EP6 - พี่เอกมัยคือใคร

1485 คำ
6 - พี่เอกมัยคือใคร ช่วงเย็น “ขอบคุณนะครับครูโจ” “ครูไม่เคยเห็นเธอเล่นดนตรีเก่งแบบนี้มาก่อน มันดูเหมือนคนที่ครูเคยเจอเลย แต่เอาเถอะขอบคุณที่ตอบรับข้อเสนอของครูนะครับ” ครูโจยิ้มพร้อมลูบหัวทิวลิป ผมชอบมากเวลาน้องยิ้มและแสดงความน่ารักออกมา ผมเห็นแล้วใจละลาย แล้วการที่น้องตอบรับ ผมว่าน้องใจกล้าพร้อมสู้ทุกอุปสรรค ถ้าอย่างนั้นผมจะสอนน้องเขาให้อย่างดีที่สุด “น่ารักแบบนี้ ที่หนึ่งให้ได้นะครับ” “ครูชมผมแบบนี้ผมก็เขินนะ” ครูโจเป็นครูสอนดนตรีที่ชอบนักเรียนชายด้วยความเอ็นดู ใครน่ารักก็ชอบเข้ามาคุยด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าครูชอบผู้ชายหรือเปล่าแต่ถ้าวัยแบบผมคงเกินเลยไม่ได้ เดี๋ยวโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ขึ้นมา ใครจะมาสอนดนตรีให้ผมล่ะ ครูคนนี้ผมรักและอยากเรียนมาก “งั้นตั้งใจให้ดีที่สุด ครูจะให้รางวัลนะครับ” ผมพูดแล้วว่าผมจะให้รางวัลน้อง ซึ่งนั่นก็คือของขวัญที่ผมอยากให้น้องเขาแต่ต้องทำตามความฝันให้เป็นจริงก่อน ผมไม่สามารถไปบังคับชีวิตน้องได้ ปล่อยให้น้องตัดสินใจด้วยตัวเองดีกว่า ผมแนะนำได้แค่นี้ “มึงเห็นแล้วใช่ไหมเขียว” “กูว่ามึงอย่าพยายามดีกว่า พยายามในเรื่องโง่ ๆ มันไม่คุ้มนะเว้ย” ผมโดนไกอาลากมารับรู้เรื่องชาวบ้านเพื่ออะไร มันอิจฉาจนอยากทำลายความสามารถคนอื่นหรือไง ผมว่าไกอาต้องปรับความคิดหรือหัดทำอะไรสักอย่างให้เกิดประโยชน์จะดีกว่ามาทำลายความฝันคนอื่น “งั้นมึงต้องไปกับกูคืนนี้” “จะให้กูไปไหน” “มึงได้ยินที่ทิวลิปเคยพูดให้ฟังต่อหน้าหรือพูดลอยลอยไหม มันพูดกับใครก็ไม่รู้ พี่เอกมัยคือใคร” “เอ่อ...” เรื่องนี้ผมเห็นด้วยกับไกอาเพราะทิวลิปมักจะพูดถึงใครบางคนที่ผมไม่เคยเห็น จะว่าไปพี่คนนี้เขาสอนดนตรีให้เพื่อนผมงั้นเหรอ ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาไปสอนตอนไหนทำไมผมไม่เคยเห็น “งั้นมึงตามทิวลิปไปกัน” ผมต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการรู้ความจริงเพราะไม่งั้นผมจะคาใจและถ้าทิวลิปไปหลอกลวงทุกคนแบบนี้ ผมจะนิ่งเฉยได้เหรอต้องมาเรียนอยู่ห้องเดียวกับมิจฉาชีพ ผมต้องจับตาดูเพราะถ้ามันไปแข่งดนตรีแบบหลอกลวงคนอื่น มันจะทำให้ทุกฝ่ายเสียหาย ในคืนนั้น ชรัสส่งน้องเข้านอนแล้ว ตอนนี้ถือว่าทางสะดวกสำหรับผมมากเพราะตอนกลางคืนหมู่บ้านผมจะเงียบเหงาไม่ค่อยมีคนออกมาพลุกพล่านแล้ว ผมเดินออกจากบ้านแล้วเดินไปตามทาง ผมจำได้ว่าบ้านหลังนั้นที่เราไป อยู่ไม่ไกลเดินไปไม่ถึงห้านาทีก็ถึง ผมต้องรู้ความจริงให้ได้ว่าในบ้านหลังนั้นมีความลับอะไรซ่อนอยู่ ถึงทำให้น้องเกี่ยวพันกับเรื่องราวลึกลับนี้ ผมเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า บ้านหลังเดิมสองชั้นโทนขาวดำหรูหรา หน้าต่างเยอะแทบมองเข้าไปข้างในชัดทั้งบ้าน ผมสังเกตมาสักพักแล้วว่าประตูบ้านหลังนี้ไม่เคยล็อกไว้ ราวกับเปิดทิ้งไว้ไม่เคยปิดมัน ทำแบบนี้ล่อตาโจรแบบผมมาก ผมค่อย ๆ มองรอบด้านเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครเห็นแล้ว ผมเดินเข้าไปแล้วตรงเข้าไปประตูบ้าน สิ่งที่ผมเห็นคือเปียโนหลังใหญ่สีดำ ยกหลังคาพยุงด้วยไม้ค้ำเปียโน มันหรูหราและดูดี เมื่อประดับด้วยกระถางพรรณไม้และก้องหินหลากสี มันทำให้เปียโนแพงขึ้นไปอีกขั้น ผมยังไม่เข้าไปนั่งเพราะถ้ามันเป็นกับดักหลอกผมไปอีกคน โดยที่ผมยังไม่ทันค้นหาความจริง ผมเสียคนไปจะเป็นยังไง “เราต้องหาความจริงก่อน” บ้านหลังนี้ผมเดินเข้ามาพักหนึ่ง ภายในบ้านสว่างราวกับพลังงานไม่เคยหมด เจ้าของบ้านปั่นพลังงานไฟฟ้าใช้เอง ผมมองเห็นของทุกอย่างในบ้านดูดีไปหมด ไม่คิดว่าเจ้าของบ้านจะหายจากโลกนี้ไปแล้ว มันน่าเสียดายเหมือนกันแต่ว่าหน้าตาเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นใครกัน ผมเดินขึ้นบันไดที่ออกแบบตอบโจทย์ ไม่มีราวบันไดเน้นความสวยงามในระยะไม่สูงมาก ผมขึ้นไปบนห้องนอนของเจ้าของบ้านหลังนี้ ภายในห้องตกแต่งเตียงนอนและมุมภายในห้องเป็นระเบียบมาก ดูท่าทางเจ้าของห้องจะเป็นคนมีระเบียบ ผมเห็นไวโอลินในห้องแขวนไว้และมีขลุ่ยเก็บในกล่องเป็นอย่างดี แสดงว่าเจ้าของห้องต้องชอบเล่นดนตรีมาก ผมว่าคนที่ส่งต่อความสามารถพิเศษให้น้องต้องเป็นคนที่น้องพูดถึง “เอกมัย...” ผมเปิดลิ้นชักเพื่อหยิบของในนั้นออกมา ภายในมีเทปคาสเซทและหูฟังหลายสาย ดูท่าทางจะชอบสะสมหูฟังมาก ผมลองหยิบมาเสียบสักสายบางอันยังใช้ได้ดี บางอันเสียแล้ว ความชอบที่ผมเห็นในห้องแสดงว่าคลั่งไคล้แทบขายวิญญาณให้เสียงเพลง มีเครื่องดนตรี เทปเพลงและหูฟัง ถ้ามีวิทยุคลื่นโปรดที่ขีดไว้ว่าควรหมุนไปฟังตรงไหนเพื่อหาสัญญาณ ผมไม่แปลกใจเลยล่ะ ผมเห็นรูปถ่ายในเล่มอัลบั้ม ถือว่ายังใช้วิธีการถ่ายภาพจากกล้องถ่ายรูป ส่วนใหญ่ปัจจุบันเขาถ่ายจากโทรศัพท์เก็บไว้อย่างทันสมัย พ่อแม่ของเขาอาจจะผ่านช่วงเวลาเก่า ๆ มาแล้วก็ได้ ถึงมีของจากยุคนั้นเป็นที่ระลึก รูปถ่ายพ่อแม่วัยกลางคนแต่ยังหนุ่มสาวดีอยู่ ก็ถือว่าชีวิตปูทางสวยหรูมาด้วยดีแล้วทำไมลูกชายคนหล่อผมกะลาตามสมัยนิยม หล่อขนาดเป็นพระเอกเกาหลีทำไมต้องจบชีวิตด้วย มันน่าแปลกมากที่ผมต้องคิดตามและหาคำตอบให้ได้ “ทำไมเขาถึงตายได้ล่ะ” ผมมองผู้ชายหน้าหล่อตามลักษณะที่ทิวลิปบอกผมซ้ำ ๆ จำขึ้นใจเมื่อได้เห็นกับตาบอกเลยว่าหล่อตรงปกของจริง น้องผมไม่ได้โกหกว่าแต่น้องผมไปเล่นเปียโนเล่น ๆ เป็นการปลุกวิญญาณเอกมัยให้ตื่นขึ้นมางั้นเหรอ เครง!! ผมได้ยินเสียงบางอย่างเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ ผมตกใจสะดุ้งพร้อมความขนลุกที่ก่อตัวขึ้นมา ผมได้ยินดังมาจากชั้นล่าของบ้านหลังนี้ ผมค่อย ๆ เดินลงไปช้า ๆ ด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ ผมต้องย่องเบาให้มากที่สุดเพราะผมไม่รู้ว่านอกจากผม ใครแอบเข้ามาในบ้านหลังนี้อีก ผมค่อย ๆ ก้มตัวแทบคลานตรงบันไดเพราะผมเห็นอะไรบางอย่างอยู่ที่เปียโน สิ่งที่ผมเห็นคือเด็กคนหนึ่งนั่งเล่นเปียโน บรรเลงเพลงด้วยสองมือไปด้วยจังหวะเพลงช้าฟังแล้วได้อารมณ์และความรู้สึกร่วมไปด้วย เพลงที่เขาเล่นและจังหวะที่ถ่ายทอดออกมา กำลังบอกว่าเขากำลังเศร้าปนมีความสุข เหมือนชีวิตของคนตรงหน้ากำลังมีปัญหาโดยที่ไม่มีใครรู้ “ทิวลิป...” ผมตกใจไม่คิดว่าน้องจะแอบสะกดรอยตามมา หรือน้องอาจจะตั้งใจมาที่นี่ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ ผมเห็นน้องนั่งเล่นเปียโนอย่างสบายใจ ปล่อยใจปล่อยกายไปอย่างสบาย ไม่เครียดเวลาเล่นเปียโน ผมเห็นแล้วมันก็มีความสุขที่น้องได้รับมันแต่ว่ามันแปลกเกินไปที่น้องควรจะเป็น “ผมคือพี่เอกมัย” ผมไม่เข้าใจว่าน้องกำลังพูดเรื่องอะไร สิ่งที่เห็นตรงหน้าไม่ใช่ทิวลิปแล้วเหรอแต่เป็นเอกมัย คนที่น้องให้ความสนใจเป็นตัวตนมากกว่าคนอื่น ผมว่าผมต้องเจอเขาแล้วเหมือนกัน ผมอยากรู้ว่าคนแปลกหน้าที่มองไม่เห็นต้องการอะไรจากน้องผม “พี่ว่าพี่ไม่ตลกนะ ทิวลิปน้องเป็นอะไรกันแน่ น้องไม่ใช่คนเดิมที่พี่เคยรู้จักมาก่อน” ในขณะที่ผมกำลังจะพาน้องกลับ ไฟในบ้านดับลงทำให้ผมมองไม่เห็นน้อง ผมจับมือใครบางคนก็จริงแต่ว่าความสูงเปลี่ยนไปพร้อมรูปร่างต่อให้คนตรงหน้าจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน ผมค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาเห็นชายคนหนึ่งที่เหมือนในรูป เขายิ้มให้ผมก่อนจะหันไปมองในเปียโน มุมที่ยกหลังคาขึ้น ผมหันตามไปเท่านั้นแหละ ความตกใจของผมก่อตัวทำให้ผมและใครบางคนกรีดร้องออกมา เมื่อสิ่งที่เห็นมันน่ากลัวที่สุดในชีวิต “อ๊ากกกกก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม