... นอกจากเบญจมินทร์คนเดียวเท่านั้น ตนรอคอยเพียงชายหนุ่มที่ชื่อเบญจมินทร์
แล้วก็สมความตั้งใจเมื่อทางพ่อแม่อนุญาตให้แต่งงานกับเขาได้
“ว่ายังไง ติดต่อพ่อสามีตัวดีของเราได้หรือยัง”
เสียงของแม่ถามขัดความคิดในช่วงเวลานั้นพร้อมกับที่ท่านเดินนำคนรับใช้ที่กำลังช่วยกันยกเครื่องดื่มบำรุงครรภ์มาให้ถึงในห้องนอน
พิชญ์สิณียิ้มอ้อนแม่แล้วเอ่ยแก้ต่างให้ชายผู้เป็นสามีไปว่า
“พี่เบญติดงานน่ะค่ะคุณแม่ นี่ก็ยังไม่ได้นอนเลยนะคะ”
วทันยาได้ยินลูกสาวแก้ต่างให้ก็รู้สึกหมั่นไส้ลูกเขยยิ่งนัก “เมียกำลังท้องกำลังไส้ทำไมไม่รู้จักกลับมาดูแล งานอะไรกันมันยุ่งขนาดนั้นเชียวหรือ”
“คุณแม่ขา คุณแม่ก็ทราบนี่คะว่าพี่เบญน่ะเป็นพวกบ้างานขนาดไหน ตอนเด็ก ๆ ลูกพีชยังจำได้เลยนะคะ ว่าพี่เบญบ้าเรียนด้วย อ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำได้ที่หนึ่งมาตลอด เรียนมหาลัยก็คว้าเกียรตินิยมเหรียญทองด้วย เป็นยังไงล่ะคะสามีของลูกพีช เก่งและสุดยอดไปเลยไหมคะ”
คนเป็นแม่ปรายตามองอย่างหมั่นไส้ปนเอ็นดู
“เก่งแต่ในตำรา พวกความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดน่ะสิ”
เบญจมินทร์ก็แค่เรียนเก่ง มีความรู้แค่ในตำราเท่านั้น บริหารงานเองไปไม่รอด จนธุรกิจที่ก่อตั้งด้วยตนเองเจ๊งอยู่นั่นไง แล้วทำไมลูกสาวของตนจึงได้ไปรักผู้ชายแบบนั้นก็ไม่รู้ ส่วนทางนั้นรักลูกสาวของตนหรือไม่ ตอนที่บอกว่าจะแต่งงานก็มีเพียงแต่ลูกสาวของตนที่บอกว่ารักเบญจมินทร์ อยากแต่งงานกับเขา พอบอกว่าให้ดูกันไปก่อน ก็กินยานอนหลับเกินขนาดจนต้องหามเข้าโรงพยาบาลกลางดึกกันนั่นไง
วทันยามองตาเบญจมินทร์แล้วก็มองไม่ออกเลยว่าทางนั้นรักลูกสาวของนาง แต่ในเมื่อมีลูกมีเต้าด้วยกัน ก็คงรักกันบ้าง
“เอาเถอะ ลูกคลอดเมื่อไหร่ก็เอาเวลามาดูลูกตัวด้วยล่ะ อย่าเอาแต่ทำงานอย่างเดียวจนลืมว่าแต่งงานมีลูกมีเมียอยู่ทางนี้”
พิชญ์สิณีมองสบตากับแม่เมื่อท่านพูดจาแปลกไป ท่าทางดูไม่ใคร่สบายใจเท่าไหร่นัก ก็ยิ้มอ้อนท่านแล้วก้มลงซบแขนของแม่ วทันยาลูบท้องนูนเพียงนิดเดียวของลูกสาวไปมาเบา ๆ ด้วยความรักหมดทั้งหัวใจ พร้อมกับคิดไปว่าขออย่าให้เรื่องที่ได้รับรู้จากคนของตน กลายเป็นเรื่องลามปามเรื่องใหญ่ก็พอ ไม่อย่างนั้นคนที่จะเสียใจมากที่สุด คงไม่ใช่ใครที่ไหน ลูกสาวของตนนี่อย่างไร
“คุณแม่ก็อย่าจับผิดพี่เบญนักสิคะ ลูกพีชขอร้องล่ะค่ะ ลูกพีชไม่อยากให้พี่เบญอึดอัดแล้วก็ไม่สบายใจเวลาอยู่ที่บ้านของเราค่ะ”
“โธ่เอ๊ย ตั้งแต่แต่งงานกันมา ตาเบญนอนที่นี่แทบนับครั้งได้ จะอึดอัดหน่อยก็ช่างปะไร เราน่ะก็ห่วงแต่ผัว”
พิชญ์สิณีกลั้นลมหายใจของตัวเองเอาไว้จากนั้น ไม่ถึงนาทีเลือดก็ไหลออกจากโพรงจมูก คนเป็นแม่เห็นก็ร้องตกใจ ลนลานมองหาทิชชู หยิบมาเช็ดให้พร้อมกับบ่นเรื่องสุขภาพของลูกสาวไปพลาง เจ้าตัวแกล้งยิ้มเนือย ๆ ให้แม่ เพราะหากไม่ทำแบบนี้ แม่ของตนก็จะบ่นไม่เลิก ก่อนแตะหลังมือของแม่แล้วบอกออกไปว่า “ลูกพีชไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะแม่”
“พักเยอะ ๆ แม่ห่วงหนูมากนะรู้ไหม เจ้าตัวน้อยในท้องด้วย อย่าโยเยหนักนะ ได้ยินยายหรือเปล่าลูก”
พอได้หยอกล้ออีกชีวิตในท้องของลูกสาว คนจะได้เป็นยายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็ค่อยอารมณ์ดีขึ้น วทันยายื่นมือลูบท้องนูนอีกที ทักทายด้วยเสียงเอ็นดูสุดจิตสุดใจไปว่า
“ไหนดูซิว่าเจ้าตัวเล็กของยายดิ้นแล้วหรือยัง”
“ยังหรอกค่ะคุณแม่ เพิ่งจะสามเดือนเอง”
พิชญ์สิณีสบจังหวะเปลี่ยนเรื่องสนทนา พาแม่คุยเรื่องลูกน้อยในท้องต่อจากนั้น ใบหน้าสดใสเริ่มบวมน้ำเล็กน้อยจากภาวะตั้งครรภ์แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็รู้สึกมีความสุขทุกครั้ง ที่คิดได้ว่าในท้องของตนนั้นมีเลือดเนื้อเชื้อไขของชายที่รัก รอคอยลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว
เบญจมินทร์พารถเข้าไปจอดที่หน้าอาคารสำนักงานก่อนจะขึ้นไปยังชั้นที่ทำงานของเขา เวลาเที่ยงตรงถึงได้เห็นหญิงสาวท่าทางบอบบางในชุดกระโปรงยาวเสมอหัวเข่าเดินออกจากลิฟต์ตรงเข้ามาที่ห้องทำงานของเขา
“ลูกพีชเอามื้อเที่ยงมาให้ค่ะพี่เบญ”
เบญจมินทร์มองภรรยาโดยนิตินัยด้วยสายตาเหนื่อยอ่อน พิชญ์สิณีไม่เคยบกพร่องเรื่องหน้าที่ของภรรยา หญิงสาวปรนนิบัติ ดูแล เอาใจใส่เขาเป็นอย่างดีทุกเรื่องตลอดเวลาตั้งแต่จดทะเบียนสมรสด้วยกันมาจนถึงวันนี้
“คราวหลังไม่ต้องนะลูกพีช”
พิชญ์สิณีเอียงคอมองสามีก่อนส่งเสียงถามหยอกเย้า “คุณพ่อเป็นห่วงลูกพีชกับเจ้าตัวน้อยในท้องใช่ไหมคะ เลยไม่อยากให้เอาของมาให้กินน่ะค่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ลูกพีชแข็งแรงจะตาย ส่วนลูกน่ะ ก็ลูกพี่เบญด้วยนะคะ แข็งแรงเหมือนคุณพ่อนั่นแหละค่ะ”
เบญจมินทร์พูดอะไรไม่ออก เมื่อได้ยินพิชญ์สิณีพูดถึงการตั้งครรภ์ของตน แล้วยังพูดย้ำถึงลูกในท้องว่าคือลูกของเขา
เขาอยากกล่าวโทษในสิ่งที่หญิงสาวทำลงไป แต่แล้วเขาก็พูดอะไรไม่ออก เพราะพื้นเพนิสัยไม่ใช่คนชอบพูดมาก และไม่นิยมอาละวาดใส่ใคร มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ทำ คือการระเบิดอารมณ์กับวสุกัญญา เมื่อหญิงสาวเอ่ยปากขอหย่าจากเขาเมื่อคราวนั้น เพียงครั้งเดียวนั่นเองที่เขาหลุดการควบคุมตัวเอง แม้จะผ่านมาหลายปีแต่เขาก็ยังจำได้ไม่เคยลืม
รักมากก็มักจะโกรธมาก โมโหมากเป็นธรรมดา เมื่อได้รับความผิดหวังเป็นการตอบแทนกลับมาเช่นนั้น
“ค่ำนี้คุณพ่อฝากให้ลูกพีชมาชวนพี่เบญค่ะ เรามีงานเลี้ยงสังสรรค์เล็ก ๆ ที่บ้าน เดี๋ยวตอนเย็นเรากลับพร้อมกันเลยนะคะ ลูกพีชเอาชุดของลูกมาถักรอพี่เบญเลิกงานด้วยค่ะ นี่ไงคะ น่ารักไหม”
พิชญ์สิณีบอกพร้อมกับล้วงเอาก้อนไหมสีสะอาดตาที่ถักขึ้นรูปไว้แล้วขึ้นชูตรงหน้าให้เขาดู เบญจมินทร์มองแล้วก็ถอนลมหายใจออกมายาว ๆ อีกครั้ง