3

1310 คำ
“ผมดูถูกแน่นอนครับ ไม่ได้ดูผิดเหมือนพ่อหรอก” “หุบปากเดี๋ยวนี้นะ” “ถ้าพ่อไม่ไสหัวผู้หญิงคนนี้กับลูกของมันไป ผมไปเอง” “เขาเป็นผู้หญิงที่พ่อรัก” “นี่พ่อกล้าพูดแบบนี้เชียวหรือ พ่อต้องรักแม่สิ จะไปรักผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง” “แม่ของแกพ่อก็รัก แต่แม่ของแกก็ตายไปนานแล้ว พ่อแค่อยากมีคนดูแล มีเพื่อนคู่คิด เพราะต่อไปแกก็ต้องแต่งงานมีครอบครัว” “แต่ไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ไง คนไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่คนนี้ไง” “คนไหนก็ได้งั้นเหรอ คนไหนแกก็ไม่เอา” “ก็คนที่พ่อหามาแต่ละคนมันดี ๆ ทั้งนั้นนี่นา ตาต่ำ โอ๊ย!” คันสรโมโหจัด ตบปากลูกชายไปหนึ่งที “นี่พ่อกล้าตบผมอย่างนั้นเหรอ พ่อกล้าตบผม” คชาโมโหและเสียใจ เขาเช็ดเลือดที่มุมปาก “คือว่าพ่อ” “พ่อไม่ไล่มันไปใช่ไหม งั้นผมไปเอง” “หยุดเดี๋ยวนี้นะ” คันสรอยากง้อลูกชายแต่ทิฐิก็ทำให้เขาแค่เรียกเอาไว้ แต่ไม่ยอมเอ่ยปากขอโทษที่ทำรุนแรง คชาชะงัก ก่อนที่จะเดินไปยังรถสปอร์ตคันหรูของตัวเอง แล้วขับออกไปราวกับพายุ “เพราะเรศทำให้คุณทะเลาะกับลูกอย่างหนัก” ธัญญาเรศเอ่ยขึ้น “ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก เรากินข้าวกันดีกว่า” คันสรยกหางตัวเอง คิดว่าอย่างไรลูกชายก็ต้องกลับมาตายรัง เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ที่คชาผลาญอยู่คือเงินของเขา ธนามองตามไปด้วยสายตาที่สะใจเล็ก ๆ นี่เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น คชาชอบดูถูกเขา คราวนี้แหละเขาจะเขี่ยคุณชายของบ้านให้กระเด็น แล้วขึ้นมาเป็นคุณชายแทน คอยดูสิ คันสรกลืนข้าวแทบไม่ลง แต่ไม่อยากให้แขกที่เขาเชิญมาต้องอึดอัด จึงฝืนกินไปเรื่อย ๆ และตักอาหารให้ธัญญาเรศอย่างเอาใจ เขาเจอเธอด้วยความบังเอิญ ครั้งแรกเขาขับรถไปเฉี่ยวเธอ เลยต้องรับผิดชอบ ครั้งต่อไปเขาไปดูที่ดินแถบนั้นเพื่อจะสร้างโกดังเก็บสินค้า แต่โดนพวกจิ๊กโก๋ติดยาชิงทรัพย์ สองพ่อแม่ลูกช่วยเขาเอาไว้ ธัญญาเรศไม่กลัวตาย วิ่งตามไปกระชากกระเป๋ากลับมาจนโดนจ้วงแทง ในขณะที่ธนาเข้ามาช่วยเตะต่อยกับพวกมันจนได้รับบาดเจ็บ คนทั้งสองถือว่าเป็นผู้มีพระคุณ เขาจึงซาบซึ้งในบุญคุณ ไปมาหาสู่กับทั้งสองเรื่อยมา และคอยช่วยเหลือมาโดยตลอด แถมยังรู้ด้วยว่าธนานั้นเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับลูกชายของตน แถมยังเป็นเด็กเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ เขาจึงอยากช่วยเหลือส่งเสียให้เรียนต่อจนจบ ธัญญาเรศเองก็เป็นคนสุภาพเรียบร้อย และอ่อนหวาน ทำอาหารก็เก่ง เพราะเป็นแม่ค้าขายข้าวแกง เขาเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าตกหลุมรักเธอได้อย่างไรกัน ในวัยที่เขาเองก็ย่างเข้าห้าสิบปีเข้าไปแล้ว “พี่ไทน์” เสียงเรียกคุ้นเคยนั้นทำให้ธนาหันไปมองก่อนจะยิ้มให้เจ้าของเสียง “ปลายอยู่ที่นี่เหรอ” “ใช่ค่ะ แม่ของปลายทำงานอยู่ที่นี่ค่ะ แล้วพี่ไทน์มาทำอะไรที่นี่เหรอคะ” เธอออกไปทำรายงานกับเพื่อนเพิ่งกลับ จึงรู้จากมารดาว่าเจ้านายมีแขก “พี่มากินข้าวกับคุณคันสรครับ ท่านเชิญพี่มา” “เหรอจ๊ะ” “คือเรื่องมันยาว เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟัง” “อ้าว... เราสองคนรู้จักกันด้วยเหรอ” คันสรที่เดินออกมาพร้อมกับธัญญาเรศเอ่ยถามเด็กสาวในบ้านเมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ “พี่ไทน์เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนน่ะค่ะ” “ดี