ตอน 7

1606 คำ
ทว่าหญิงสาวไม่เลือกอะไรสักชิ้น เท่าที่หยิบดูป้ายราคา เธอก็ไม่อยากพามือตัวเองไปแตะต้องเสื้อผ้ามีราคาพวกนั้นแล้ว             “เฮียปราบจะซื้อเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าให้ผู้หญิงเหรอคะ”             “ใช่ ช่วยฉันเลือกหน่อยสิ เอาแบบที่เธอชอบนะ”             “ทำไมไม่พาผู้หญิงคนนั้นมาเลือกเองล่ะคะ”             “ก็พามาแล้วนี่ไง”             ยอดยาหยีหันมองรอบกาย ก็ไม่เห็นว่ามีใครนอกจากตัวเธอ และพนักงานที่มาคอยให้บริการ ด้วยรอยยิ้ม และเสียงเจรจาพาทีแนะนำสินค้าชิ้นนั้นชิ้นนี้ แล้วก็ก้าวจากไปเพื่อให้ลูกค้าได้มีพื้นที่ส่วนตัว             “ไหนคะ” ด้วยความสงสัยจึงเอ่ยถาม             “นี่ไง” นิ้วแกร่งจิ้มลงที่หัวไหล่หญิงสาว เออ...เชื่อแล้วว่าเฮียปราบช่างเป็นคนพูดน้อยจริงๆ “เลือกซะ” เขาไม่อยากเห็นยอดยาหนีนั่งหน้าเศร้า อย่างกับหมาเหงา รอคอยเจ้านายกลับมารับ เห็นทีไรหัวใจหดหู่ ดังนั้นหากเธอจะไปไหน เขาจะพาไป และจะทำหน้าที่คุ้มภัยให้เธอ แม้ไม่รู้ว่าตัวเองทำเพื่ออะไรก็ตาม             “หยีเหรอคะ”             “ดูหน้าตาฉลาด แต่เธอโง่กว่าที่ฉันคาดไว้นะ”             “เอ๋...เฮียปราบว่าหยีแบบนี้ได้ยังไง” ก็เขาไม่พูดอะไรเลย จู่ๆ ลากเธอมาไม่ยอมบอกแบบนี้ ใครคิดทันก็บ้าล่ะ "ถ้าพาหยีมาแบบนี้ระวัง สาวๆ ของเธอเฮียจะมาเจอนะ”             “สบายใจเถอะฉันยังไม่มี”             “เฮียนี่นะ”             “อย่าพูดมาก เลือกชุดที่ชอบ กระเป๋าที่เหมาะกับตัวเอง รองเท้าด้วย” เขาตัดบทมากกว่าจะต่อปากกับเด็กน้อยตัวบอบบาง ผมดำของเธอยาวเต็มแผ่นหลัง เส้นดำขลับเงางาม พลิ้วไหวตามจังหวะการก้าวเดิน แต่เสื้อผ้ามอมแมม เพราะเป็นของสาวใช้ในบ้าน เธอไม่มีของติดตัวมาสักอย่าง เห็นว่าบิดาไปลากมาจากมหาวิทยาลัย นี่ล่ะน๊าพ่อแม่ทำร้ายลูกทางอ้อม             ปราบพิชิต รู้ประวัติภาคินจากปากบิดา รู้สึกเสียดายอนาคตของยอดยาหยี ที่ต้องมาหนีสิ่งที่พ่อก่อไว้แบบนี้ หนี้สินภาคินท่วมหัวมาก ทำอย่างไรจะใช้หมด พวกนายทุนเงินกู้ขู่จะฆ่า แล้วเห็นว่าจะจับลูกสาวเพียงคนเดียวไปขายตัวใช้หนี้ ดังนั้นภาคินจึงกลัวพวกมันไปจับตัวยอดยาหยี เมื่อไหวตัวทันจึงรีบพามาฝากไว้ที่คฤหาสน์สกุลก้องพาณิชย์ แล้วอย่างนี้จะให้เขาดูดาย กับชะตากรรมผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องได้เรียนให้จบ ทั้งที่มานะมาหลายปีแล้วอย่างนี้ได้อย่างไร             สรุปยอดยาหยีไม่เลือกของอะไรสักชิ้น ทว่าคนพูดน้อยทำมากจึงเป็นฝ่ายเลือกตามที่เขาเห็นว่าเหมาะกับเธอ รวมไปถึง...             “เฮียปราบ อย่าบอกนะว่าชุดพวกนี้ด้วย”             “ใช่สิ หรือเธอจะไม่เปลี่ยน ใส่ชุดเดิมระวังเป็น...” เขามองลงไปตรงกลางกายสาว นึกภาพไว้ในหัวหากผู้หญิงต้องสวมชุดชั้นในตัวเดิมๆ ซ้ำๆ จะเป็นอย่างไร คงไม่ดีไม่งามแน่หากเป็นแบบนั้นจริงๆ             “ซื้อก็ซื้อค่ะ” ความจริงเธอใส่ชุดเดิมอย่างที่เขาคิดนั่นล่ะ ทว่าเธอซักตอนกลางคืนแล้วตาก จากนั้นตอนนอนจึงไม่สวมชั้นในนอน ปล่อยโล่งให้ความสาวได้หายใจ “แต่เฮียปราบไม่ต้องเข้าไปในร้านหรอกนะคะ หยีจะซื้อเอง”             “ได้ไง ฉันมีหน้าที่จ่ายเงินให้เธอไม่เข้า แล้วใครจะจ่ายล่ะ”             “เอ่อ...” มันก็จริงที่เขาพูดนะ หญิงสาวพยายามคิดหาทางออก เพื่อจะได้ไม่ต้องให้เขาเข้าไปในร้าน เพราะขืนเข้าไปเขาต้องเห็นเธอเลือกชุดชั้นใน ทั้งบนและล่างคราวนี้ได้อายแทรกห้างหนีแน่ๆ “เฮียปราบนั่งรอตรงนี้นะคะ” เธอดันแผ่นหลังให้เขาเดินไปรออยู่ตรงโซฟากำมะหยีสีแดงตัวยาว ที่ทางร้านจัดวางไว้ต้อนรับลูกค้า             “อายเหรอ” เขาถามสั้นๆ ตรงจุด             “ใช่สิคะ” ยอดยาหยีก้มหน้าตาด้วยท่าทางเอียงอาย อาการของเธอทำให้หัวใจหนุ่มกระชุ่มกระชวยอย่างประหลาด             “ก็ได้” เขายอมอย่างง่ายดาย ขี้เกียจทู่ซี้กับผู้หญิง เวลาเลือกชุดชั้นใน ชายหนุ่มผายมือให้หญิงสาวได้ไปเลือกผ้าห่อน้องผ้าห่อนมได้อย่างสบายใจ เขาจะไม่เข้าไปก้าวก่ายแต่อย่างใด ผู้หญิงแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน บางคนอยากให้เขาไปช่วยเลือก บางคนซื้อแล้วให้เขาดู บางคนซื้อแล้วให้เขามีหน้าที่ถอด บางคนให้เขาใส่นั่นย่อมไม่ถนัด ทว่ายอดยาหยี แม้แต่เลือกเธอยังไม่ให้ช่วยเลือก รู้สึกแปลกกว่าคนอื่นๆ ที่เฮียปราบเคยผ่านมา ยอดยาหยีช่างน่าสนใจขึ้นมาทันที             ยอดยาหยีเลือกชุดชั้นในยี่ห้อดังทางฝั่งยุโรป ชุดชั้นในยี่ห้อนี้เกิดกี่ชาติถึงจะมีโอกาสได้สวมใส่ เพราะราคาแต่ละตัวมากกว่าเงินเดือนพนักงานบริษัท ทั้งเดือนซะอีก เป็นบุญแล้วนังหยีเอ้ย หญิงสาวร้องบอกตัวเองอย่างขบขันอยู่ในใจ บางครั้งอดชำเลืองมองคนพามาซื้อไม่ได้ เฮียปราบใจปั้มชะมัด ดังนั้นด้วยความฝัน และความอิจฉานางแบบที่ทำหน้าที่เดินแสดงชุดชั้นในยี่ห้อดังบทเวที พร้อมกับมีนักร้องมาร้องเพลงสดๆ เพื่อประกอบการเดินแบบ เธอจึงเผลอเลือกมาเกือบสิบชุด โดยลืมดูราคาป้ายที่ติดไว้แต่ละตัว พอดูอีกทีตอนที่หอบมาวางตรงแคชเชีย เพิ่งเห็นว่าราคารวมๆ กันแล้วซื้อมอเตอร์ไซด์ได้สามสี่คัน             “พอแล้วเหรอ” เสียงทุ้มดังจากด้านหลัง             ร่างบอบบางที่ยืนหันหน้าให้กับเคาน์เตอร์สะดุ้ง รีบใช้ตัวบังกองชุดชั้นในที่ยังติดอยู่กับไม้แขวนหรูหราเอาไว้             “พอ...แล้วค่ะเฮียปราบ”             “คิดเงินเลยครับ” เขาสั่งให้แคชเชียคิดเงิน พร้อมกับดึงบัตรเครดิตสีทองออกจากกระเป๋า ยื่นให้พนักงาน จากนั้นหันมากระซิบยั่วหญิงสาวชิดใบหู “ใส่ให้ดูด้วยนะ” ขนาดเท่าที่เขากะประมาณจากสายตา ไม่ใช่เล็กๆ เลยทีเดียวสำหรับยกทรงยี่ห้อหรูที่ดารา นางแบบมีชื่อชอบสวมใส่ แต่ยี่ห้อดีแค่ไหนก็ต้องถอด เฮียปราบคิดแค่นั้น แต่ถ้าชุดชั้นในยี่ห้อนี้อยู่บนตัวยอดยาหยี คงจะส่งให้เธอกลายเป็นนางยั่วได้ในพริบตา             “บ้า...เฮียปราบ พูดอะไรน่ะ”             “ได้ยินไม่ชัดเหรอ ฉันพูดอีกก็ได้นะ” เสียงทุ้มเสนาะหูเย้าอีกฝ่ายอย่างสนุก หากยังตีสีหน้านิ่งด้วยความเคยชิน ฉายาที่เขาได้รับจากเพื่อนฝูง หรือแม่คนสนิทหลายๆ คนคือ “เฮียปราบหน้าเดียว” เขาอยากมีคนทำให้เขามีอารมณ์หลากหลาย แสดงสีหน้าได้ไม่ซ้ำเสียเหลือเกิน หากแต่ผ่านมาสามสิบหนาวยังคงไม่พบคนที่ว่า             “พอค่ะพอ ไม่ต้องพูดแล้ว” คำพูดจากปากเขาที่บอกชิดหู ช่างส่งผลให้หัวใจดวงน้อยเต้นผิดจังหวะ หญิงสาวหมุนกายหนีไปจากเฮียปราบ พลางยกมือทาบหน้าอกตัวเอง แล้วเธอรู้สึกได้ว่าก้อนเนื้อในอกเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาด้านนอกเสียให้ได้             “นั่นจะไปไหนหนูหยี” ป้าหวินก้าวออกมาทันได้เห็นยอดยาหยี สวมชุดนักศึกษา ในอีกวันต่อมาเพื่อเตรียมจะออกจากบ้าน             “ไปเรียนค่ะป้าหวิน” หญิงสาวบอกกับป้าหวินไป สวมรองเท้าไป วางหนังสือไว้บนโต๊ะสำหรับบรรดาคนใช้นั่งกินข้าว หลังห้องครัว             “ว้าย ! พ่อสั่งห้ามไว้ไม่ใช่หรือ” ป้าหวินยกมือทาบหน้าอกอย่างตกใจ นางรู้เรื่องทั้งหมดพอๆ กับที่คุณผู้หญิงรู้ เพราะท่านสั่งให้นางดูแลเด็กคนนี้ จนกว่าพ่อจะมารับ แล้วนี่ไม่กี่วันจะแจ้นออกไปข้างนอก ปลอดภัยดีแล้วอย่างนั้นหรือ             “โธ่...ป้าหวินหยีเสียดายเวลาอีกนิดเดียวหยีจะจบแล้ว” หญิงสาวว่าพร้อมกับหอบหนังสือขึ้นแนบอก ชุดนักศึกษาใหม่ รองเท้า กระเป๋าใหม่ทั้งหมด ของพวกนี้คือสาเหตุทำให้สาวใช้นั่งสุมหัวนินทายอดยาหยี อยู่หลายชั่วโมง ในเวลาอาหารเย็นหลังคุณๆ บนตึกรับประทานเสร็จ             ทุกคนคิดไปแล้วว่ายอดยาหยีอาจเป็นเหมือนนักศึกษาสาวๆ ทุกคนที่เอาตัวเข้าแลกกับของใช้ฟุ่มเฟือยเหล่านี้ มีเพียงป้าหวินเท่านั้นที่คิดไปในทางดีหน่อย คือ เป็นการดูแลจากเจ้านายตามแต่สมควร เพราะยอดยายีมาแต่ตัว เสื้อจะเปลี่ยนสลับก็น้อยชิ้นเต็มที คนเป็นนายอาจเห็นว่าควรซื้อใหม่ให้หญิงสาวบ้างคงเท่านั้นล่ะ             “แล้วถ้าออกไปอย่างนี้...” ป้าหวินเกรงหญิงสาวได้รับอันตรายหากทุกอย่างเป็นอย่างที่ภาคินได้ฝากฝังยอดยาหยี กับคุณผู้ชายไว้             “เฮีย...เอ่อ...คุณปราบน่ะจ้ะ รับปากว่าจะให้คนไปส่ง” เธอเองก็ไม่รู้ว่าคนไปส่งเป็นแบบไหน ด้วยยอดยาหยีรู้น้อยมากเกี่ยวกับครอบครัวนี้ รู้เลาๆ จากป้าหวินครอบครัวมั่งคั่งนี้ทำธุรกิจหลายอย่าง บิดาเคยเป็นคนงานในโรงงานรับใช้คุณท่านทั้งสองมาหลายปีก็เท่านั้น             “หมายถึงบอดี้การ์ดอย่างนั้นหรือหนูหยี” ปราบพิชิต และสถิตต่างมีบอดี้การ์ดส่วนตัว อาจจะใช้ให้ใครสักคนสองคน คอยดูแลอารักษ์ขายอดยาหยีก็เป็นไปได้ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม