ตอนนี้จึงกลายเป็นว่าเบญจมินทร์นอนคั่นกลางระหว่างเธอกับลูกสาว
และเขาก็ตื่นแล้วด้วย พอเห็นเธอมองไปยังลูกคล้ายสงสัยว่าย้ายไปนอนตรงนั้นได้อย่างไร ก็รีบก้มลงขโมยจูบที่หน้าผากของเธอสองที ก่อนจะยอมคลายอ้อมกอดออก เธอเลยยกมือขึ้นทุบเขาแรง ๆ เมื่อเริ่มตั้งสติได้
ใบหน้าของวสุกัญญาออกสีแดงเล็กน้อย ทั้งยังรู้สึกได้ถึงอาการร้อนผะผ่าวที่ถูกเขาเอาเปรียบเช่นนี้
ร่างกลมดิ้นยุกยิกเพราะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้วเหมือนกัน แม่ตัวดีลืมตาได้แล้วก็นั่งงงอยู่อึดใจ ก่อนส่งยิ้มหวานให้แม่และลุงเบญ พูดเสียงงัวเงียทักทายยามเช้ามาว่า
“ดีจังเลยค่ะ ตื่นมาแล้วได้เห็นหน้าคุณลุงเลย”
เบญจมินทร์ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกเสียวแปลบที่หัวใจ คิดพาลไปว่าทำไมเขาจะต้องถูกพรากจากลูกแบบนี้ด้วย ชายหนุ่มกล้ำกลืนความรู้สึกเจ็บร้าวที่มี ข่มมันให้ลึกสุดความรู้สึก ตามองไปยังร่างของคนที่เขาย้ายมานอนกอดตั้งแต่ก่อนฟ้าสาง แล้วค่อยตอบกลับด้วยเสียงที่พยายามไม่ให้สั่นพร่าตามอารมณ์อ่อนไหววูบหนึ่ง ที่ตีตื้นเข้ามารบกวน
“พ่อก็ดีใจครับที่ตื่นมาแล้วเห็นหน้าน้อง”
เด็กน้อยมองเบญจมินทร์ด้วยสายตาเป็นประกาย เปี่ยมไปด้วยความรักตามประสาเด็ก ได้ยินอีกฝ่ายแทนตัวเองว่าพ่อก็หลายครั้ง แล้วก็ไม่นึกหวงแม่กับเขาอีกด้วย อยากให้คนตรงหน้ามาเป็นพ่อของตนจริง ๆ เสียเลย เดี๋ยวจะลองขอแม่ดูอีกที ไม่รู้ว่าแม่จะอนุญาตหรือไม่ เจ้าตัวคิดแล้วยิ้มก่อนพูดขึ้นต่อจากนั้น
“คุณลุงมานอนที่บ้านน้องทุกวันได้ไหมคะ”
“ขออนุญาตคุณแม่ให้ลุงหน่อยสิ”
เขาส่งเสียงอ้อนบอกลูก แล้วลากสายตาไปมองยังคนที่ลุกออกจากที่นอน เดินไปเปิดม่านหน้าต่างออกรับแสงอาทิตย์ยามเช้าโน่นแล้ว แม่ตัวดีได้ยินอย่างนั้นก็ลองเรียกแม่ดู เพื่อที่จะขออนุญาตให้คุณลุง ตามที่เขาบอกเมื่อครู่นี้
“คุณแม่ขา”
วสุกัญญาได้ยินหมดนั่นแล้ว จึงส่งเสียงเรียบติดขรึมถามกลับไป “อะไรคะ”
“น้องอยากขออนุญาตให้คุณลุงมานอนที่บ้านของเราทุกวันได้ไหมคะ”
“ไม่ได้หรอกลูก คุณลุงมีภรรยาแล้ว ไม่ควรไปนอนที่นั่นทีที่นี่ที ต้องเกรงใจภรรยาให้มาก ๆ เข้าไว้”
เธอใช้โอกาสนี้พูดเตือนสติเขาไปด้วยเลย
ได้ยินแม่เอ่ยถึงคุณป้าที่เป็นภรรยาของลุง ก็เอียงหน้ามองด้วยสายตางุนงง เพราะไม่เคยมีใครพูดถึงมาก่อน ก่อนจะหันไปทางเบญจมินทร์เพื่อถามหาคุณป้าที่ว่านั่น
“คุณลุงขา”
เบญจมินทร์เก็บงำความไม่พอใจเอาไว้ ตั้งแต่ได้ยินเธอพูดถึงภรรยาของเขานั่นแล้ว ก่อนตอบโต้กลับด้วยเสียงที่เคร่งขรึมปานกัน
“ไม่เป็นไรครับลูก ไม่ต้องขอให้ลุงหรอก ถ้าลุงจะนอนที่นี่ ลุงไม่ต้องขออนุญาตใครที่ไหนทั้งนั้น”
วสุกัญญาไม่ได้สนใจเขาอีก เธอมองที่ลูกแล้วกระตุ้นเตือนไปว่า “เราน่ะลุกขึ้นมาแปรงฟันอาบน้ำได้แล้ว จะได้ไปโรงเรียน”
เบญจมินทร์ไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่า เขาใช้เวลาที่เขามีกับลูกสาวและหญิงสาวทั้งสองคนที่เขารักสุดหัวใจให้คุ้มค่ามากที่สุด พอได้ยินว่าลูกจะอาบน้ำแปรงฟันก็ถือโอกาสทำให้ แต่เด็กหญิงสวรินทร์ถูกแม่สอนให้ช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่สามขวบ กิจวัตรประจำวันจึงไม่ต้องการให้ใครมาคอยช่วยเหลือ
เบญจมินทร์ยืนมองลูกสาวคนเดียวของเขาด้วยสายตาชื่นชม พร้อมกับเอ่ยปากว่าเก่งมากเป็นระยะ แม่ตัวดีได้ยินคำชมจากคุณลุงคนโปรดก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนชมเขากลับไปบ้างเมื่อเห็นเขายืนแปรงฟันและทำกิจวัตรอย่างอื่น
วสุกัญญาแว่วเสียงชมกันไปมาอยู่อย่างนั้นก็อดส่ายหน้าน้อย ๆ ไม่ได้ แล้วค่อย ๆ หุบยิ้มลงเมื่อนึกได้ว่าเบญจมินทร์กำลังจะกลับไปหาครอบครัวของเขาแล้ว
หลังจากกินมื้อเช้าที่ไม่ได้กินด้วยกันบ่อยนัก เบญจมินทร์ก็เอ่ยปากว่าเขาต้องการไปส่งลูกที่โรงเรียน เธอเองก็จำต้องขึ้นรถไปกับเขาด้วย ส่งสองสาวที่โรงเรียนแล้วค่อยกลับขึ้นรถอีกครั้ง ก่อนจะเปิดโทรศัพท์ขึ้นในเวลาต่อมา ถึงได้พบว่าสายที่เพียรโทรเข้ามาตั้งแต่เมื่อคืนยังคงพยายามโทรเข้ามาใหม่ในตอนเช้า จึงกดรับสายพร้อมถอนลมหายใจออกมายาว ๆ ถามทางนั้นกลับไป
“มีอะไรหรือลูกพีช”
“คุณแม่บ่นทั้งคืนเลยค่ะว่าทำไมพี่เบญไม่กลับบ้าน เมื่อคืนไปที่ไหนมาคะ ทำไมถึงต้องปิด...”
หญิงสาวที่ปลายสายยังถามไม่ทันจบประโยคเลยด้วยซ้ำ เบญจมินทร์ก็ส่งเสียงถามแทรกไปว่า “ลูกพีชมีอะไรหรือเปล่า พูดธุระมาได้เลย”
“ลูกพีชเวียนหัวอีกแล้วค่ะ คุณแม่มาเฝ้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้วก็เลยให้คนเอาโทรศัพท์ของลูกพีชโทรไปหาพี่เบญค่ะ ลูกพีชแก้ตัว เอ่อ หมายถึงช่วยพูดกับคุณแม่เรื่องพี่เบญด้วยนะคะ บอกว่าที่พี่เบญไม่ได้กลับมานอนที่บ้านเพราะว่าติดงานค่ะ”
“คราวหลังไม่ต้องพูดแทนพี่ก็ได้นะ ธุระของพี่ พี่จัดการเอง” เบญจมินทร์บอกเสียงเรียบเชิงตำหนิแล้วกดวางสายไป
หกปีมานี้เขาเคยใช้ชีวิตเช่นไรกับพิชญ์สิณี มาวันนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว
พิชญ์สิณีลดโทรศัพท์ลงเมื่อเบญจมินทร์ตัดสายสนทนาจากตนไป ตลอดเวลาที่จดทะเบียนสมรสกับเขา เธอมีความสุขทุกวัน ดีใจ ภูมิใจแม้ว่าเขาจะเคยแต่งงานกับใครมาก่อนก็ตามที แต่เขาก็หย่าขาดจากทางนั้นมาแล้ว ก็เท่ากับว่าเขาอิสระ
ตลอดเวลาหกปีมานี้เธอกับเขาไม่เคยมีลูกด้วยกันเลย แต่แล้วตอนนี้เธอก็ได้ตั้งครรภ์ลูกของเขาสมความตั้งใจแล้ว
หญิงสาวยิ้มด้วยความสุขที่เอ่อท่วมท้นอยู่เต็มทั้งอกทั้งหัวใจ ยิ่งนึกถึงเบญจมินทร์ก็ยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้นจนหุบไม่ลง
เขาเป็นผู้ชายที่ตนแอบรักมาตั้งแต่เด็ก ๆ ความรักของพิชญ์สิณีมั่นคงเหลือเกิน เธอรักเขาคนเดียว ไม่เคยแลเหลียวใคร ไม่เคยคบหาใคร ไม่เคยต้องการให้ใครเข้ามาในหัวใจเลย นอกจากเบญจมินทร์คนเดียวเท่านั้น ตนรอคอยเพียงชายหนุ่มที่ชื่อเบญจมินทร์