ๆ ต่อไปอยู่บ้านหลังเดียวกัน จะได้ช่วยเหลือกัน” “คุณท่านหมายความว่า” “ต่อไปไทน์กับแม่ของเขาจะมาอยู่ที่นี่ ยังไงฉันก็ฝากปลายดูแลพวกเขาด้วยนะ” “ค่ะคุณท่าน” เธอพูดอย่างดีใจ ที่ผู้ชายที่แอบชอบแอบปลื้มจะมาอยู่บ้านหลังเดียวกันกับเธอ “เดี๋ยวผมให้คนรถไปส่งที่บ้านนะ อาทิตย์หน้าถ้าไม่ติดปัญหาอะไร คุณกับลูกก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้เลย” “แต่ลูกชายของคุณ” “ลูกชายของผม ผมจะจัดการเอง คุณเดินทางกลับดีๆ นะ” คันสรเอ่ยบอกเสียงนุ่ม ทำให้ธัญญาเรศกับธนายกมือไหว้ก่อนจะขอตัวกลับ “เราล่ะกลับมืด ๆ ค่ำ ๆ ไปไหนมา ที่ฉันถามเพราะเป็นห่วงนะ” “หนูไปทำรายงานบ้านเพื่อนมาน่ะค่ะ ขออนุญาตแม่แล้วน่ะค่ะ” “วันหลังถ้ากลับมืด ๆ ค่ำ ๆ แบบนี้ก็ให้คนรถที่บ้านไปรับสิ เป็นผู้หญิงมันอันตราย” “ไม่เป็นไรค่ะคุณท่าน เพื่อนขับรถมาส่งค่ะ หนูไม่ได้กลับมาคนเดียว” “เอาเถอะๆ กลับมาเหนื่อย ๆ ก็ไปพักผ่อนเถอะ ขยันเรียนแบบนี้ก็ดี ปีหน้าก็จะขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วใช่ไหม” “ค่ะคุณท่าน งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ” “ไปเถอะ” คันสรเอ่ยจบก็เดินกลับเข้าบ้านไป ในขณะที่ปลายฝนเดินไปทางหลังบ้าน เพื่อไปยังห้องพักของเธอ “หิวจังเลยจ้ะ” เธออาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ออกมาที่ห้องครัว เพราะหลายคนยังไม่นอน ยังนั่งดูทีวีกันอยู่ และกินอะไรกันอยู่ “กลับมาแล้วเหรอปลาย มา ๆ มากินผัดหมี่กัน แม่เอ็งเขาทำผัดหมี่กะทิ อร่อยเชียว” สารินเอ่ยชวน “ของโปรดปลายเลยจ้ะ” “ดีจริง กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนนะเอ็ง ไม่เหมือนพี่ แค่หายใจก็อ้วนแล้ว” ประโยคของสารินทำเอาทุกคนในครัวหัวเราะประสานเสียงกัน คันสรเลี้ยงคนรับใช้ในบ้านอย่างสุขสบาย ทุกคนจึงทำงานถวายหัว ทั้งคนขับรถ คนสวน แม่บ้าน ต่างมีสวัสดิการให้ ลูกหลานก็ส่งให้เรียน เรียกว่าเป็นคนดีมากทีเดียว “ปลายใช้พลังงานเยอะเลยไม่อ้วนจ้ะ” “พี่ก็ใช้พลังงานเยอะนะ ทำงานบ้านทั้งวัน ยังอ้วนเลย” “แต่อ้วนพี่ก็รักนะ” เสริมเอ่ยบอกภรรยาทำเอาสารินยิ้มเขิน เสริมเป็นคนสวนของบ้าน เป็นสามีของสาริน แต่ทั้งสองนั้นไม่มีลูกด้วยกัน เพราะเสริมเป็นหมัน แต่ทั้งสองก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไม่เคยทะเลาะกันเลย “พี่เสริมนี่ก็โรแมนติกเหมือนกันนะคะ” ปลายฝนตักหมี่กะทิเข้าปากก่อนจะเอ่ยชมว่าอร่อย “อืม... อร่อยจังเลยจ้ะ ฝีมือแม่นี่สุดยอดไปเลย” “เสียดายเอ็งกลับมาไม่ทัน” สารินเอ่ยขึ้น “มีอะไรเหรอจ๊ะพี่สาริน” “ก็คุณท่านน่ะสิพาเมียใหม่เข้าบ้าน ทะเลาะกับคุณคิงยกใหญ่เลย” “จริงเหรอจ๊ะ” “จริงสิ โกรธหัวฟัดหัวเหวียง ทะเลาะกันเสียงดัง ขับรถออกไปจากบ้านยังไม่กลับมาเลย” “น้าเรศเป็นเมียใหม่ของคุณท่านเหรอจ๊ะ” “ปลายรู้จักด้วยเหรอ” “ก็รู้จักจ้ะ เป็นแม่ของพี่ไทน์ พี่เขาเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนน่ะจ้ะ แถมยังเป็นเพื่อนร่วมห้องของคุณคิงอีกด้วย สองคนนี่เขาไม่ถูกกันจ้ะ ไม่ลงรอยกัน ไม่กินเส้นกันมานานแล้วเพราะชอบแข่งกันในทุกๆ เรื่องน่ะจ้ะ” “ว่าแล้วเชียวทำไมคุณคิงถึงได้โมโหซะขนาดนั้น” “พี่ไทน์น่าจะอยู่ยากนะจ๊ะ คุณคิงคงไม่ยอม พี่ไทน์เป็นคนดีมาก ๆ เป็นสุภาพบุรุษ รูปหล่อ น่ารัก มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่น” คนพูดเอ่ยชมพร้อมรอยยิ้ม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม