บทที่ 4
1162 คำ
“เลิกครับ เลิกพูด เลิกคิด ไอ้ชาญเพราะมึงคนเดียว เกือบทำให้กูอดได้เสื้อผ้ากับรองเท้าใหม่แล้ว” ลุงสนโวยวายพร้อมกับซัดเบาๆ ไปบนหน้าท้องของเพื่อนรัก
“เลิกๆ ไม่หาเจ้าสาวให้คุณไฟแล้ว ไว้ให้คุณไฟแต่งงานกับม้านั่นแหละดีแล้ว”
ลุงชาญรับคำภาษาซื่อ และไม่วายเอ่ยต่อท้ายให้อัคคีต้องหลุดเสียงหัวเราะออกมา
“ตกลงตามนี้ครับ ห้ามหาเจ้าสาวให้ผม” อัคคีย้ำเสียงเข้ม หัวเราะจนหน้าดำหน้าแดง ก่อนจะเอ่ยบอกต่อว่า
“ลุงรอสักครู่ ผมขอไปหยิบกระเป๋าเงินก่อน เดี๋ยวผมจะพาลุงๆ ไปช็อบปิ้งให้เพลินไปเลย”
อัคคีเดินเข้ามาในตัวบ้านเพื่อหยิบกระเป๋าเงิน พร้อมกันนั้นก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงคำพูดของลุงชาญ ที่บอกให้เขาแต่งงานกับเจ้าอาชาไนย ก่อนจะพึมพำกับตัวเองว่า
“เฮ้อ!!! สงสัยได้แต่งงานกับม้าจริงๆ ป่านนี้แล้วเจ้าสาวยังไม่โผล่มาเลย”
+++++++++++++++++++++++++
“ไม่แต่ง! ยังไงฬานาก็ไม่แต่งงาน คุณพ่อ คุณแม่จะบังคับและคลุมถุงชนหนูไม่ได้”
พีรดา เจ้าของใบหน้างดงาม ดวงตาดำขลับ เอ่ยประท้วงบิดา มารดา ร่างเล็กเดินไปมาอยู่ภายในห้องนั่งเล่น ไม่สบอารมณ์กับหัวข้อการสนทนา ที่ถูกบุพการีทั้งสองเปิดประเด็นในค่ำวันนี้
“แม่ได้บังคับฬานาให้แต่งงานนะลูก”
สรุตาผู้เป็นมารดาเอ่ยค้าน ก่อนจะหว่านล้อมลูกสาวต่อ
“แม่แค่อยากให้ฬานาเป็นฝั่งเป็นฝา มีครอบครัวก็เท่านั้นเอง”
“นั่นแหละค่ะคือการบังคับให้ฬานาแต่งงาน”
พีรดาเอ่ยต่อท้ายเสียงเข้ม พร้อมกับยืนกรานคำเดิม
“ยังไงๆ ฬานาก็ไม่แต่ง ฬานาไม่ได้รักเขา ฬานาจะไม่แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเด็ดขาด”
“อยู่ๆ ไปก็รักกันเอง เหมือนพ่อกับแม่ยังไงล่ะลูก”
อมล ผู้เป็นบิดาเอ่ยยกตัวอย่างคู่ของตนเองกับผู้เป็นภรรยา เพื่อหวังให้ลูกสาวได้คล้อยตาม
แต่! พีรดาก็ส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ “นั่นมันยุคสมัยของคุณพ่อกับคุณแม่ แต่ตอนนี้มันยุค 4G นะคะคุณพ่อ เขาเลิกคลุมถุงชน และเลิกความคิดนี้แล้ว อยู่ด้วยกันไปก็รักกันเอง มันไม่มีทางเป็นไปได้ค่ะ”
“แล้วทำไมฬานาไม่รักคุณเมธัสล่ะลูก เขามีดีกรีเป็นนักเรียนนอก แถมยังรวยล้นฟ้า คุณแม่ของคุณเมธัสชอบฬานามาก ท่านจะสร้างโรงพยาบาลสัตว์ให้ฬานาในทันทีที่หนูตกปากรับคำเป็นลูกสะใภ้ของท่าน”
“ฬานาไม่ต้องการค่ะ คุณแม่”
พีรดาปฏิเสธ รู้มานานแล้วว่ามารดาของเมธัสต้องการซื้อตัวเธอ ด้วยการสร้างโรงพยาบาลสัตว์ให้
“ฬานา หนูคิดให้ดีก่อนไหมลูก ครอบครัวของคุณเมธัสพร้อมสร้างโรงพยาบาลสัตว์ให้หนู ไม่ใช่แค่คลินิกเล็กๆ สำหรับรักษาสัตว์เท่านั้น”
“ฬานาคิดดีแล้วค่ะคุณแม่ หากจะเปิดคลินิกรักษาสัตว์ ฬานาจะเปิดด้วยเงินทุนของฬานาเอง หนูไม่ต้องการเงินของใครทั้งนั้น”
“แล้วเมื่อไรจะเปิดคลินิกได้ล่ะลูก”
ผู้เป็นบิดาเอ่ยค้าน ก่อนจะตอกย้ำความจริงให้ลูกสาวต้องหน้าถอดสีไปชั่วขณะ
“อีกกี่ปี? ฬานาถึงจะเปิดคลินิกได้ ต้องใช้เงินทุนเป็นล้านๆ ถึงจะเปิดคลินิกรักษาสัตว์ได้”
“กี่ปีฬานาก็จะรอค่ะ ถ้าไม่มีเงินเปิดคลินิก ฬานาก็เป็นหมอรักษาสัตว์ในโรง
พยาบาลสัตว์ก็ได้ค่ะ”
ใช่! เธอไม่จำเป็นต้องเปิดคลินิกเอง เธอเรียนจบสัตวแพทย์ สามารถเข้าทำงานเป็นหมอรักษาสัตว์ในโรงพยาบาลของรัฐหรือของเอกชนก็ได้
“แม่ไม่เข้าใจว่าทำไมฬานาไม่คว้าโอกาสทองนี้ไว้ คุณเมธัสหล่อและรวย เป็นผู้ชายในฝันที่สาวๆ ทั่วกรุงเทพฯ อยากคว้ามาเป็นเจ้าของ แต่ฬานากลับปฏิเสธทั้งๆ ที่โอกาสวิ่งเข้าใส่แล้ว”
“ใช่ค่ะ เขาหล่อและรวย”
พีรดาพยักหน้ารับคำ แล้วเอ่ยบอกในสิ่งที่บิดามารดา ไม่เคยรู้ในด้านมืดผู้ชายคนนี้
“แต่คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะว่า ประวัติของเขาเป็นยังไงบ้าง เขาไปเรียนที่อเมริกา แต่เรียนไม่จบ อยู่ที่โน่นก็ทำเรื่องเสียไว้มากมาย ทั้งทะเลาะวิวาทกับคนไทยด้วยกัน ควงผู้หญิงไม่เคยซ้ำหน้า พอกลับมาประเทศไทยก็ชวนสาวๆ จัดปาร์ตี้ยา มั่วเซ็ก เพราะได้บารมีของพ่อคุ้มหัวอยู่ เขาถึงไม่ถูกตำรวจจับสักที”
“ฬานา หนูปรักปรำคุณเมธัสหรือเปล่าลูก”
สรุตาไม่เชื่อในคำพูดของลูกสาว และอมล ผู้เป็นบิดาก็ไม่เชื่อว่า คนที่มีชาติตระกูลดีอย่างเมธัสจะทำตัวเหลวแหลกถึงเพียงนั้น
“นั่นนะสิ หนูปรักปรำคุณเมธัส เพื่อหาข้ออ้างไม่ต้องแต่งงานกับเขาหรือเปล่า ครอบครัวของคุณเมธัสเป็นตระกูลดัง ตระกูลเก่าแก่ในประเทศไทยเลยนะลูก”
พีรดาลอบถอนหายใจลึก เพราะคำว่าเงินที่บังตา ทำให้บิดามารดาไม่เชื่อในคำพูดของเธอ ท่านทั้งสองอยากให้เธอแต่งงานกับมหาเศรษฐีรายนี้ คงคาดหวังว่าเมื่อแต่งงานไปแล้วชีวิตของเธอจะสุขสบายอยู่บนกองเงินกองทอง แต่ท่านทั้งสองหารู้ไม่ว่าการแต่งงานกับเมธัสคือหนทางสู่นรกดีๆ นี่เอง
“ฬานาไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว และอยากให้คุณพ่อคุณแม่ล้มเลิกความคิดที่จะให้ฬานาแต่งงานกับคุณเมธัส ให้ฬานาตายซะยังดีกว่า ที่จะต้องแต่งงานกับผู้ชายที่เป็นซาตานในคราบของเทพบุตร”
“ฬานา...”
“หนูขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ”
พีรดาแทรกขึ้นมาก่อนมารดาจะทันได้เอ่ยพูด บอกมารดาไปแล้วก็รีบเดินออกจากห้องนั่งเล่น และด้วยเกิดอาการสังหรณ์ แทนที่จะเดินตรงไปยังห้องนอนของตน หญิงสาวกลับหยุดยืนอยู่ด้านหน้าห้องนั่งเล่น และนั่นทำให้ได้ยินคำพูดของบิดากับมารดาที่กำลังปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด
“ทำยังไงฬานาถึงจะยอมแต่งงาน นี่เรารับเงินสินสอดของคุณเมธัสมาแล้ว ถ้า
ฬานาไม่ยอมแต่งงานพวกเขาต้องเอาเงินคืนแน่ๆ”
“พี่กำลังใช้ความคิดอยู่”
อมลบอกผู้เป็นภรรยา เริ่มปวดหัวขึ้นมาเป็นริ้วๆ กับการหาวิธีกล่อมลูกสาวให้แต่งงาน แน่นอนว่าเป็นดั่งที่ภรรยาเอ่ยพูด พวกเขารับเงินค่าสินสอดล่วงหน้ามาจากครอบครัวของเมธัสถึงสี่ล้านบาท หากพีรดาไม่ยอมแต่งงาน พวกเขาก็ไม่มีเงินไปคืนให้กับเมธัส เพราะเงินจำนวนนี้ถูกถลุงไปจนเกือบหมดแล้ว
- ผู้เขียน
