“ทีนี้ก็ว่าเรื่องที่คุณมาหาท่านได้เลยครับ อย่างที่บอกไว้ ว่าอีกหน่อยผมต้องเข้าประชุมครับ กรุณากระชับนิดหนึ่งนะครับ”
“คือฉันอยากจะขอความช่วยเหลือเรื่องเงินค่ะ”
“เท่าไหร่ครับ?”
นั่นไง มันผิดซะที่ไหน จะมีผู้หญิงสาวสวยบาดตาบาดใจคนไหน เดินมาหาพ่อของเขาด้วยเหตุผลอื่น นอกจากเงิน ถึงแม้จะรู้อยู่แล้ว แต่เขาก็แอบผิดหวังนิดๆ อยู่ดี สวยๆ แบบนี้น่าจะหาแฟนดีๆ หนุ่มๆ หล่อๆ รวยๆ ได้ไม่ยาก ไม่เห็นต้องให้ถึงมือพ่อเขาเลย
“คือฉันไม่รู้ว่าจะต้องใช้เท่าไหร่ค่ะ เลยบอกไม่ได้ค่ะ”
“อ้าว...แล้วผมจะช่วยยังไงล่ะครับ? ถ้าคุณยังสรุปไม่ได้”
“คือว่าตอนนี้แม่ถูกรถชนอยู่ในไอซียูโรงพยาบาลเอกชนค่ะ กู้ภัยพาแม่ไปส่ง โดยไม่ได้ถามญาติก่อน ฉันกับพี่จะย้ายแม่ไปโรงพยาบาลรัฐ แต่หมอบอกว่าแม่ยังไม่ปลอดภัยย้ายไม่ได้ หรือถ้าย้ายได้ก็ต้องเอาเงินค่ารักษาไปจ่ายก่อนค่ะ”
รดาวดียิ่งคิดก็ยิ่งขัดเคือง ตอนที่พี่ชายเล่าให้ฟังว่าทีมกู้ภัย มาถึงที่เกิดเหตุได้ไม่นาน ก็ดันพาแม่ไปโรงพยาบาล ที่ค่ารักษาขึ้นชื่อว่าแพงแบบขูดเลือดขูดเนื้อ แทนที่จะพาไปโรงพยาบาลรัฐ
พี่ชายขับมอเตอร์ไซคล์ตามหลังมา ก็ไม่รู้จัดขัดยังไง อีกทั้งก็มัวแต่ห่วงอาการของแม่ วินาทีนั้นเลยคิดว่าที่ไหนก็ได้ ขอแค่รักษาชีวิตแม่ไว้ก็เป็นพอ
เธอเองถ้าไม่ติดเรียนอยู่ ก็คงจะคิดเหมือนพี่และยอมให้กู้ภัยทำแบบนั้นอยู่ดี เพราะแม่คือทุกสิ่งทุกอย่างของเธอกับพี่ ส่วนพ่อนั้นเธอไม่มีความทรงจำอยู่เลย เพราะแม่บอกว่าพ่อทิ้งไปตั้งแต่เธอยังอยู่ในท้องแม่ ส่วนพี่ชายอายุได้สามขวบกว่าๆ เรียกได้ว่าพี่ก็ไม่มีพ่ออยู่ในความทรงจำพอๆ กับเธอ
“ต้องจ่ายโรงพยาบาลเท่าไหร่ครับ?”
“เมื่อกี้เช็กจากฝ่ายบัญชี ก็เก้าแสนกว่าค่ะ และหมอจะต้องฝ่าตัดแม่รอบสองในเร็วๆ นี้ หลังจากฉันจ่ายยอดที่ค้างไว้ค่ะ ก็ไม่รู้ว่าจะอีกเท่าไหร่ หมอประมาณให้ว่าอาจจะต้องจ่ายอีกห้าแสนค่ะ”
ในระหว่างเดินทาง รดาวดีก็ไลน์ไปหาฝ่ายการเงินที่โรงพยาบาลมาแล้ว เห็นตัวเลขก็แทบจะหายใจไม่ออก เรียกว่าเกิดมาจนโตป่านนี้ เธอกับครอบครัวก็ยังไม่มีเงินเก็บกองไว้ในธนาคารจำนวนมากๆ อย่างนี้เลยด้วยซ้ำ
“ล้านสี่แค่นั้นใช่หรือเปล่าครับ?”
เขาสรุปให้แบบไม่ต้องคิด
“ไม่ใช่ค่ะ คือตอนนี้พี่ชายฉันถูกตำรวจจับอยู่ในคุก ต้องใช้เงินสู้คดีและประกันตัวค่ะ”
พูดมาถึงจุดนี้ รดาวดีก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เพราะสงสารพี่แล้วก็สงสารแม่ ไม่รู้อะไรนักหนา ทำไมชีวิตมีแต่เรื่องร้ายๆ
“เกิดอะไรขึ้นครับ?”
ต่อให้รู้แล้ว แต่เขาก็ยังอยากได้ยินจากปากของสาวตรงหน้าอยู่ดี และอยากเห็นท่าทางว่าจะเป็นยังไง
“พอเรารู้ว่าไม่มีเงินไปจ่ายค่ารักษาแม่แล้ว พี่ชายฉันก็อยากจะหาเงินค่ะ เลยไปรับส่งยา แบบไม่บอกใคร แล้วก็ถูกจับค่ะ”
รดาวดียกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลรินลงมาเป็นสาย เพราะภาพที่พี่เกาะซี่กรงขังยังติดตาอยู่ และป่านนี้พี่ก็คงจะรอคอยความหวังจากน้องคนนี้ทุกนาทีแล้ว และคงอยากจะคุยอยากจะถามใจจะขาดว่าได้เรื่องยังไงบ้าง แต่ติดต่อกันไม่ได้เท่านั้น เมียพี่ชายก็คงจะร้อนใจจนไม่เป็นอันทำอะไรด้วย แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะไม่มีเงินเก็บมากมาย ถึงมีก็คงไม่พอค่าทนายด้วยซ้ำ ก็คนหาเช้ากินค่ำ ลูกก็สองอีก
“ต้องใช้เงินเท่าไหร่ครับ สำหรับเรื่องของพี่คุณ?”
“ยังไม่รู้ค่ะ ตำรวจเจ้าของคดีบอกว่าอาจจะต้องใช้เป็นล้านค่ะ”
“รวมออกมา ตีเป็นตัวเลยกลมๆ คือสองล้านห้าใช่หรือเปล่าครับ หรือว่ามีอะไรที่ต้องใช้จ่ายอีกครับ?”
“ฉันค้างค่าเทอมสุดท้ายอยู่ค่ะ ถ้าไม่จ่ายก็จะไม่มีสิทธิ์เข้าสอบ ค่าบ้านก็ยังไม่มีผ่อน เพราะเอาไปจ่ายค่ารักษาแม่กับค่าใช้จ่ายในบ้านอื่นๆ อีกค่ะ ไหนจะต้องเอาไว้ใช้จ่ายต่อไป จนกว่าฉันจะสอบเสร็จและจนกว่าแม่จะหายอีก แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าแม่จะ...”
รดาวดียกมือขึ้นปิดหน้าแล้วร้องไห้อย่างหนัก เมื่อในหัวมีภาพของแม่นอนในห้องไอซียู มีสายอะไรต่อมิอะไรเต็มตัวแม่ไปหมด และไม่อยากคิดเลยว่าถ้าแม่ไม่ฟื้นขึ้นมาหา เธอจะทำยังไง พี่ก็ไม่รู้ว่าจะติดคุกไปอีกกี่ปี ถ้าสู้คดีก็ไม่รู้ว่าจะแพ้หรือชนะ และจะต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ เมียพี่กับลูกๆ จะอยู่ยังไง เธอจะช่วยอะไรได้บ้าง มันหนักเกินกว่าที่เธอจะรับไหวแล้วตอนนี้
“เฮ้อ”
เห็นอาการของอีกฝ่ายร้องไห้หนักขนาดนี้ วรวัชรก็สงสารขึ้นมาจับใจ จนเผลอลุกขึ้นไปส่งผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าให้ ก่อนจะทรุดกายลงนั่งข้างๆ คนเอาแต่ร้องไห้
“ทำใจดีๆ ไว้ครับ อย่าเพิ่งวิตกไปก่อน”
หญิงสาวรู้สึกได้ ว่าตรงหัวไหล่มีมืออุ่นๆ ของเขาทาบลงไว้เบาๆ มองไปก็เห็นผ้าสีขาวในมือของเขายื่นมาให้ เลยรับมาซับน้ำตาแบบไม่คิดใดๆ เพราะวินาทีนี้เธอเหมือนลูกนกที่กำลังต้องการที่พึ่งพิง พอเห็นรวงรังที่จะพอจะให้ไออุ่นได้ ก็เผลอซบไปที่แผงอกกว้างแล้วร้องไห้ไม่หยุด
“ฉันกลัวค่ะ ปัญหามันใหญ่เกินที่ฉันจะรับไหวค่ะ”
วรวัชรถึงกับกายแข็งทื่อ เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใช้อกเขาเป็นที่ซับน้ำตา ทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันได้ไม่กี่ชั่วโมง นี่คงจะเป็นคุณสมบัติของเด็กสาวๆ สินะ ที่เข้าใจเรียกคะแนนสงสาร จากผู้ชายเงินหนาและหน้าโง่ ที่พอเห็นน้ำตาหน่อย ก็รีบควักให้ไม่ยั้ง
ว่าแต่เขาจะจัดอยู่ในพวกนั้นหรือเปล่านะ? เดี๋ยวก็คงได้รู้ ส่วนพ่อเขาน่ะรึ เรียกว่าอยู่อันดับหนึ่งเลยทีเดียว ไม่งั้นคงไม่มีคนแล้วคนเล่า มาให้แม่กลุ้มอกกลุ้มใจหรอก แล้วมันก็ลามมาถึงเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย