วันนี้เป็นวันที่บัวชมพูรีบตื่นแต่เช้าลงไปทำข้าวต้ม ให้น้ำขิงทานก่อนไปโรงเรียน เธอทำอาหารง่าย ๆ ให้ตัวเองด้วย ทุกคนในบ้านตอนนี้กลับแปลกใจจนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่านับดาวจะเปลี่ยนไปในข้ามคืนเร็วขนาดนี้ ราวกับคนละคน
“คุณผู้หญิงคะให้พวกดิฉันทำเถอะค่ะ มันเป็นหน้าที่” ป้าสะอาดอยู่ที่นี่มานานเป็นหัวหน้าแม่บ้านเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ
“เดี๋ยวป้าค่อยทำอาหารเย็นนะคะ เช้านี้นับดาวอยากทำอะไรเพื่อน้ำขิงทานเอง” เธอบอกพร้อมหยิบผ้ากันเปื้อนขึ้นมาสวม ความทะมัดทะแมงและดูเชี่ยวชาญนั้นทำเอาป้าสะอาดขมวดคิ้วอย่างสงสัย ปกตินับดาวเข้าครัวที่ไหนกัน
“ก็ได้ค่ะคุณผู้หญิง เดี๋ยวป้ากับเด็ก ๆ จะเป็นลูกมือนะคะ”
“ขอบคุณค่ะป้า ใกล้เสร็จแล้วค่ะ อีกเดี๋ยวเอาขึ้นโต๊ะได้เลยนะคะ นับดาวขอตัวไปอาบน้ำก่อนค่ะ”
“รับทราบค่ะคุณผู้หญิง เดี๋ยวป้าจัดการให้นะคะ ขึ้นไปอาบน้ำเถอะค่ะเดี๋ยวจะสายเอา”
บัวชมพูเดินขึ้นไปชั้นสองตรงไปยังห้องของน้ำขิง มือเรียวเคาะประตูห้องเบาๆสองสามครั้ง
“น้ำขิงตื่นได้แล้วค่ะ เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสายนะคะ นิ่มจ๊ะจัดการอาบน้ำให้น้องแล้วพาน้องลงไปทานข้าวนะ”
“ได้ค่ะคุณผู้หญิง น้องน้ำขิงไปอาบน้ำกับพี่นิ่มนะคะ”
บัวชมพูเดินกลับห้องของตัวเองเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานวันแรกในฐานนะนับดาว เธอเปิดดูตู้เสื้อผ้าของนับดาวมีแต่ชุดโป๊เปลือย ชุดเที่ยวกลางคืน บัวชมพูถึงกับถอนหายใจ ทำไมนะนับดาวแต่งงานมีลูกแล้ว ถึงไม่ทำตัวให้เหมาะสมกับได้แต่งงานกับคุณแฟรงค์ รีบเปลี่ยนชุดที่เตือนใจเตรียมไว้ให้เมื่อวาน เธอเลือกสวมชุดสูทคลุมโทนสีกรม ด้านในสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีกรม รองเท้าส้นสูงสีเดียวกับชุด เธอใส่เครื่องประดับอย่างเดียวคือนาฬิกาที่ขาดไม่ได้เพราะตอนนี้เธอเป็นถึงผู้บริหาร นาฬิกาจึงเป็นสิ่งควรจะมี ส่งเสริมให้บัวชมพูดูสง่ามีพลังน่าเกรงขามมาก บัวชมพูแต่งแต้มเครื่องสำอางแบรนด์ดังบนใบหน้าด้วยโทนสีอ่อนๆ ให้ดูไม่หนักหน้าหรือสีสันจนเกินงาม
เตือนใจมาถึงก่อนเวลานัด เธอมองนับดาวในลุคใหม่อย่างทึ่งในความสง่างาม ยิ่งนับดาวชุดแบบนี้ยิ่งทำให้ดูสุภาพเรียบร้อยเหมือนนักธุรกิจมาก
“คุณนับดาววันนี้ดูสวยแปลกตามากเลยค่ะ”
“ขอบคุณค่ะพี่เตือนใจ แล้วทานอะไรมาหรือยังคะ”
“พี่เรียบร้อยมาแล้ว เชิญคุณนับดาวเลยค่ะ”
“รอ 15 นาทีนะคะพี่เตือนใจ เดี๋ยวนับดาวออกมาค่ะ”
“ไม่ต้องรีบนะคะ ยังเช้าอยู่เลยค่ะ”
เตือนใจเดินไปที่ห้องรับรองแขก เพื่อเตรียมเอกสารวาระการประชุมของวันนี้ บัวชมพูให้คนขับรถไปส่งน้ำขิงที่โรงเรียนก่อนมาบริษัท
บัวชมพูเดินเข้าบริษัทมาด้วยลุคใหม่ที่แปลกตา พนักงานในบริษัทต่างซุบซิบมองมาที่บัวชมพูเป็นจุดเดียวกัน เพราะไม่เคยเห็นเธอแต่งตัวแบบนี้มาก่อน ขณะที่กำลังรอลิฟต์อยู่ก็มีผู้ชายเดินเข้ามาทักทายบัวชมพู เธอสะดุ้งเล็กน้อย เพราะไม่แน่ใจว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นใคร
“คุณนับดาว สวัสดีครับ วันนี้แต่งตัวสวยแปลกตาจังเลยนะครับ”
“เอ่อ... สวัสดีค่ะ คุณ....”
“วันนี้มีประชุมพวกเราขอตัวก่อนนะคะคุณประมวล” เตือนใจเอ่ยขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เพราะเธอไม่ชอบสายตาประมวลที่มองมา
“เชิญเจอกันที่ห้องประชุมนะครับ” ประมวลผายมือให้ทั้งสองเดินเข้าไปในลิฟต์
“พี่เตือนใจคะ คนนี้ทำไมเขามองนับดาวแบบนี้คะ แล้วเขายังพูดจาไม่ให้เกียรตินับดาวเลยค่ะ”
“เอ่อ.. คุณนับดาวไม่รู้จริง ๆ เหรอคะ เขาเป็นกรรมการบริหารค่ะ แล้วเขายังตามจีบคุณนับดาวอยู่ไงคะ เขายังส่งดอกไม้มาให้คุณบ่อย ๆ เลยค่ะ”
“เป็นไปได้เหรอคะพี่เตือนใจ เพราะนับดาวก็มีคุณแฟรงค์อยู่นะคะ เขายังกล้าทำแบบนี้อีกเหรอคะ”
“เอ่อ.. ไม่ทราบค่ะ” เตือนใจไม่กล้าเล่าต่อ แล้วทำไมนับดาวต้องมาถามเธอแบบนี้ด้วยเนี่ย คนทั้งบริษัทรู้กันทั้งนั้นว่าเธอมีผู้ชายหลายคนมารุมจีบ เฉพาะที่บริษัทก็สามคนแล้ว ยังมีพวกนายแบบอีก นับดาวคนนั้นไปคอยคบหาผู้ชายพวกนั้น ใช้วิธีเข้าหาหลากหลายรูปแบบให้คนเหล่านั้นยอมเธอ เตือนใจทำหน้างง เพราะไม่เข้าใจนับดาวเลย เธอเหมือนไม่รู้จักใครในบริษัทนี้
“พี่เตือนใจพอจะมีข้อมูลบอร์ดบริหารที่จะเข้าประชุมทั้งหมดวันนี้ให้นับดาวได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวให้เลขามาให้ แต่ว่าคุณนับดาวจะเอาไปทำอะไรคะ”
“นับดาวแค่อยากจำชื่อพวกเขาทั้งหมดให้ได้ค่ะ เพราะเมื่อคืนจากการอ่านเอกสารของบริษัท มีบางคนที่ทำการทุจริต นับดาวจะจัดการกับเขาวันนี้ค่ะ”
“ใครคะคุณนับดาว” เตือนใจถามอย่างอยากรู้
“เดี๋ยวพี่เตือนใจก็ทราบพร้อมกันค่ะ วันนี้นับดาวจะชี้แจงทั้งหมดในที่ประชุม”
เมื่อถึงเวลาประชุมสำหรับวันนี้ ทุกคนนั่งรอนับดาวอยู่ในห้องประชุม บางคนก็ซุบซิบกันเรื่องของเธอ ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะให้นับดาวรับตำแหน่งนี้เพราะเธอไม่มีความสามารถเพียงพอ ไม่เคยเข้ามาบริหารงานแล้วจะพาบริษัทไปรอดได้ยังไง และนับดาวยังทำภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหาย แต่งตัวไม่เหมาะสม มีข่าวเรื่องผู้ชายมากหน้าหลายตาอีก
บัวชมพูเดินเข้ามาในห้องประชุมในลุคใหม่ที่แปลกตา ทุกคนถึงกับเงียบกริบ เพราะไม่เคยเห็นเธอในลุคผู้บริหารแบบนี้มาก่อน นับเดินไปนั่งเก้าอี้ของตัวเองตรงหัวโต๊ะ มีเก้าอี้ของเตือนใจอยู่ข้าง ๆ กัน
“สวัสดีค่ะทุกคนดิฉันขอขอบคุณทุกคนมากนะคะ ที่เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียงในวันนี้ เริ่มวาระการประชุมได้ค่ะ” เธอนั่งฟังอย่างตั้งใจ พร้อมทั้งดูเอกสารสลับกันไปด้วย
“เรื่องที่เราจะส่งออกสินค้าไปตีตลาดทางยุโรป ผมขอมติที่ประชุมวันนี้นะครับ เพราะผมต้องส่งทีมงานไปสำรวจตลาด เราจะเจาะตลาดที่อังกฤษก่อน แล้วค่อยขยายไปประเทศอื่น” มาโรจน์เป็นคนรายงานหัวข้อในวันนี้
“ดิฉันเห็นด้วยค่ะ แต่สินค้าของเราต้องได้มาตรฐานตรงตามที่ฝั่งอังกฤษกำหนดมา ถ้าเราตีตลาดโซนยุโรปได้ทั้งหมด เราจะเพิ่มกำลังผลิตขึ้นอีก ทำให้มีการเพิ่มพนักงานทำงานเพิ่มมากขึ้นอีก วาระต่อไปค่ะ”