บทที่ 1 เพียงให้ทาง

972 คำ
บทที่ 1 เพียงให้ทาง เสียงเพลงมาร์ชพยาบาลจบลง จันทร์จิรายกยิ้มกว้างดวงหน้าเปี่ยมด้วยความสุข นาฬิกาที่บอกเวลา 24.00 น. บ่งบอกเวลาเข้าเวรของเธอ ทั้งที่วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบอายุยี่สิบเจ็ดปี แต่เพราะโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมากกว่าสองร้อยกิโลเมตร ทำให้จำนวนพยาบาลมีไม่เพียงพอกับความต้องการ วันนี้จันทร์จิราจึงต้องอยู่เวรโดยมีหน้าที่ส่งต่อผู้ป่วยภาวะวิกฤตจากโรงพยาบาลชุมชนไปส่งโรงพยาบาลจังหวัด อาชีพพยาบาลอย่างเธอมีทางเลือกมากมาย หากแต่เพราะชีวิตที่ไม่เหลือใครอย่างเธอไม่จำเป็นต้องดิ้นรนแข่งขันอะไร ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะทำตามความฝันของเธอ อุทิศตนเพื่อผู้ป่วย ร่างบางหยิบเค้กที่ปักเทียนยกขึ้นเป่าอวยพรให้ตนเองพบความสุขในชีวิต ติ๊ด... ติ๊ด... “ของขวัญวันเกิดใช่ไหมนี่” “ลูกจันทร์มีคนไข้ post arrest CPR ขึ้นตอนนี้ On ETT รีเฟอด่วน” “ค่ะ เดี๋ยวจันทร์ไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที จันทร์จิราก็มาถึงห้องฉุกเฉินในชุดที่พร้อมกับการเดินทางครั้งนี้ ร่างบางตรงเข้าไปรับเวรในทันที เนื่องจากเข้าใจสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ดี “คนไข้ผู้ชาย อายุน่าจะประมาณสามสิบปี ไม่มีบัตรอะไรเลย มีคนไปเจอนอนหมดสติที่ข้างทาง เลยเรียกรถกู้ภัยไปรับ แรกรับคนไข้ไม่รู้สึกตัว คลำชีพจรไม่ได้ ทางทีมกู้ชีพเลย CPR (ปั๊มหัวใจ) มาจนถึงโรงพยาบาล และทางเราได้ CPR ต่อ หลังจากนั้น HR ก็ขึ้น (หัวใจกลับมาเต้น) หมอใส่ท่อให้แล้วนะ ตอนนี้ moniter EKG (เครื่องประเมินการเต้นของหัวใจ) ไว้ให้ แล้ว...” รายละเอียดอื่นๆ ถูกส่งต่อมาอีกชุดใหญ่ จันทร์จิราได้แต่ปาดเหงื่อในใจ คนไข้อาการหนักขนาดนี้แต่พยาบาลนำส่งกลับมีเธอแค่คนเดียว หากเกิดคนไข้หัวใจหยุดเต้นกลางทาง เธอคงได้แต่ร้องขอสวรรค์ช่วย รถฉุกเฉินออกเดินทางทันทีที่ทุกอย่างพร้อม จันทร์จิราตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ บนรถด้วยความตั้งใจ ระยะเวลาสามชั่วโมงนับจากนี้คือนาทีชีวิตของคนไข้ในมือเธอ จะอย่างไรเขาจะต้องปลอดภัย จันทร์จิราภาวนาในใจให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง หากแต่สิ่งที่เธอกลัวมาตลอดก็เกิดขึ้น ติ๊ด... สัญญาณชีพจรบนหน้าจอเครื่องที่แสดงการเต้นของหัวใจกลายเป็นเส้นตรง มือบางรีบคลำชีพจรในทันที ไม่มีการเต้นของหัวใจ เร็วยิ่งกว่ากะพริบตา ร่างบางรีบทำการ CPR ในทันที “ลุงพร คนไข้ arrest แวะโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด” หลังจากที่เอ่ยออกไป ลุงพรก็เหยียบคันเร่งจนมิด เพราะนาทีชีวิตของคนไข้ที่กำลังต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ขณะที่เบื้องหน้าคือสี่แยก มีรถติดไฟแดงประมาณห้าคัน ลุงพรเปิดเสียงสัณญาณฉุกเฉินพร้อมกับประกาศขอทาง รถสี่คันแรกชิดเข้าด้านซ้ายยอมไปกลับรถเพื่อหลีกทางให้อย่างรวดเร็ว หากแต่รถอีกคันด้านหน้ากลับไม่ยอมขยับ “พี่หลบชิดซ้ายให้รถพยาบาลหน่อยสิ” หญิงวัยยี่สิบกว่าปีเอ่ยบอกสามีผู้เป็นคนขับรถอย่างหงุดหงิดใจ “หลบทำไมอีกสามสิบวิก็ไฟเขียวแล้ว จะรีบอะไรนักหนา ชิดซ้ายตามเธอว่าเราก็ต้องไปยูเทิร์นไกลจะตาย” “แต่เขาอาจจะมีคนเจ็บหนักก็ได้นะพี่” “เงียบๆ ไปเลย รีบนักก็เบี่ยงขวาไปเลย” “แต่มันอันตรายนะพี่ เราก็ไม่ได้รีบสักหน่อย ช่วยๆ กันไม่ได้รึไง” ขณะที่คนในรถคันหน้ากำลังเถียงกัน จันทร์จิราก็เริ่มที่จะหมดแรงลงทุกที ด้วยมาคนเดียวไม่อาจมีคนเปลี่ยนช่วยเธอ แต่ถึงอย่างไรก็มิอาจหยุดมือ ลุงพรตัดสินใจหลบเข้าเลนขวาแล้วขยับรถเพื่อจะฝ่าไฟแดงไปด้านหน้า แต่เวลานี้เป็นเวลาของไฟเขียวแยกทางขวามือเช่นกันทำให้รถที่พุ่งออกมาก็มีไม่น้อย หากแม้รถคันเมื่อครู่ยอมหลีกทางให้สักนิด พวกเขาก็คงไม่ต้องมาเสี่ยงขนาดนี้ “ลุงพร จันทร์จะไม่ไหวแล้ว” เสียงของจันทร์จิราอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด ลุงพรตัดสินใจพุ่งรถออกไปเมื่อเห็นช่องว่างของรถบนถนน และรถทางขวาเหมือนจะชะลอตัวให้ทาง แต่เมื่อรถเคลื่อนออกไประหว่างถนนกลับมีรถกระบะสีขาวพุ่งออกมาจากทางขวาด้วยความเร็วสูง เพราะเวลาบนป้ายสัญญาณจราจรบอกเวลาที่เหลือเพียงสามวินาทีสุดท้าย หากช้าอีกเพียงนิดเขาจะต้องรอสัญณาณไฟรอบใหม่ซึ่งคงใช้เวลาอีกนานทีเดียว แรงกระแทกจากด้านขวาของรถพยาบาลทำให้จันทร์จิรากระเด็นไปชิดตัวรถด้านซ้าย คล้ายโลกหมุนเร็วผิดปกติ ร่างบางกลิ้งไปมาราวลูกข่างกระแทกกับอะไรต่อมิอะไรจนมิอาจแยกได้ เพียงชั่วพริบตาที่รถพยาบาลคันขาวหมุนไปบนถนนกลางสี่แยก หากแต่นั่นก็คือช่วงสุดท้ายของลมหายใจของสามชีวิตในรถที่ถูกพรากจากไป “พี่รถชน” “เออ... เห็นแล้ว” “เห็นไหมพี่ ฉันบอกให้พี่หลบ พี่ก็ไม่เชื่อฉัน ไม่อย่างนั่นคนในรถคงไม่...” หญิงสาวในรถคันเดิมกล่าวต่อว่าสามีพร้อมน้ำตาไหลอาบแก้ม ขณะที่ฝ่ายชายได้แต่หน้าซีดมือสั่นจ้องมองเหตุการณ์เบื้องหน้าด้วยความรู้สึกผิดท่วมท้นในใจ หากแม้นย้อนเวลาได้เขาจะไม่ลังเลเลยที่จะตัดสินใจให้ทาง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม