“เข้าไปนอนในห้องตัวเอง ผีไม่มีแล้ว” แผนยังคงยืนยันคำเดิมคือให้กานดากลับไปนอนให้ห้องพักของเธอ แต่ว่าคนตรงหน้าก็ยังไม่ยอมขยับเท้าแม้แต่ก้าวเดียว
“พี่รู้ได้ยังไงว่าไม่มี ถ้าเกิดว่าผีมันแอบอยู่ข้างในล่ะ ใครจะช่วยหนู” กานดาบอกเหตุผลอย่างไม่ยอม ยังไงคืนนี้ก็จะนอนกับเขาให้ได้
ส่วนแผนก็ได้แต่ถอนหายใจยาว ๆ มันจะมีผีในห้องได้ยังไง ก็ตอนที่มาถึงเขาลงคาถากันผีไว้แล้วทั้งสามห้อง แต่ถ้าเกิดนอนด้วยกัน แล้วมีผีจับหัวน่ะไม่แน่
“เป็นผู้หญิงจะมาขอนอนกับผู้ชายได้ยังไง” แผนยังคงพยายามหาเหตุผลมาอ้าง จะให้บอกว่าตัวเองมีคาถาอาคม ดูแล้วเธอคงไม่เชื่อ
“แต่พี่เป็นลุงรหัสหนูนะ ต้องดูแลหนูสิ” กานดายังคงเถียงต่ออย่างไม่ยอมแพ้ ใครมันจะนอนคนเดียวเสี่ยงโดนผีหลอกเป็นรอบที่สอง จ้างให้ก็ไม่ทำเรื่องคิดสั้นแบบนั้นเด็ดขาด
“พี่จะเอายังไงกับเราดีเนี่ย”
“เอาหนูไปนอนด้วย ดีที่สุด”
สุดท้าย กานดาก็ได้เข้ามาอยู่ในห้องพักของแผนตามที่เธอต้องการ ยัยตัวเล็กเดินสำรวจวนดูรอบ ๆ ห้อง ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงราวกับตัวเองเป็นเจ้าของห้องนี้
“เอ้า พี่แผนจะรออะไรมานอนเร็ว” ไม่เพียงแค่พูด แต่ฝ่ามือของเธอยังตบลงบนเตียงเรียกให้เขาไปนอนข้างกัน
“รู้หรือเปล่าว่าทำแบบนี้มันไม่ปลอดภัยกับตัวเอง” แผนถามออกไป แต่ก็ไม่ได้ขึ้นไปนอนบนเตียงตามคำชวน
“เรื่องอะไร ที่หนูชวนพี่นอนด้วยเนี่ยเหรอ หรือว่า พี่คิดจะปล้ำหนู” ดวงตากลมโตมองเขาทีเล่นทีจริง ไม่ต้องปล้ำหรอก จะสมยอมแต่โดยดีเลยล่ะ ไหน ๆ ก็ตรงสเปคขนาดนี้ ไม่คิดจะเล่นตัวให้เสียเวลาอยู่แล้ว
“เลิกเล่นได้แล้ว จะนอนก็นอนไป” ในเมื่อไม่มีทางเลือก ผู้ชายตัวโตก็ต้องยอมเอนกายลงนอนข้างเธอ จะนอนโซฟาก็ทำไม่ได้ เพราะในห้องนี้มีเพียงเก้าอี้สองตัวกับโต๊ะตัวเล็กเท่านั้น
“หนูนอนล่ะนะลุง ฝันดีค่า” บอกฝันดีเสร็จ ริมฝีปากสีชมพูที่พูดเจื้อยแจ้วอยู่เมื่อกี้ก็ปิดลงจนสนิท ดวงตาคู่สวยหลับพริ้ม ขนตางอนยาวเรียงเป็นแพร ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารัก
“ถ้านอนดิ้นจะจับไปส่งห้องเดิม”
“แล้วถ้าหนูดิ้นไปกอดพี่ล่ะ” กานดาพูดเพียงแค่นั้นแล้วก็หยุด พอหันไปดู ก็เห็นมุมปากเล็ก ๆ นั้นหยักโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่น่ามันเขี้ยว
“หยุดพูดแล้วก็นอน” แผนรีบตัดบท ไม่อยากจะสนทนาไปมากกว่านี้ ลำพังแค่คำพูดของกานดาไม่กี่ประโยคยังทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาอยู่ข้างนอก ยิ่งได้นอนใกล้ ๆ กัน ได้กลิ่นหอมจากตัวเธอ ทำเอาตบะแทบจะแตกอยู่รอมร่อ
พุทรโธ ธัมโม สังโฆ ยุบหนอ พองหนอ
เขาพยายามทำจิตใจให้สงบ นอนสวดมนต์อยู่ในใจพักใหญ่ จนอาการประหม่าเริ่มดีขึ้น แต่กรรมเวร ยัยตัวเล็กดันนอนดิ้นหันมาทางเขา ทั้งแขนทั้งขาของเธอพาดมาบนลำตัว แถมใบหน้าสวย ๆ ก็กำลังแนบซบกับแขนของเขาอีกด้วย
‘ทนไม่ไหวแล้วโว้ย’ แผนตะโกนในใจ ก่อนที่จะดีดตัวลุกขึ้นนั่งบนที่นอนแล้วหันไปมองดูคนที่กำลังหลับสนิท ให้ตายเหอะ ใครมันจะไปอดทนได้ไหว น่าตาน่ารักขนาดนี้ หุ่นน่าฟัดขนาดนี้ ต่อให้ถือศีลมาทั้งชีวิตมันก็ต้องมีตบะแตกกันมั่งแหละวะ
แผนก้าวลงจากเตียงนอน ทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น สองขาขัดสมาธิ สองมือวางซ้อนกันบนตัก เปลือกตาปิดลงจนสนิท แล้วเริ่มสวดมนต์
ทั้งบทสวดและคาถาทุกบทที่เคยร่ำเรียนมา แผนงัดออกมาท่องจนหมดสิ้นจิตใจถึงได้สงบลงบ้าง พอลืมตาขึ้นแล้วหันไปเห็นกานดาที่ยังหลับสนิทอยู่บนเตียง ก็ทำได้เพียงพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ จะให้ไปนอนข้างกันอีก ไม่แคล้วคงได้ลุกขึ้นมานั่งสวดมนต์อีกแน่
หมอนกับผ้าห่มที่ขอทางรีสอร์ทมาเพิ่ม ถูกวางลงบนพื้นห้อง ก่อนที่เขาจะเอนตัวลงนอน เพื่อความปลอดภัยของสภาพจิตใจ นอนบนพื้นนี่แหละดีที่สุด
/////
เช้าวันต่อมา
ติ๊ง!! ติ๊ง!!
เสียงโทรศัพท์ที่ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ดังขึ้น กานดาใช้สองมือควานหาโทรศัพท์มือถือของตนเองที่วางเอาไว้ข้างตัวเมื่อคืน เจอแล้วก็ค่อย ๆ เปิดเปลือกตา เวลาหกโมงเช้าตรงเป๊ะตามที่ตั้งเอาไว้ แต่ว่า พอมองไปยังอีกด้านของที่นอน กลับไม่เห็นลุงรหัสนอนอยู่
หรือว่าจะรีบไปเตรียมกิจกรรมแต่เช้า
สองเท้าวางลงบนพื้น ลุกขึ้นยืนพร้อมกับบิดขี้เกียจ เสร็จแล้วก็ก้าวเท้าจะเดินกลับห้องพักของตัวเอง ฟ้าเริ่มสว่างผีตัวเมื่อคืนคงไม่มาหลอกแล้ว
“พี่แผน” กานดาเอ่ยเรียกชื่อคนที่นอนอยู่บนพื้นข้างเตียงด้วยเสียงงุนงง ทีแรกคิดว่าออกไปเตรียมกิจกรรมแล้ว แต่ทำไมเขาถึงมานอนอยู่ตรงนี้ได้
“ลุง” เธอนั่งลงยอง ๆ ข้างเขา พร้อมกับใช้นิ้วเล็กจิ้มลงบนแก้มของคนที่นอนหลับอยู่ แต่แผนก็ไม่มีทีท่าจะตื่น
“ลุง ตื่น เช้าแล้วเนี่ย”
เรียกเป็นครั้งที่สองแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมตื่น เด็กดื้อเลยนึกอะไร ๆ สนุกขึ้นมาได้ ใบหน้าสวยค่อย ๆ โน้มลงไปใกล้ใบหูของเขา ก่อนที่จะเป่าลมเบา ๆ ใส่คนที่หลับอยู่
ฟู่ว...
ได้ผล เมื่อแผนยกมือขึ้นมาปัดราวกับว่ามีแมลงบินอยู่ใกล้ ๆ เห็นแบบนั้นกานดาก็ยิ่งได้ใจ เป่าลมใส่เขาอีกหลยครั้ง
“ตัวอะไรวะเนี่ย!”
“ว้าย!”
ด้วยความที่ไม่ได้ระวังตัว พอแผนดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ทำให้กานดาตกใจเสียหลักล้มก้นกระแทกพื้น
“อะไรของพี่เนี่ย จะลุกทำไมไม่บอก ก้นทิ่มเลย มันเจ็บนะรู้มั้ย” เสียงเล็กบ่นอุบอิบเป็นชุด ทำเหมือนลืมไปว่าตัวเองเป็นคนแกล้งเขาจนตกใจตื่น
“แล้วใครใช้ให้มาแกล้ง สมน้ำหน้ามั้ยล่ะ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าให้เสียงฟู่ว ๆ หลายครั้งที่ดังอยู่ข้างหูต้องเป็นฝีมือของยัยตัวแสบแน่ ๆ พอเห็นทำหน้ายู่พร้อมกับเอามือลูบก้นไปมามันก็ดูตลกดี
“ก็หนูเรียกพี่หลายรอบแล้ว แต่ไม่ตื่นก็เลยหาวิธีปลุกไง โธ่ ทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ” กานดาลุกขึ้นยืด เอามือกอดอกมองค้อนคนที่อยู่ตรงหน้า
“นี่ต้องขอบใจ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“ก็ได้ ๆ ขอบใจก็ได้ที่ปลุก”
พอเขายอมทำตามที่เธอต้องการ ก็ทำเอาหน้ายับยู่ยี่เมื่อกี้ถูกแทนด้วยรอยยิ้มกว้างจนตาโต ๆ แทบจะปิดสนิท
“หนูกลับห้องไปอาบน้ำก่อนนะ”
“ไม่กลัวผีแล้ว..”
“ไม่กลัว สว่างแล้ว ไม่มีผี”
พูดจบกานดาก็เดินตัวปลิวออกไปจากห้อง แผนได้แต่หัวเราะเล็ก ๆ ตามหลัง เธอช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ใครว่าตอนกลางวันไม่มีผี นั่น ตอนที่เธอเปิดประตูจะออกจากห้องก็มีอยู่ตัวหนึ่งยืนอยู่ข้างนอก เพียงแต่ผีพวกนี้ไม่ได้มีพลังมากพอที่จะปรากฎตัวหลอกคนได้ก็แค่นั้นเอง
ยัยตัวแสบกลับไปห้องตัวเองแล้ว แผนก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะได้ไปทำกิจกรรมรับน้องต่อ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ ชายหนุ่มรูปร่างสูง หุ่นกำยำ สวมเสื้อยืดสีดำคู่กับกางเกงยีนส์ มองตรงไหนก็หล่อดูดีทุกส่วน
พอเปิดประตูออกมา ก็เห็นว่ากานดากำลังเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ แล้ว แต่ว่า ไอ้ภากรดันเดินเข้ามาหาเธอ ไม่รู้คุยอะไรกัน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ว่าไปแล้วก็ดูขัดหู ขัดตา ขัดใจชะมัด บอกแล้วแท้ ๆ ว่าห้ามยุ่งกับมันแต่ก็ไม่ยอมฟัง
แผนเดินมานั่งข้างสงครามกับบอยที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว แต่สายตาก็ยังจ้องมองไปยังหลานรหัสของตัวเอง ที่กำลังคุยกับภากรอย่างสนุกสนาน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทำเหมือนคนกำลังจีบกันอย่างไรอย่างนั้น
“กูยังไม่ได้เลย แล้วมันเป็นใครวะ” จู่ ๆ แผนก็พูดขึ้น ทำเอาเพื่อนซี้กับน้องรหัสหันไปมองตามสายตาของเขา
“เออ แล้วมึงเป็นใคร” ครามเอ่ยถามพร้อมกับหันมามองหน้าเพื่อนตัวเอง
“กูก็เป็นลุงรหัสไง”
“แค่ลุงรหัส แต่มึงไม่ได้เป็นผัวน้อง ไม่ต้องไปหึง”
คำพูดของเพื่อนทำให้แผนหันมามองหน้าคราม หึงเหรอ นี่เขากำลังหึงยัยเด็กดื้อนั่นเนี่ยนะ แค่รู้สึกไม่ชอบใจต่างหาก ไม่ได้หึงสักหน่อย
///////////////////////////////////////////////////////