"ต้องยกประโยชน์ให้เจ้านายน่ะครับ" สรโบ้ยความดีความชอบให้ผู้เป็นนายแม้ว่าเขาเองจะมีส่วนร่วมในการวางแผนด้วยก็ตาม
"จะใครก็ช่างเถอะ ตอนนี้มาทำความเข้าใจแผนเสียก่อนดีกว่า........." แดนชลอธิบายขั้นตอน แผนการอย่างลื่นไหลจนทุกคนเข้าใจและพร้อมปฏิบัติตามด้วยความยินดี
ทางด้านต้นข้าวผู้ร่วมก่อการดีทีมหลังบ้านเขารู้สึกกระวนกระวายไม่เป็นอันทำอะไรเพราะเป็นห่วงคนของใจที่เป็นทีมหน้าบ้าน
"น้องแสงครับพี่จะออกไปธุระข้างนอกสักหน่อยน่ะ อยู่คนเดียวได้ใช่มั๊ย?"
ด้านแสงดาวที่เพิ่งจะอบคุ๊กกี้สูตรใหม่เสร็จ กะจะถือมาให้คนพี่ชิม แต่...
"ได้ค่ะ มีแม่บ้านอยู่เป็นเพื่อนอยู่ค่ะ อีกอย่างเดี๋ยวพ่อคงเข้ามาค่ะ" แสงดาวบอกตามตรง
"อ่อ งั้นเดี๋ยวพี่มา ไม่ต้องรอกินข้าวนะ" ว่าแล้วต้นข้าวรีบผลุนผลันออกไป
ส่วนแสงดาวได้แต่งง ๆ ในมือยังถือจานคุ๊กกี้อยู่เลย
"ไปไหนของเค้าเนี่ย..เฮ๊อ..แล้วใครจะช่วยชิมให้ล่ะคุ๊กกี้เนี่ย...เฮ๊อ...ไปดูบัญชีดีกว่าจะได้จบภารกิจเร็ว ๆ ร้านกาแฟรออยู่ อิ๊อิ๊" ว่าแล้วคนห่วงกิจการก็เดินเข้าห้องปฏิบัติการไปโดยไม่ทันสังเกตุเลยว่าใครอีกคนหนึ่งยืนอยู่ข้างประตูเงียบ ๆ
"หึหึ ยัยงกเอ๊ย หนอยทำคุ๊กกี้แทนที่จะเอามาให้เราชิม ดั๊นจะเอาไปให้นายต้นข้าวชิมซ๊ะนี่ เดี๋ยวเถอะจะโดนมิใช่น้อย ว่าแล้วก็เดินตามคนตัวเล็กไปในห้องปฏิบัติการทันที
@ห้องปฏิบัติการก่อการดี
ก๊อก ก๊อก ก๊อก แดนชลเคาะประตูซึ่งไม้ได้ล็อค เพราะเป็นห้องที่ทุกคนในทีมสามารถเข้าออกได้ตลอดเวลา
แสงดาวเงยหน้าขึ้นจากเอกสารมองมาที่ประตูเห็นผู้มาใหม่จึงยกยิ้มมุมปากพอเป็นมารยาท
"คุ๊กกี้ค่ะ เพิ่งอบเสร็จใหม่ ลองชิมมั๊ยคะ?"
"....." ไม่มีเสียงตอบจากผู้ถูกชวนชิม *ในวงเล็บคิดในใจ* เขาเดินมาหยิบคุ๊กกี้เข้าปากหนึ่งชิ้นแต่ต้องหยิบชิ้นที่สองและสามตามมา
"เป็นไงบ้างคะ คุ๊กกี้?"
"อื้อ..ใช้ได้" 《ที่จริงอร่อยเลยแหละ แต่ไม่พูดหรอก เดี๋ยวจะทำขายอีก แล้วจะเอาเวลาไหนมาคุยกับเราหล่ะ》
อีกด้านของผู้มาใหม่
"ทำขนมหรือลูก ไหนของพ่อล่ะ?" เป็นสรที่เดินมาสมทบ
"ต้องมีซิคะ เดี๋ยวแสงไปเอามาให้ แบ่งใส่กล่องไว้แล้ว รอแป๊บ" ว่าจบคนรักพ่อก็รีบเดินจ้ำอ้าวไปที่โซนครัวอย่างไว หลังจากแน่ใจว่าคนตัวเล็กเดินไปไกลแล้วสรจึงเอ่ยปาก
"คุณต้นข้าวไปหาคุณหนูนุชธิดาที่บริษัทแล้วพากันกลับบ้านไปหานายใหญ่และนายหญิงเพื่อขอคบอย่างเป็นทางการแล้วครับ"
สรรายงาน
"บร๊ะ นายคนนี้นิ่บทมันจะร้อนมันก็ร้อนเว๊ย อย่าบอกนะว่ามีคนหนุนหลัง?"
"ครับ คุณแดนไตรโทรไปกำกับนายใหญ่ก่อนนี้ครับ"
"คิดไว้ไม่มีผิดต้องเป็นไอ้ตัวดี หึหึ"
......................
แดนชลคิด
แผนการก็ใกล้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีสำหรับเรื่องการบัญชีการเงิน ยังคงเหลือเฉพาะเรื่องการแสดงหลักฐานเพื่อให้คนทุจริตยอมจำนนก็เป็นส่วนของพ่อบ้านใจกล้าไป ส่วนยัยนุชธิดาน่ะหรือเป็นไข่ในหินมีทั้งพ่อ-แม่-แฟนและเหล่าบอดี้การ์ดรายล้อม เฮ๊อเข้าไม่ถึง
ถ้าภารกิจตรวจบัญชีสำเร็จคนตรวจบัญชีก็กลับละซิ เอาไงดี
.......................
"อาสรครับ ผมรักน้องแสงครับ อาสรจะว่าอะไรมั๊ยถ้าผมจะขอรักน้องยกย่องให้เป็นภรรยาแม่ของลูกน่ะครับ" แดนชลอธิบายยืดยาว
"........" สรเงียบ
ด้านแดนชลเห็นผู้เป็นบิดาของสาวเจ้าเงียบยิ่งใจไม่ดี ทำตัวไม่ถูกไปใหญ่
"อาสรครับ คือผมพูดจริงนะครับ ผมรักน้องตั้งแต่แรกเจอแล้วครับ แต่ตอนนั้นผมยังไม่แน่ใจเพราะน้องยังเล็ก พอเจอน้องผมรู้สึกเอ็นดู รู้สึกรักแบบน้องสาว แต่พอน้องโตขึ้นความรักผมก็เปลี่ยนไปผมรู้ตัวเองทันทีว่าผมไม่ได้รักน้องแบบน้องสาวอีกต่อไป ยิ่งได้มาอยู่ด้วยกันยิ่งมั่นใจครับ" แดนชลอธิบายยืดยาวที่สุดที่เคยพูดมา
"หึหึ..รักเค้าก็ไปบอกเค้าเองซิครับ มาบอกผมทำไม ผมช่วยอะไรคุณแดนไม่ได้หรอกครับ" สรทิ้งทวน ใครจะกล้าบังคับขัดใจแม่ลูกสาวกันล่ะ นางยิ่งดุอยู่ ถอดแบบแม่มันมาออกอย่างนั้น เห็นสวย ๆ หวาน ๆ เย็น ๆ อย่างงั้นเถอะ ผู้เป็นพ่อได้แต่คิดในใจ
"แล้วถ้าผมขอเข้าใกล้น้องบ้างอาสรจะอนุญาตมั๊ยครับ?" มันยังถามพ่อเค้าอีก ดูมัน
"ถ้าทำได้ก็เอาเลยครับ" สรพูดอย่างคนรู้ใจลูกสาว
"โห...อาพูดแบบนี้ผมยิ่งใจไม่ดีครับ ได้ข่าวว่ายิงปืนแม่นเสียด้วย แล้ว....(ก้มมองดูลูกรัก) ผมจะเหลือมั๊ยเนี่ยกว่าจะได้เมีย" แดนชลบ่นกระปอดกระแปด
"หึหึ ใจน่ะครับ ใจเท่านั้น กล้า ๆ หน่อยซิครับ" สรพูดปลอบใจว่าที่ลูกเขยแต่เขาเองก็ไม่กล้าออกหน้าเหมือนกันกลัวลูกสาวตัวดีจะโกรธเอา ใครจะกล้าล่ะ