“กลับมาแล้วเหรอกองทัพ” หลังจากที่เคลียร์งานที่ต่างประเทศเสร็จกองทัพรีบกลับทันที และพอมาถึงบ้านหลังใหญ่ เสียงของคุณแม่ก็ดังขึ้น
“ครับ” ร่างสูงเดินเข้าไปกอดแม่ของตัวเองและหอมฟอดใหญ่
“มาเหนื่อย ๆ แม่เตรียมน้ำกับขนมเอาไว้ให้” สองคนแม่ลูกเดินไปที่ห้องรับแขกและพูดคุยกลับไปตลอดทางเดิน
จนมาถึงห้องรับแขก
“กองทัพ”
“ครับแม่”
“ลูกไม่คิดจะสนใจหนูนามิบ้างเหรอ” แม่ของกองทัพเอ่ยถามลูกชายตัวเอง เพราะไม่เห็นว่าลูกจะสนใจใครเลยแม้แต่คนเดียว
“โถ่!! แม่ครับ แม่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้อุ้มหลานหรอกครับ แม่ได้อุ้มแน่”
“พูดเป็นเล่น ลูกยังไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอ”
“ครับ” อยากจะบอกแม่ตัวเองเหลือเกินว่าเขานั้นไม่มีแฟนแต่มีเมียเลย แต่ก่อนที่จะบอกกับแม่ตัวเองเขาคงต้องไปจัดการกับว่าที่ลูกสะใภ้ให้แม่ก่อน
“ถ้าลูกยังหาเมีย แม่จะหาให้!!” คำพูดของแม่ทำให้กองทัพถึงกับเสียวสันหลังวาบ เพราะครั้งนี้แม่ของเขานั้นพูดจริงเรื่องนี้เขาสัมผัสได้
“มารึยังเนี้ย!!” หลังจากที่ได้วันว่างจากเลขาของคุณกองทัพ ที่ริต้าภาวนาขอไม่ให้เป็นคนเดียวกัน ร้านกาแฟที่เลขาของคุณกองทัพให้ ทำให้ริต้าต้องพาตัวเองมาถึงร้านกาแฟนี้
เวลาผ่านไปนานกว่าครึ่งชั่วโมงที่ริต้านั่งรอคุณกองทัพก่อนที่เธอจะต่อสายหาคุณพิธาและได้คำตอบว่าเจ้านายของเขากำลังเดินทาง
“รอเก่งนะ”
“นาย!!” ร่างสูงใส่สูทราคาแพง เอ่ยทักริต้าที่นั่งดูมือถือตัวเองอยู่ ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นมามองเพราะน้ำเสียงอันคุ้น
“คุณมีธุระอะไรกับผม”
“เป็นคุณจริง ๆ ด้วยสินะ!!” ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากที่ได้เจอกับกองทัพ เหมือนยิ่งหนีก็ยิ่งเจอ
“ฉันอยากได้บ้านหลังนะ ขายให้ฉันเถอะนะ!!” เพราะตัวเองเป็นต่อ ทำให้ริต้ากัดฟันพูดอย่างสุภาพและอ้อนวอนคนตัวโตที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“ผมไม่ได้ร้อนเงิน ทำไมต้องขาย”
“ขายให้ฉันเถอะ บ้านหลังนั้นเป็นบ้านของพ่อกับแม่ฉัน” ริต้าพยายามอธิบายอย่างใจเย็นกับกองทัพ เธอข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้วีนใส่เขา
“มีอะไรมาแลก”
“ไอ้!!” เธอพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองแต่ด้วยความกวนประสาทของกองทัพทำให้เธอเผลอหลุดโมโหออกไป
“พูดเพราะ ๆ” เสียงเข้มเอ่ยดุ ริต้า เพราะเขาอายุมากกว่าเธอและอีกอย่างเขาไม่ชอบให้ริต้าพูดไม่เพราะใส่เขา
“คุณฉันอยากได้บ้านหลังนั้นจริง ๆ” เพราะไม่มีหนทางไหน ทำให้ริต้าอ่อนลง เธอเริ่มปลงกับเรื่องบ้านแล้วหลังจากที่เจอกับกองทัพ
"แต่งงานกับผม แล้วผมจะยกบ้านให้"
“ห๊ะ!!” ประโยคที่เธอได้ยินจากกองทัพ ทำให้ริต้าถึงกับอุทานเสียงดัง เพราะไม่คิดว่าเธอจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากกองทัพ ผู้ชายที่ผู้หญิงต่างพากันวิ่งเข้าหา
“แต่งงานกับผมแล้วผมจะยกบ้านให้”
“ไม่เอาด้วยหรอก” น้ำเสียงเสียดายบ้านแต่ถ้าให้เธอแต่งงานกับคนแบบกองทัพ สู้เธอกัดลิ้นตัวเองตายดีกว่า
“สัญญาหนึ่งปี”
“เพื่ออะไร?”
“ให้แม่สบายใจ แค่นั้น? ไม่จับคู่กับคนอื่น” กองทัพตอบด้วยใบหน้านิ่ง เขารอฟังคำตอบจากริต้าที่ตอนนี้ทำให้คิดทบทวนกับตัวเองอยู่
“ฉันก็มีศักดิ์ศรีของฉันนะคุณ”
“ห้าล้าน รายเดือน เดือนละแสน”
“ตกลง เห็นแกคุณนะ คุณน่าสงสารหรอกนะ ไม่งั้นฉันไม่ช่วยหรอก” เอาวะ!!ได้แต่บอกกับตัวเองในใจ สัญญาแค่หนึ่งปีเท่านั้น
“ตามนี้ อย่าเปลี่ยนใจ เดี๋ยวสัญญาผมจะให้ทนายทำสัญญาให้เซ็น”
“ค่ะ!!” หลังจากที่ตกลงกันเสร็จกองทัพก็ลงจากโต๊ะโดยปล่อยให้ริต้านั่งอยู่ มือบางกุมขมับตัวเอง ความสับสนโจมตีเข้ามา
เมื่อกองทัพเห็นริต้า ทำให้เขาต้องจำใจปล่อยให้เธอไปก่อน เพราะยังไงเขาก็ไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปแน่ อีกอย่างช่วงนี้เขายุ่งมากจนแทบไม่มีเวลา แต่ที่มาพบกับเธอเพราะแค่อยากเห็นหน้าก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปตรวจงานที่ไซต์งานก่อสร้างที่เขากำลังทำโครงการบ้านจัดสรรต่อ
“เรื่องอะไรวะเนี้ย” ริต้าพึมพำกับตัวเองอย่างเหม่อลอย กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทุกอย่างรวดเร็วไปหมดจนเธอตั้งตัวแทบไม่ทัน
“แม่ครับ พ่อครับ” หลังจากที่กองทัพกลับไปถึงบ้านใหญ่ เจ้าตัวก็เดินเข้าไปหาพ่อและแม่ของตัวเองที่นั่งอยู่ห้องรับแขกของบ้านทันที
“ว่าไงไอ้เสือ” เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อขานรับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ก่อนที่ร่างสูงของกองทัพจะนั่งลุกที่โซฟาข้าง ๆ พ่อกับแม่
“ผมจะแต่งงาน”
“ห๊ะ/ห๊ะ” ไม่ได้เกินคาดที่กองทัพคิดเอาไว้ ใบหน้าตกใจของพ่อและแม่ของเขาเล่นเอาเจ้าตัวแทบกั้นขำไม่ไหว
“ล้อเล่นเหรอ” ยังคงเป็นคุณพ่อที่เอ่ยถามกองทัพขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจในประโยคที่ได้ยินจากลูกชาย ที่ในชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะได้ยิน
“ผมจะแต่งงาน แม่ช่วยไปหาฤกษ์ให้ผมหน่อยครับ” ใบหน้าหล่อหันหน้าไปออดอ้อนแม่ของตัวเอง ทั้งที่คุณแม่ยังนิ่งอึ้งกับคำตอบของลูกชายอยู่
“นี่ลูกจะแต่งงานกันใคร”
“เมียผมไงครับ” ใบหน้าจริงจังของกองทัพทำให้พ่อและแม่ของเขาเริ่มเชื่อในสิ่งที่ลูกชายตัวเองพูด
“เออ เมียลูกคือใคร” ด้วยความเป็นห่วงเพราะกลัวว่าลูกชายที่ไม่ชอบยุ่งกับผู้หญิงคนไหนจะไม่ทันมารยาทหญิง ด้วยความเป็นห่วงทำให้แม่ของกองทัพรีบเอ่ยถามลูกชายของตัวเองด้วยความเป็นห่วง เธอไม่ได้หัวโบราณถ้าลูกจะแต่งงานหรือต้องแต่งกับคนที่เธอเลือกให้เท่านั้น
“เป็นผู้หญิงที่ดีครับ แม่เชื่อผมเถอะ”
“แม่จะเชื่อแกได้ยังไงหรือแกกำลังหลงผู้หญิงคนนั้นอยู่”
“ไม่หรอกครับ”
“บอกแม่มาว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ไม่งั้นแม่จะไม่ไปหาฤกษ์ให้ ถ้าเกิดผู้หญิงคนนั้นหลอกแต่งงานเอาสมบัติขึ้นมาจะทำยังไง ห๊ะ!!” แม่ของกองทัพร่ายยาวความคิดออกมา เพราะผู้หญิงสมัยนี้ร้ายไม่เบา
“เขาไม่ได้มาหลอกแต่งงานกับผมหรอกครับแม่”
“ลูกจะรู้ได้ยังไง”
“เพราะผมต่างหาก ที่เป็นคนหลอกเธอให้มาแต่งงาน”
“ห๊า/ห๊ะ!!” เสียงอุทานของพ่อแม่ของกองทัพดังลั่นห้องรับแขกอีกครั้ง เมื่อได้ยินคำตอบของลูกชาย ที่หลอกผู้หญิงมาแต่งงานด้วยและไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นเลยด้วยซ้ำที่ลูกชายของเขาจะหลอกผู้หญิงมาแต่งงานด้วย เพราะทุกวันนี้กองทัพมีแต่ผู้หญิงเข้าหาไม่เว้นแต่ละวัน
“ช่วยเก็บเป็นความลับด้วยนะครับ”