ระหว่างการเดินทางพรรับฟ้าได้หยุดแวะที่ปั๊มน้ำมันเพื่อเติมน้ำมันและพักรถ
"ถึงแล้วหรือ" ศรันย์ตื่นหลังจากรถเติมน้ำมันเสร็จและกำลังเข้าจอดที่ช่องจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ
"ถึงอะไรเล่านี่แทนที่จะนั่งคุยเป็นเพื่อนกัน หลับเสียได้" พรรับฟ้าบ่น
"เจ๊ฟ้า" ศรันย์ลุกขึ้นมาด้วยอาการงัวเงียและขณะที่เขาตาพร่ามัวเพราะเพิ่งตื่นเขาเห็นเหมือนหน้าของฟ้าขวัญซ้อนอยู่ในหน้าของพรรับฟ้า
"รัน แกจำฉันได้หรือ" พรรับฟ้าทำท่าดีใจ
"สงสัยตะตาฝาด ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" หลังจากที่เขาเอามือขยี้ตาก็เห็นว่าหน้านั้นเป็นหน้าของพรรับฟ้าเหมือนเดิม
"หลอกให้ดีใจซะได้ไอ้รัน" พรรับฟ้าบ่นตอนที่เขาเปิดประตูรถลงไปแล้ว
"นี่เราเข้าตัวเมืองแล้วนะ ยังไงให้ผมขับให้เลยแล้วกัน" ศรันย์อาสา
"ได้ ดีเหมือนกันเมื่อยแล้ว ไม่ได้ขับรถทางไกลมานานแล้วอยู่แต่กรุงเทพไม่ได้กลับไปหาแม่บ้างเลย" พรรับฟ้าทำท่าบิดเอวแล้วก็พูดด้วยความคิดถึงแม่
ระหว่างทางจากตัวเมืองที่จะเขาหมู่บ้านรถได้ขับผ่านหน้าห้างดังประจำจังหวัด เธอก็นึกถึงว่าทุกครั้งที่เธอกกลับบ้านมา เธอมักจะแวะซื้อของที่ห้างนี้ไปฝากแม่
"รันระวังเลี้ยวผิด ต้องเข้าแยกขวา เดี๋ยวก็ได้กลับรถยาวหรอก" พรรับฟ้าตะโกนบอกก่อนที่ศรันย์จะเลี้ยวผิดแล้วจะต้องกลับรถยาว
"คุณรู้ได้ไง เคยมาหรือ" ศรันย์สงสัยในตัวเธออีกครั้ง เขาเองเคยมาเที่ยวบ้านแม่ฟ้าขวัญแต่แค่ไม่กี่ครั้งจะมาพร้อมๆกับฟ้าขวัญเวลาที่ฟ้าขวัญลาหยุดและชวนเขาไปเที่ยวบ้านด้วยกัน
"ก็เดาเอาดูจากป้ายตามทางมันน่าจะทางนี้" วันนี้พรรับฟ้าแก้ตัวเป็นร้อยครั้งได้ ทำไงได้คนมันไม่ชินกับร่างใหม่
"มาถูกน่าจะมาเองนะเนี่ย" ศรันย์แกล้งเหน็บ
ถ้าขืนเธอมาเองทุกคนต้องมีคำถามมากมายแน่ๆขนาดศรันย์ที่สนิทกันยังถามไม่หยุด
"เดี๋ยวเราแวะหาที่พักก่อนก็ได้นะเอาที่ใกล้ๆกับบ้านแม่ฟ้าขวัญได้ห้องแล้วค่อยเข้าบ้านฟ้าขวัญกัน" ศรันย์บอกเพราะกลัวจะไม่มีที่นอนอยู่ๆจะไปค้างบ้านแม่ฟ้าขวัญโดยที่ไม่มีลูกสาวเขาไปด้วยมันเกรงใจเพราะไปแบบไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า
................................................................................................................
เมื่อสอบถามหาที่พักได้พรรับฟ้าจัดการรับผิดชอบค่าที่พักต่างๆเรียบร้อยโดยใช้เงินในกระเป๋าสตางค์ที่นภาคืนมาให้
"ขอฉันยืมก่อนนะ ถ้ามีโอกาสจะคืนให้เธอ" ฟ้าขวัญในร่างของพรรับฟ้าพูดกับรูปในบัตรประชาชนที่อยู่ในกระเป๋า เธอรู้สึกผิดที่จะต้องหยิบเงินที่ไม่ใช่ของตัวเองออกมาใช้
"ไปคุณกว่าจะไปถึงบ้านกว่าจะกลับมาที่โรงแรม" ศรันย์นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้
"ความจริงไปพรุ่งนี้ก็ได้นะไม่รู้จะรีบทำไม" ศรันย์บ่นต่อ
"น่า อย่าพูดมากเอ้ย อย่าบ่นเลย ฟ้าใจร้อน" พรรับฟ้าเธอชอบหลุดคำพูดที่ฟ้าขวัญมักชอบพูดว่าศรันย์
เมื่อทั้งคู่มาถึงบ้านของธิดาแม่ฟ้าขวัญ
ธิดาได้ยินเสียงรถเลยเดินมาดู รถคันนี้เธอไม่เคยเห็นมาก่อนไม่คุ้นว่ารู้จักแต่ทำไมมาจอดหน้าบ้าน
"สวัสดีครับแม่" ศรันย์ทักทายธิดา
"อ้าวรัน มาทำไมไม่บอก แล้วนั่นพาใครมาด้วยลูก"
"แม่จ๋า ฟ้าคิดแม่จังเลย" พรรับฟ้ารีบวิ่งไปกอดธิดา
"ใครอ่ะรัน" ธิดาหันไปมองศรันย์แบบงงๆ
"คุณฟ้าเขาเป็นเพื่อนกับเจ๊ฟ้าเขารู้เรื่องที่เจ๊ฟ้าไม่อยู่แล้วเลยอยากมาหาครับ"
"ชื่อฟ้าเหมือนกันด้วย" ธิดาเสียงสั่นเครือคิดถึงลูกสาว
"ไปๆลูกเข้ามาในบ้านก่อน" ธิดาต้อนรับคนทั้งสอง
"โฮ่งๆๆ" เสียงเจ้าตูบเห่าใส่พรรับฟ้าแต่เห่าแค่ไม่กี่ครั้งก็วิ่งมากระโดดเข้าใส่และเลียแข้งเลียขาเชิงว่าเล่นด้วย
"ปกติไอ้ตูบมันจะไม่เล่นกับคนไม่รู้จักง่ายๆนะ หนูฟ้านี่มาครั้งแรกมันก็เป็นมิตรด้วย เห็นเขาสวยล่ะสิไอ้ตูบ" ธิดาแปลกใจแต่ก็ไม่คิดอะไรเลยพูดหยอก
"ไหนเล่ามาซิเป็นเพื่อนที่ไหนแล้ววันนี้จะให้แม่พาไปที่วัดหรือ นี่ก็สี่โมงเย็นแล้วนะ" ธิดาสอบถามหนุ่มสาวทั้งคู่
"ฟ้าขอไปหน่อยได้ไหมคะคุณแม่รบกวนด้วยค่ะ" พรรับฟ้ายกมือไหว้ขอร้อง
"โอเคไปก็ไปลูก ดื่มน้ำให้หายเหนื่อยก่อนแล้วไปกัน" ธิดาไม่อยากขัดที่อุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกล
..............................................................................................................
เมื่อมาถึงวัดที่ธิดาได้นำร่างลูกสาวมาไว้ที่นี่ สิ่งแรกที่พรรับฟ้าเห็นคือ โลงเย็นที่ภายในบรรจุร่างของฟ้าขวัญพร้อมรูปหน้าโลง
"ชาตะ...มรณะ..." พรรับฟ้าอ่านวันที่ใต้รูปหน้าโลง แล้วน้ำใสๆก็รินออกมาจากตา
พรรับฟ้าเดินเข้าไปใกล้โลงพร้อมเอามือลูบที่โลง
"คุณแม่คะถ้าฟ้าอยากจะขอดูหน้าของฟ้าขวัญเป้นครั้งสุดท้ายได้ไหมคะ"
"คุณ เกรงใจแม่" ศรันย์ห้าม
"นะคะคุณแม่" พรรับฟ้าเสียงสั่งร้องไห้ออกมา
"ได้สิลูก ไม่เป็นไรหรอกรัน แม่ดีขึ้นเยอะแล้ว" ธิดาหันไปบอกทั้งพรรับฟ้าและศรันย์
ธิดาไปตามสัปเหร่อที่ดูแลศาลาที่ไว้ศพของฟ้าขวัญให้ช่วยมาเปิดฝาโลงให้หน่อย
"ฟ้าขวัญ" พรรับฟ้าถึงกับปล่อยโฮ แต่มีสิ่งที่ทำให้เธอพยายามสะกัดกลั้นน้ำตาเอาไว้คือ ร่างของฟ้าขวัญไม่เน่าเปื่อยแค่เหมือนคนนอนหลับไปเท่านั้นเอง
"แปลกจริง ดูเหมือนนอนหลับแค่นั้น"
"คงเป็นเพราะเขาใส่โลงเย็นไว้ด้วยแล่ะคุณ ไม่น่าแปลกอะไรหรอก" ศรันย์ค้าน
"แต่สีผิวมันต้องมีเปลี่ยนแปลงไปจากคนธรรมดาบ้างสิ" พรรับฟ้าเถียง
"คิดมากน่ะคุณ"
"เพราะแบบนี้แม่ถึงยังไม่อยากเผาฟ้าขวัญไงลูก" ธิดายิ้มบางๆให้
"แม่จะเก็บฟ้าขวัญไว้นานแค่ไหนคะ" พรรับฟ้าถาม
"แม่ขอเก็บเขาไว้แบบนี้เรื่อยๆก่อนลูกอย่างน้อยแม่คิดถึงเขาแม่ก็จะมาหามาดูหน้าเขา" ถึงพูดว่าดีขึ้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะมีน้ำตาของคนเป็นแม่
"ฟ้าพยายามจะยอมรับความจริงแต่พอได้เห็นมันก็อดที่จะร้องไม่ได้ ขอบคุณนะรัน ฟ้าอยากเห็นเท่านี้แล่ะ"
"ขอบคุณนะคะคุณแม่" พรรับฟ้าเข้าไปกอดเอวของธิดา
ธิดาหันไปโอบไหล่พรรับฟ้าซึ่งธิดาเองก็รู้สึกเหมือนได้กอดลูกตัวเองถึงจะไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนก็ตาม
...................................................................................................................
"นายเขตตะวันนายต้องชดใช้ ฉันขอเอาคืนกับชีวิตและอนาคตที่ฉันต้องสูญเสียไป!" พรรับฟ้ากำมือแน่นความชิงชังเพิ่มขึ้นทวีคูณเมื่อได้เห็นร่างของตัวเองนอนอยู่ในโลง
"นายหลอกให้ฉันรักแล้วก็ทิ้งกันง่ายๆ ถ้าฉันจะขอหลอกนายบ้างก็คงไม่ผิด ในเมื่อเห็นความรักของฉันเป็นแค่เกมส์พนันฉันก็จะทำให้ความรักของนายเป็นแค่ความสนุกของฉันเช่นเดียวกัน !"
จากที่รู้สึกรำคาญที่เขตตะวันมาเจาะแจ๊ะแต่ตอนนี้พรรับฟ้ารู้สึกอยากจะให้เขาเข้ามาหาเสียแล้วสิ
.......................................................................................................................