บทที่ 2

1144 คำ
อิงฟ้าถอนหายใจยาว อยากโต้ตอบกรินไปว่าตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมา เขายังทำให้เธอรักไม่ได้ นับประสาอะไรกับการคบกันแค่ระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งยังไงๆ เธอก็ไม่มีทางรักเขาได้ “กริน ถ้ายังอยากเป็นเพื่อนกับอิงเหมือนเดิม ก็เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว” “แต่...” “อยากให้อิงตัดเพื่อนกับกรินใช่ไหม!” อิงฟ้าขู่ฟ่อก่อนกรินจะทันได้เอ่ยพูดออกมา ดวงตาคู่สวยจ้องมองกรินเขม็ง ก่อนจะตัดบท ตัดความรำคาญด้วยการออกปากไล่อีกฝ่ายทางอ้อม “อิงอยากนั่งพักคนเดียวเงียบๆ หวังว่ากรินคงจะเข้าใจนะคะ” กรินกัดเม้มริมฝีปาก สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อระงับความเจ็บปวดกับความรักไม่อาจสมหวัง เอ่ยรับคำของหญิงสาวที่ตนเองหลงรักด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ “ถ้ายังงั้นกรินจะกลับเข้าไปดื่มกับเพื่อนๆ ต่อ แต่...ตอนกลับบ้าน อิงต้องให้กรินไปส่งนะครับ” ยังมีข้อแม้มาในตอนท้าย แต่มีหรือที่อิงฟ้าจะยอม “ไม่ต้องหรอกค่ะ อิงเอารถมา อิงขับกลับคนเดียวได้” “แต่ดึกมากแล้ว อิงขับรถกลับคนเดียวมันอันตรายนะครับ” กรินค้านออกมา ด้วยหวังว่าหญิงสาวจะยอมให้ตนเองขับรถไปส่งที่บ้าน และเขาอาจจะได้รับเชิญให้เข้าไปนั่งจิบกาแฟคุยกับหญิงสาวอีกสักชั่วโมง สองชั่วก่อนจะกลับบ้านของตนเอง แต่...กริน มีอันต้องฝันสลาย เมื่ออิงฟ้ายังคงปฏิเสธเสียงแข็งเช่นเดิม “อิงกลับเองได้ค่ะ กรินไม่ต้องไปส่งค่ะ” “อิง...ให้ผมไปส่ง...” “อิงปวดหัว อิงอยากอยู่เดียว” อิงฟ้าไล่เสียงแข็ง ดวงตาคู่สวยจ้องมองกรินเขม็ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี บอกให้รู้ว่าไม่อยากสนทนากับอีกฝ่ายอีกต่อไป ถูกไล่สองครั้งสองครา แถมอิงฟ้ายังตีหน้าบึ้งใส่ บอกให้รู้ว่ากำลังโกรธเขาในทุกขณะ กรินจึงจำต้องยอมล่าถอยในที่สุด “ก็ได้ครับ ถ้ายังงั้นกรินเข้าไปข้างในก่อนนะครับ” อิงฟ้าพยักหน้ารับ โดยไม่ได้หันไปมองอีกฝ่าย หญิงสาวรู้ว่ากรินรักเธอมานาน นอกจากจะพยายามจีบเธอแล้ว กรินยังฉลาดเข้าหาทางญาติผู้ใหญ่ แวะเวียนไปเยี่ยมมารดาของเธอเป็นประจำ จนท่านเชียร์ให้เธอรับรักและรับหมั้นกริน ซึ่งเธอไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เพราะเธอไม่ได้รักกริน หัวใจของเธอไม่ได้มีไว้เพื่อมอบให้กับกริน แต่หัวใจดวงนี้กำลังรอคอยใครสักคน...ใครสักคนที่เฝ้ารอมาช้านาน ทว่าหญิงสาวกลับหาคำตอบให้กับตัวเองยังไม่ได้ ว่าเมื่อไรเธอถึงจะพบผู้ชายคนที่เธอสามารถวางหัวใจอันพิสุทธิ์ไว้ในอุ้มมือของเขาได้ อิงฟ้านั่งรับลมพัดเย็นๆ อยู่คนเดียวเป็นเวลานาน พอหันไปมองภายในร้านอาหาร ก็ถอนหายใจยาวด้วยความเบื่อหน่าย ปาร์ตี้เลี้ยงฉลองรับปริญญากำลังสนุก แต่ต้องมากร่อย อารมณ์เสียเพราะถูกกรินตามตื้อไม่หยุด เพราะหมดอารมณ์อยู่ในงานเลี้ยงอีกต่อไป หญิงสาวจึงคว้ากระเป๋าสะพายเดินตรงไปยังลานจอดรถ ตัดสินใจกลับบ้าน ก่อนงานเลี้ยงจะเลิกรา โดยหารู้ไม่ว่า มีสายตาคมกริบของใครคนหนึ่ง เฝ้ามองเธอนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเดินเข้ามาในร้านแห่งนี้ กระทั่งถึงวินาทีสุดท้ายที่เธอขับรถออกไปจากร้านอาหารแล้ว แน่นอนว่า...เจ้าของดวงตาคมกริบคู่นี้ กำลังขับรถตามอิงฟ้าอย่างช้าๆ และใจเย็น ดวงตาทั้งคู่จับจ้องมองรถยนต์ของอิงฟ้าและขับตามอยู่ห่างๆ เพื่อรอเวลา...รอเวลาในการลงมือกับเหยื่อสาว ที่กำลังจะตกอยู่ในอุ้มมือของราชสีห์ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว... อิงฟ้าไม่คิดว่าจะมีภัยร้ายมาถึงตัว จึงไม่ได้ระมัดระวัง ขับรถกลับบ้านโดยไม่รอให้กรินมาส่งตนเอง ทว่า...หญิงสาวหารู้ไม่ว่ามีรถยนต์คันหนึ่งขับตามหลังเธออยู่ห่างๆ ตั้งแต่เธอออกมาจากร้านอาหารแล้ว คนร้ายต่างก็แสยะยิ้มเมื่อเห็นเหยื่อขับรถออกมาจากร้านอาหารเพียงลำพัง พวกมันรอแค่เวลาให้เหยื่อขับรถไปบนถนนที่ร้างรารถสัญจรไปมา จากนั้นพวกมันจะลงมือเชือดเหยื่อสาวในทันที และเวลาที่พวกมันรอ ก็เดินทางมาถึง เมื่อเหยื่อสาวเลี้ยวรถเข้าในซอยเข้าหมู่บ้านซึ่งไม่มีรถคันอื่นๆ ใช้ถนนร่วมด้วยแม้แต่คันเดียว ปี๊ดดด... เสียงบีบแตรรถที่ดังลั่น พร้อมกับถูกเปิดไฟสูงไล่จากรถที่ขับตามหลัง ทำให้อิงฟ้าต้องชะลอความเร็วรถลง แล้วเปลี่ยนเลนขับรถชิดเลนซ้าย เพื่อเปิดทางให้รถคันหลังแซงเธอได้สะดวกขึ้น ขณะขับรถชิดเลนซ้าย อิงฟ้าก็เหลือบสายตามองทางกระจกมองหลัง และกระจกข้าง มองรถยนต์คันหลังซึ่งขับมาด้วยความเร็วสูงแซงรถของเธอไป “จะรีบไปไหนนะ” หญิงสาวบ่นอุบ แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง ร้องกรี๊ดเสียงหลง เหยียบเบรคแทบไม่ทัน เมื่อจู่ๆ รถยนต์คันที่แซงเธอไปได้ขับปาดหน้า ก่อนจะจอดรถอย่างกะทันหัน ทำให้เธอต้องเหยียบเบรคแทบมิดเท้าจอดรถตามไปด้วย “บ้าจริงๆ ทำไมขับรถมารยาทรามแบบนี้” อิงฟ้าด่าพึมพำอยู่คนเดียว และด้วยไม่คิดว่ารถคันหน้าจะมุ่งร้ายกับตนเอง จึงไม่ได้ระวังตัว ไม่ได้ล๊อกประตูรถยนต์ แต่แล้วก็ต้องร้องกรี๊ดดังลั่นรถ เมื่อมีชายฉกรรจ์สองคน ร่างใหญ่ยักษ์ หน้าตาน่ากลัวลงจากรถแล้วกรูเข้ามาที่รถยนต์ของเธอ ก่อนจะกระชากประตูรถออก แล้วดึงตัวเธอให้ลงจากรถอย่างไม่ปราณีปราศรัย “ลงมา!” “กรี๊ดดด...ช่วยด้วย...” อิงฟ้าหวีดเสียงร้องด้วยความหวาดกลัว ใบหน้างามขาวซีดไม่ต่างจากกระดาษขาว หวาดกลัวจนตัวสั่น พยายามดิ้นหนีให้เป็นอิสระด้วยการข้ามไปเบาะรถทางด้านซ้าย แต่กระนั้นก็ยังถูกกระชากออกมาจากรถยนต์จนได้ “ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย!” “แหกปากหาพระแสงอะไรวะ หุบปากเดี๋ยวนี้!” หนึ่งในคนร้ายตะคอกลั่น พร้อมกับซัดหนักๆ ไปบนใบหน้าขาวซีดเต็มแรง เผียะ! “กรี๊ดดด...ช่วย...ช่วยด้วย...” แม้ปวดระบมทั่วใบหน้าที่ถูกตบ หวาดกลัวแทบสิ้นสติ แต่อิงฟ้าก็ยังสู้ไม่ถอย ร้องขอความช่วยเหลือ ดิ้นรนให้พ้นจากคนร้ายเท่าที่ยังมีแรงเหลืออยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม