ลุคใหม่ (เธอเปลี่ยนไป?) #2

1500 คำ
การประชุมเป็นไปอย่างเข้มข้น “มาถึงเรื่องสำคัญนะคะ” บัวชมพูส่งเอกสารฉบับหนึ่งให้กับผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อคือคุณอดิศร “คุณอดิศรคะ คุณจะแก้ตัวเรื่องนี้ยังไงคะ การที่คุณสั่งเครื่องจักรมาผิดแบบที่ทางบริษัทรีเควสไป ดิฉันขอให้คุณส่งกลับคืนให้หมดแล้วเอารุ่นล่าสุดที่บริษัทต้องการมา คุณต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งเดือน ไม่งั้นดิฉันจะดำเนินการกับคุณทางกฎหมาย หวังว่าคุณคงรับทราบ คุณคิดว่าเอกสารแค่นี้จะตบตาฉันได้งั้นเหรอ คุณสั่งรุ่นเก่าที่เขาสร้างตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วมาเพราะราคาถูกกว่า คุณจะได้กินเงินส่วนต่าง เราจะผลิตสินค้าส่งลูกค้าได้ทันตามต้องการได้ยังไง เพราะกำลังผลิตต่างกัน” “มันจะมากไปแล้วนะ ทำไมคุณมากล่าวหาผมลอย ๆ แบบนี้” อดิศรลุกขึ้นยืนด้วยความโมโห เขาโยนเอกสารคืนให้บัวชมพู “ฉันมีหลักฐาน ถ้าคุณไม่รับผิดชอบเรื่องนี้ถึงตำรวจแน่ แล้วฉันเอาจริงอย่าคิดว่าฉันจะยอมคุณ” บัวชมพูยังนั่งอยู่ในท่าสบาย เธอไม่มีทีท่ากลัวเขาสักนิด เธอนั่งเอนหลังพิงเบาะถือเอกสารอยู่ในมือจ้องหน้าอดิศรนิ่ง อดิศรโกรธนับดาวมาก จนต้องกำมือไว้แน่น นับดาวกับเขาเป็นคู่ขากัน แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงเกิดสนใจงานบริษัทขึ้นมา แถมมาฉีกหน้าเขากลางที่ประชุมแบบนี้ ทุกคนในที่ประชุมถึงกับอึ้งกับท่าทีของนับดาว วันนี้เธอดูฉลาดมาก เธอสามารถโต้เถียงถึงเรื่องงบประมาณหลายรายการที่เธอไม่เห็นด้วย ดัสตินมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างคาดไม่ถึง ชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่เกือบท้ายโต๊ะเพราะเขาไม่อยากนั่งใกล้นับดาว เขาอึ้งตั้งแต่เห็นเธอเดินเข้ามาแล้ว ดวงหน้าหวานวันนี้ไม่แต่งหน้าจัดเหมือนทุกวัน ทรงผมก็แปลกตา แถมยังเปลี่ยนสีเปลี่ยนทรงอีก หน้าเธอก็ดูอ่อนเยาว์ลง ท่าทางของเธอวันนี้แตกต่างจากทุกวันอย่างเห็นได้ชัด แล้วยังชุดที่สวมใส่อีกชุดสูทที่เธอสวมใส่ทำให้เธอดูสมาร์ทและก็ดูเป็นผู้บริหารขึ้นมาทันที ปกติชุดที่เธอใส่มีแต่ขุดเซ็กซี่โชว์เนื้อหนัง แล้วไอ้ท่าทางฉลาดรู้ทันคน กับท่านั่งที่ดูมั่นใจเหลือเกิน เธอไปฝึกมาจากไหนได้รวดเร็วแค่สองอาทิตย์ที่เขาไม่เห็นเธอ แล้วสายตาของเธอที่มุ่งมั่นไม่มีท่าทีกลัวใครอีก ดัสตินใช้สายตาประเมินเธอ เกิดอะไรขึ้นนะ หรือเพราะที่เขาด่าเธอครั้งสุดท้ายจะทำให้สมองเธอผิดปกติ ผิวพรรณของเธอก็ผุดผ่องขึ้น หรือเธอไปฉีดหน้าทำโบท็อกซ์มา เพราะเธอบอกจะไปต่างประเทศ “แล้วเรื่องที่คุณบอกจะขายหุ้นให้ผมละ เพราะคุณคงไม่มีความสามารถบริหารบริษัทใหญ่โตขนาดนี้แน่” ทรงศักดิ์เอ่ยถามขึ้นหลังจากนั่งนิ่งมานาน เพราะเขาอยากเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดรองจากนับดาว เขาจะได้ขึ้นเป็นประธานบริษัทอย่างเต็มตัว “ฉันเปลี่ยนใจไม่ขายแล้วค่ะ จะเก็บไว้ให้ลูก อ้อ..แล้วเงินปันผลของเราต่อปีก็เยอะ แล้วฉันก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ให้มันนอนเล่นอยู่อย่างนั้นแหละค่ะ แต่คุณทรงศักดิ์ก็มีหุ้นเยอะแล้วนะคะ เงินปันผลต่อปีก็ไม่ใช่น้อย ๆ ” “แต่พวกผมเห็นควรว่าคุณควรลาออกจากตำแหน่ง เพราะคุณไม่มีความสามารถด้านนี้ กลับไปอยู่บ้านเลี้ยงลูกดีกว่ามั้งครับ” ทรงศักดิ์ไม่ยอมอ่อนข้อให้นับดาว บัวชมพูยืนขึ้นด้วยท่าทางมั่นใจแบบสุด ๆ “ฉันขอประกาศตรงนี้ว่า ถ้าภายในหนึ่งปีดิฉันไม่สามารถบริหารงานให้บริษัทของพวกเราเจริญเติบโตได้ ดิฉันจะรับผิดชอบด้วยการลาออกเองค่ะ หวังว่าทุกคนคงให้เกียรติดิฉัน ซึ่งเป็นภรรยาของคุณแฟรงค์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดิฉันมีสิทธิ์อันชอบธรรม ขอบคุณทุกคนมากนะคะ ที่ให้ความร่วมมือ” ไม่มีใครกล้าโต้แย้งขึ้นมาอีกเพราะที่เธอพูดก็ถูก และนี่ไม่ใช่ประโยคคำถามหาคำตอบแต่เป็นประโยคที่เธอแค่แจ้งให้ทุกคนทราบ ทุกคนจึงมองหน้ากันเลิ่กลั่ก “ก็ได้ครับพวกผมจะรอดู ให้เวลาคุณหนึ่งปี ผมหวังว่าคุณจะรักษาคำพูดนะครับ” “ด้วยเกียรติของฉัน ฉันรับรองค่ะ ฉันพูดคำไหนคำนั้น แล้วถ้าดิฉันสามารถหาคู่ค้าใหม่แล้ว สามารถทำให้บริษัทเติบโตขึ้นอีกสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปพวกคุณทุกคนต้องยอมรับในความสามารถ ของดิฉันอย่างเต็มใจนะคะ” “เอาตามนั้น ทุกคนเป็นพยานครับ” “วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ เลิกประชุมได้ค่ะ แล้วอย่าลืมไปจัดการเรื่องส่งเครื่องจักรคืนนะคะคุณอดิศร แล้วดิฉันจะรอเอกสารฉบับใหม่ค่ะ” บัวชมพูเดินออกจากห้องประชุมไปทันที เตือนใจเดินตามก้นไปติด ๆ “เกิดอะไรขึ้นวะ ทุกทีเห็นแต่แต่งตัวสวยโฉบไปโฉบมา ใครจะไปนึกว่าเธอจะฉลาดขนาดนี้” อดิศรบ่นกับลูกน้องตัวเอง ด้วยท่าทางหัวเสียเพราะเงินที่จะได้หายไปในพริบตา เพราะเธอคนเดียวนังผู้หญิงสารเลว แล้วเราจะได้เห็นดีกันแน่ แกกล้าหักหลังฉัน ดีนะที่ฉันถ่ายคลิปเธอไว้ คอยดูเถอะฉันจะเอามาเล่นงานเธอไม่ให้ผุดให้เกิดเลย อดิศรแค้นใจที่โดนหักหน้าแถมยังโดนเล่นงาน ดัสตินเดินเข้าห้องของนับดาว เขาไม่ได้เคาะประตู เขาจึงทันได้เห็นเธอกำยุ่งกับเอกสารกองมหึมาที่อยู่ตรงหน้า มือข้างหนึ่งของเธอจับปากกาหมุนไปมา หน้าตาดูขะมักเขม้นกับเอกสารที่เธอกำลังก้มอ่านอย่างตั้งใจ “คุณไปหักหน้าเขาแบบนั้น ระวังตัวไว้ก็แล้วกันเขาจะแก้แค้นคุณ แล้วเกิดบ้าอะไรขึ้นมา เมื่อก่อนเห็นหิ้วกันเข้าโรงแรมอยู่ หรือเปลี่ยนเป้าหมายใหม่แล้ว” ดัสตินพูดขึ้นโดยที่บัวชมพูไม่รู้สึกตัวว่ามีคนเข้ามาในห้องของเธอ “คุณเป็นใครถึงกล้ามาพูดกับฉันแบบนี้ ออกไปจากห้องทำงานของฉันเดี๋ยวนี้” บัวชมพูโกรธจนควันออกหู เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาสายตาโกรธจัดท่าทางเอาเรื่อง “ผมไปแน่อย่าคิดว่าผมอยากใกล้ผู้หญิงแบบคุณ ผมก็แค่เป็นห่วงน้ำขิงกลัวว่าแกจะกำพร้าแม่ไปอีกคนถ้าคุณเป็นอะไรไป คุณไม่รู้หรอกว่ากำลังเล่นกับอะไรอยู่” “คุณไม่ต้องมาเป็นห่วงลูกของฉันหรอก ฉันดูแลเองได้ เชิญค่ะ” หญิงสาวผายมือไปทางประตู ดัสตินจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างกับไม่เคยเห็นมาก่อน ในดวงตาคู่นี้ไม่ได้ส่งสายตายั่วยวนเขาเหมือนก่อน แถมดูท่าท่างเธอจะโกรธเขามาก เธอดูแปลกตาไปกว่าทุกครั้ง ดวงตาคู่นี้ที่เห็นเขาทีไรก็มองเขาอย่างหิวโหย ตอนนี้เขามองไม่เห็น ที่เขามองเห็นคือผู้หญิงที่มีดวงหน้าอ่อนใส ดวงตากลมโตที่จ้องมองเขาอย่างไม่เกรงกลัว แถมหน้าเธอยังดูอ่อนกว่าวัยด้วย หรือเป็นเพราะว่าเขาไม่เคยเพ่งมองดี ๆ นะหรือว่าแต่ก่อนเธอแต่งหน้าจัด แต่วันนี้ไม่แต่งอะไรเลย แต่ก็ไม่น่าจะใช่เพราะที่ผ่านมาเธอเคยเอาหน้ายื่นมาใกล้เขา ผิวของเธอไม่ได้เป็นแบบนี้ ตอนนี้เธอดูสวยผุดผ่องไปทั้งตัว ‘อะไรนะอย่าบอกว่าแกเกิดพิศวาสผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา สายตาแกต้องมีปัญหาแน่ดัสตินนี้มันคือภาพลวงตา มันไม่ใช่ของจริง อย่าไปเชื่อในสิ่งที่เห็น’ ดัสตินคิดเองตอบเองในใจคนเดียว “จ้องฉันพอหรือยังคะ นั่นประตู เชิญ ฉันจะทำงานต่อค่ะ” บัวชมพูไม่พอใจที่เขาจ้องเธอด้วยสายตาจับผิดแบบนี้ เขาเป็นใครนะถึงกล้ามาว่าพี่สาวของเธอแบบนี้ “เลิกเล่นละครได้แล้ว เพราะธาตุแท้ของคุณมันก็แค่ผู้หญิงราคาถูก หิวเงิน” “เล่นละครบ้าอะไรของคุณ ฉันบอกให้ออกไป ยังจะมายื่นจ้องหน้าอีก คนโรคจิต” หญิงสาวแหวใส่คนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ “คนที่มันโรคจิตคือคุณต่างหากล่ะ พี่แฟงค์ไม่น่าเอาคุณมาเป็นเมียเลยเพราะคุณมันสำส่อน สงสารแต่น้ำขิงที่มีแม่แบบคุณที่วัน ๆ ถ่างขารอผู้ชายเอาอย่างเดียว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม