งรถเล่นกันก่อนนะครับ" เขตตะวันเอ่ยชวนเธอเพื่อสร้างคะแนน
"ไม่รีบค่ะ" เธอตอบอย่างเต็มใจ
เขตตะวันพาฟ้าขวัญซ้อนรถบิ๊กไบค์คู่ใจเคลื่อนตัวออกตากห้างไปมุ่งตรงไปยังถนนสะพานข้ามแม่น้ำเมื่อหาที่จอดรถได้เขาก็พาเธอเดินขึ้นไปชมวิวแม่น้ำที่สะพาน
"เวลาที่ผมเครียดๆผมจะมาที่นี่บ่อย ลมเย็น วิวดี ทำให้สบายใจขึ้นได้เยอะเลยนะครับ" เขตตะวันชวนคุย
"งั้นวันหลังถ้าฟ้าเครียดหรือคิดงานไม่ออกอาจจะต้องมาที่บ้างแล้วล่ะค่ะ" ฟ้าขวัญหันมามองเขาตาเป็นประกาย
"ถ้าฟ้าไม่สบายใจก็นึกถึงผมนะครับ อยากมาเมื่อไรบอกผม" เขตตะวันแสดงความอบอุ่นให้เธอเห็น
"ผมเห็นฟ้าเหมือนจะหนาว"เขตตะวันถอดเสื้อแจ๊คเก็ตหนังคลุมให้เธอ หลังจากที่เห็นเธอกอดอกเอามือถูแขนตัวเองไปมา
"ลมมันแรงน่ะค่ะ เลยเย็นๆ"
เขตตะวันไม่พูดต่อแต่ว่าเขาคว้ามือเธอขึ้นมาจับเอาไว้แล้วเอามืออีกข้างมาช่วยกุมเอาไว้
"ดีขึ้นไหมครับ"
"ดะดะดีขึ้นค่ะ" เธอเขินจนบอกไม่ถูก
"งั้นเรากลับกันดีกว่าเดี๋ยวฟ้าจะไม่สบายเอา" เขาพูดและพาเธอเดินกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์แต่ว่ายังคงจูงมือเธอไว้ไม่ปล่อยจนขึ้นรถ
เขตตะวันขับรถไปส่งเธอที่บ้านระหว่างที่รถวิ่งอยู่เขตตะวันเอื้อมมือไปจับมือของฟ้าขวัญมาจับเอวเขาไว้ทีละข้าง ฟ้าขวัญรู้ทันทีว่าเขาหมายถึงว่าอยากให้เธอกอดเอวเขาไว้ เธอโอบกอดเอวเขาอย่างว่าง่ายและแนบหน้ากับแผ่นหลังกว้างของเขา
คืนนี้เป็นคืนที่ฟ้าขวัญมีความสุขมากเลยทีเดียว จะเรียกว่ากอดแรกกับผู้ชายก็ว่าได้
เมื่อถึงหน้าบ้านของฟ้าขวัญเธอลงจากรถแล้วมายืนข้างๆรถเขา
"ขอบคุณนะคะวันนี้ฟ้ามีความสุขมากเลยค่ะ"
"ฝันดีนะครับ เอาไว้เดทต่อไปฟ้าจะมีความสุขกว่านี้แน่"
เขตตะวันพูดเท่านั้นก็หันหัวรถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวออกไป
"ฮึ๊ยยมันจะมีเดทครั้งต่อไป" ฟ้าขวัญยืนเพ้ออยู่ตรงนั้น แต่เธออยู่ในสายตาของศรันย์
"กลับมาเสียดึกเลยนะเจ๊" ศรันย์ทักเขายืนมองผ่านรั้วกำแพงบ้าน ด้วยความที่กำแพงเตี้ยเขาจึงเท้าแขนบนกำแพงและมองเห็นเหตุการณ์ที่หน้าบ้านได้
"เรื่องของฉันไอ้รัน" ฟ้าขวัญทำหน้าหงิกใส่
"ระวังนะเจ๊ รูปหล่อมักหลอกลวง" ศรันย์เปรยดักคอ
"อย่ามาใส่ร้ายแกอิจฉาเขาล่ะสิที่เขาหล่อกว่า" ฟ้าขวัญไม่ฟังเสียงทัดทานใดๆ
"อิจฉาที่เขาได้ไปเดทกับ...มากกว่า" ศรันย์พูดแบบหลบตาเหมือนพูดลอย
"อะไรนะ" ฟ้าขวัญถามได้ยินไม่ถนัด
"ไม่คุยกับแกละฉันไปนอนดีกว่า" ฟ้าขวัญตัดบทแล้วก็ไขกุญแจประตูเดินเข้าบ้านไป
"บิงซู รู้ไหมว่าวันนี้แม่มีความสุขที่สุดในโลกเลย" เธออุ้มบิงซูแมวตัวโปรดของเธอมาไว้ในอ้อมกอด แล้วก็ยิ้มหวานนึกถึงห้วงเวลาที่มีความสุข นาทีนี้คงไม่มีใครเข้าใจเธอนอกจากเจ้าบิงซูที่ได้แต่ฟังไม่เคยเถียงเธอเลย
..........................................................................................................................