“ฉันขอถามนายหน่อย ว่านายจับฉันมาทำไม ถ้าไม่มีใครจ้างมา ไม่ได้จับมาเรียกค่าไถ่”
เธอถามอย่างคลางแคลงใจ เคยคาดคั้นถามเอากับหมอรุจน์ แต่เขากลับไม่ยอมปริปากบอกอะไร ให้เธอมาถามเอากับคนที่จับเธอมาเอาเอง เธอเคยได้ยินเขาเอ่ยถึงคุณารักษ์ แต่ฟังไม่ชัดว่าเขาหมายถึงอะไรกันแน่ คิดไปว่าครอบครัวของแฟนหนุ่มจ้างให้คนจับเธอมาทรมานเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นสาเหตุให้ทายาทของนพกิจเกรียงไกรต้องตาย
“อยากรู้จริงๆ หรือ หึหึ!” เขายังคร่อมทับ ไล้หลังมือไปตามแก้มนวล เพชรน้ำหนึ่งสะบัดหน้าหนี มองเขาตาเขียว แต่ เควินไม่แยแส
“อยากรู้สิ นายทำแบบนี้กับฉัน ทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้รู้เลยว่าเพราะอะไร ฉันต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเองบ้างสิ ว่าทำไมฉันถึงโดนจับมาข่มเหง ทั้งๆ ที่ฉันกับนายก็ไม่ได้รู้จักกัน” เธอพูดเสียงแข็งไม่ได้โอนอ่อนให้เขาเหมือนเคย
“หึหึ! อยากเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง แล้วน้องชายของฉันเคยได้เรียกร้องความยุติธรรมกับสังคมบ้างไหม”
“น้องชายนายเป็นใคร” หญิงสาวรีบเอ่ยถาม เธออยากให้เรื่องที่ค้างคาใจกระจ่างแจ้งว่าเขาจับเธอมาทำไมกันแน่
“คุณารักษ์ไง เธอทำให้น้องชายฉันต้องตาย!” เสียงกร้าวมาพร้อมกับมือหนาที่กระชากจนหญิงสาวกระแทกกับอกกว้าง
“รักษ์อย่างนั้นเหรอ นายเป็นอะไรกับรักษ์” เพชรน้ำหนึ่งถามเสียงสั่น คุณารักษ์เขาตายแล้ว ผู้ชายคนนั้นหักหลังเธออย่างเลือดเย็น ใช้ความรักมากมายที่เธอมีให้ทรยศเธอโดยการไปมีผู้หญิงคนอื่น เธอได้ข่าวว่าเขาติดโรคร้าย และประสบอุบัติเหตุตาย แต่สิ่งที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเธอกลับเกิดขึ้น เมื่อมีนักข่าวมากมายมาสอบถามเรื่องนี้ หาว่าเธออยู่เบื้องหลังในการส่งสาวประเภทสองคนนั้นไปทำร้ายเขาอย่างเลือดเย็น ทั้งๆ ที่เธอเองควรจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง ไม่ใช่ถูกสังคมประณามเช่นนี้
หลังจากคุณารักษ์ตายเธอก็ถูกห้ามไม่ให้ไปงานศพของเขา แต่เธอแอบไปไหว้ศพเขาตอนดึก ไปอโหสิกรรมให้ ไปบอกเขาว่าเธอไม่ได้โกรธเขาแล้ว ขอให้เลิกแล้วต่อกันในชาตินี้
“ฉันเป็นพี่ชายของเขา คนที่เธอทำให้เขาตาย”
“เขาทำตัวเอง เขาเลวเอง ฉันไม่ได้ทำอะไรเขา เขาจะตายก็เพราะตัวของเขา” เพชรน้ำหนึ่งโต้กลับเสียงแข็งไม่ต่างกัน เมื่อนึกถึงภาพที่คุณารักษ์นอนกกกอดกับผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าต่อตาเธอ
“เธอนี่มันเลวจริงๆ ทำร้ายคนอื่นให้ต้องมีจุดจบแล้วยังพูดแบบนี้อีก”
“รักษ์เขาทำตัวของเขาเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน คนเลวที่ทรยศหักหลังคนอื่นก็น่าจะตายๆ ไปซะ”
เพราะทั้งรักทั้งแค้นเพชรน้ำหนึ่งจึงเอ่ยออกไปเช่นนั้น แต่นั่นกลับเป็นดั่งน้ำมันราดลงบนเปลวเพลิง ดวงตาของ เควินวาวโรจน์ขึ้นมาในทันที ผู้หญิงคนนี้ใจร้ายกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก
“ก็ดีเหมือนกันที่เธอพูดแบบนี้ ฉันจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดที่ทำอะไรๆ กับผู้หญิงใจร้ายอย่างเธอ และเธอต้องได้รับโทษอย่างสาสมที่ทำให้น้องชายของฉันต้องมีจุดจบแบบนี้”
เควินกระชากเสื้อตัวหลวมของหญิงสาวออกจากกายอย่างไร้ความปรานี ความป่าเถื่อนที่ได้รับทำให้หญิงสาวกรีดร้องอย่างตกใจ
“ปล่อยนะคนเลว น้องชายนายมันเลว แล้วนายก็เหมือนกัน สมกับเป็นพี่น้องกันจริงๆ”
“หยุดว่าน้องฉันได้แล้ว รักษ์ไม่ได้เป็นคนแบบนั้น” เควินกัดฟันกรอดบีบไหล่บอบบางของเธอแทบแหลกลาญ
“โอ๊ย!!! นายมันก็ชั่วเหมือนกันนั่นแหละ รังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้ ถ้าฉันรอดไปได้ ฉันจะเอาตำรวจมาลากคอนายเข้าคุก ไอ้เลว” หญิงสาวสาดคำพูดดุเดือดโต้ตอบ
“รอให้ถึงวันนั้นก่อนเถอะ เพราะว่ากว่าจะถึงวันนั้น เธอคงอุ้มท้องลูกของฉันเรียบร้อยแล้ว”
“นายจะทำอะไรฉัน!” เพชรน้ำหนึ่งขวัญเสีย ด้วยว่าเคยได้ยินเขาพูดกับหมอรุจน์อยู่เหมือนกัน เรื่องที่เขาจะทำให้เธอท้องไม่มีพ่อ
“ทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงเหมือนที่เธอทำกับน้องชายฉันยังไงล่ะ เด็กมีปัญหาอย่างเธอมันต้องจัดการแบบนี้ จะได้ไม่ทำให้ใครต้องทุกข์ร้อนใจอีก หึหึ!”
“เลว ฉันไม่ได้ทำน้องชายของนาย ไอ้บ้า บอกแล้วไงว่าเขาทำตัวเขาเอง”
“อย่ามาปฏิเสธให้ยากเลย เมื่อกี้เธอพูดเองว่ารักษ์สมควรตาย ทั้งๆ ที่น้องชายของฉันกำลังมีอนาคตที่สดใส ดังนั้นเธอเองก็ควรจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน”
“กรี๊ดดดดด!!!”
เสียงกรีดร้องของเพชรน้ำหนึ่งเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากความร้ายกาจที่เควินหยิบยื่นให้ เธอสาบานว่าจะต้องหนีไปจากที่นี่ให้จงได้ แล้วจะเอาคืนเขาให้สาสมกับสิ่งที่เขาทำกับเธอ แม้บังคับไม่ให้น้ำตารินไหล แต่มันกลับไหลออกมาประณามความต่ำช้าที่โดนเขาย่ำยี
“ฉันเกลียดนายที่สุด”
“ฉันก็เกลียดเธอ ยัยผู้หญิงใจร้าย”
เควินสวนกลับอย่างทันกัน ก่อนจะบีบเคล้นปทุมถันอิ่มสวยสลับข้างกันไปมา มีเพียงหยาดน้ำตาที่รินไหลอย่างสิ้นหวัง เมื่อดิ้นรนไปก็มีแต่จะเจ็บตัว เธอพยายามทำร้ายก็ถูกเขาโต้ตอบกลับอย่างเจ็บปวดรวดร้าวมากกว่าเดิม
ปทุมถันทั้งสองเป็นรอยแดงจากเงื้อมือของเควิน เธอนอนแข็งทื่อไร้การดิ้นรนขัดขืนหรือตอบโต้อะไรเขาอีก
“นอนแข็งเหมือนท่อนไม้ คิดว่าวิธีนี้จะทำให้ฉันหมดอารมณ์ได้หรือไง” น้ำคำร้ายกาจยังเปล่งออกมาให้เธอได้ยิน เพชรน้ำหนึ่งไม่สนใจ เธอเม้มริมฝีปากหลับตาหนีหน้าเขาโดยฉับพลัน
“ก็ได้ อยากจะรู้นักว่าเธอจะหนีความต้องการที่ฉันปลุกเร้าได้หรือเปล่า” เควินเปลี่ยนจากความรุนแรงเป็นการเล้าโลมร่างหอมหวานที่เขายอมรับกับตัวเองว่าต้องการเธออย่างไม่น่าเชื่อ
มือใหญ่ขยำฟอนเฟ้นปทุมถันอิ่มเต็มที่ชอกช้ำจากมือชายขยับข้างกันไปมา ก่อนจะสะกิดยอดถันทั้งสองข้างแล้วก้มลงลามเลีย ดูดเม้มให้เท่าเทียม
ความเสียวซ่านที่ได้รับทำให้หญิงสาวที่นอนแข็งทื่อในคราแรก เริ่มบิดกายด้วยความทรมาน แต่เธอกัดฟันทนไม่เปล่งเสียงอันน่าอับอายออกมา เควินเหลือบมองคนที่เม้มริมฝีปากแน่น จิกมือตัวเองด้วยความสาแก่ใจ เขายิ่งเล้าโลมลามเลียไปทั่วฐานบัวอวบอิ่มจนเธอเริ่มทุรนทุราย
“แม่คนเก่ง ฉันจะดูน้ำหน้าของเธอว่าจะทนได้สักกี่น้ำ”
ริมฝีปากร้ายดูดเม้มเต้าอวบอิ่มหนักหน่วงขึ้น มือใหญ่เคลื่อนไปสัมผัสกับเรือนกายสาวทุกอณูเนื้อ
เพชรน้ำหนึ่งเผลอตัวแอ่นอกขยับยื่นสองเต้าทรวงให้ชายหนุ่มอย่างลืมตัว ริมฝีปากร้อนยังดูดดื่มอย่างสาแก่ใจ ขยี้ขยำด้วยความต้องการอย่างเต็มกำลัง ก่อนที่จะเลื่อนใบหน้าลงที่ท้องแบนราบแล้วกดปากร้อนลงไปถี่กระชั้น
วินาทีนี้เควินหลงลืมเรื่องราวบาดหมางคั่งแค้นไปชั่วครู่ เขามีเพียงความต้องการร่างน้อยที่แอ่นกายไม่เป็นตัวของตัวเองตามการชักนำของคนมากประสบการณ์ เป็นความปรารถนาร้อนแรงที่ยากจะเข้าใจได้
แม้ไม่อยากปรนเปรอเธอตรงส่วนนั้น แต่เพราะเขาได้ประจักษ์ว่าไม่มีใครได้เคยเชยชมเธอมาก่อน นอกจากเขาคนเดียวเท่านั้น
ใบหน้าหล่อเหลาจึงซบลงกลางหว่างขาที่ถูกแยกอ้าให้เปิดเผยออกจากกันสู่สายตาคมกริบสีฟ้าครามที่มองอย่างกระหายอยาก
“อื้อ...” ความทรมานที่ไม่รู้ว่ามาจากแห่งหนใดทำให้เพชรน้ำหนึ่งครวญคราง เขาซุกซอกกายสาวจนหนำใจ ใช้ลิ้นแหย่แยงเข้าหาจนหญิงสาวสะดุ้งเฮือก รู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัว สองมือน้อยขยำเส้นผมดกหนาของชายหนุ่มแน่น ใบหน้าที่รกไปด้วยหนวดเคราทำให้เส้นขนหยาบกระด้างเสียดสีกับเนื้อนางอ่อนหวานจนเจ็บเสียวขนลุกไปทั่วตัว
เควินดันตัวขึ้นแล้วจับขาเพรียวของหญิงสาวเปิดกว้างให้เหยียดถ่างออกจากกันจนสุด ใบหน้าหล่อเข้มตามชาติพันธุ์ลูกครึ่งผสมไทยอังกฤษขึ้นสีเข้ม
เขามองเนินเนื้อสาวด้วยความกระหาย น่าแปลกที่เขาต้องการเธออย่างไม่มีข้อแม้ ความรู้สึกตอนนี้เป็นความปรารถนารุนแรงมากกว่าความแค้นที่สุมอกเรื่องน้องชาย และความเสียใจของมารดาเลี้ยง
เนินเนื้อพูสวยที่เขาละทิ้งไปอย่างน่าเสียดายก่อนหน้า เพียงแค่ต้องการทำให้เธอทรมาน แต่เขากลับพลาดที่จะได้ลิ้มลองรสชาติหวานล้ำเลิศ