ออกจากวังอ๋อง

1369 คำ
หลังจากตรวจสอบเรื่องยาบำรุงครรภ์และผลออกมาเป็นที่น่าหวาดหวั่น สององครักษ์เงาพี่น้องจึงเห็นดีที่จะไปรายงานให้กับนายเหนือหัวได้ทราบ ถึงแม้ว่าจะไม่ถึงวันเวลาที่ท่านอ๋องกำหนดเอาไว้ก็ตามที “คราวนี้เจ้าต้องไปรายงานกับท่านอ๋องและนำยาห่อนี้ไปให้หมอโจวด้วย” “แล้วทำไมพี่ใหญ่ไม่ไปเองเล่า” เอ้อสงรับห่อยามาแต่ก็ยังอิดออดเพราะไม่อยากเจอหน้าหมอโจวเท่าใดนัก แค่หมอหลี่ก็พอแล้วเถอะ ฮึ่ย~ ทำไมชีวิตของเขาถึงได้เจอแต่หมอแล้วก็หมออีกนะ แม้แต่คนผู้นั้นก็ยังเป็นหมอเลย ฮึ! “หากเจ้าจัดการได้เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันข้าก็จะไปเอง จำไว้นะน้องเล็กชีวิตของพระชายากับบุตรของท่านอ๋องอยู่ในมือของเจ้าแล้ว” อี้สงบอกกับน้องชายพร้อมกับกระชากห่อยาคืนกลับมาแต่เจ้าหนุ่มน้อยก็ไวกว่ารีบยัดห่อยาเข้าอกเสื้อทันที “ข้าก็แค่บ่น จำเอาไว้นะพี่ใหญ่ชีวิตของพระชายากับบุตรของท่านอ๋องอยู่ในมือของท่านแล้ว” พอย้อนคำพูดของพี่ชายจบองครักษ์คนน้องก็รีบดีดตัวออกจากรัศมีของฝ่ามือใหญ่ได้ทันท่วงที อี้สงได้แต่ถอนใจเฮือกใหญ่กับความเจ้าเล่ห์ของน้องชาย ที่เขาไม่ให้เอ้อสงอยู่ที่นี่ไม่ใช่ว่าน้องไม่เก่ง เอ้อสงเป็นองครักษ์เงาที่มีฝีมือมาก แม้อายุยังน้อยแต่ก็สามารถขึ้นมาเทียบเคียงกับเขาได้แล้วหากวัดกันด้วยฝีมือ แต่ยังขาดแค่ความละเอียดรอบคอบเท่านั้นเอง สามวันผ่านพ้นเมื่อห่อยาถูกสับเปลี่ยนอาการวิงเวียนและอ่อนแรงของหลินหลานก็ดีขึ้นตามลำดับ นับว่าโชคยังดีที่หมอเยี่ยยังไม่มาตรวจในเร็ววัน เพราะพักหลังมานี้หลิวเยี่ยจะไม่มาบ่อยและไม่ตรวจชีพจรให้นางเหมือนอย่างเคยพอส่งยาให้เสร็จก็รีบจ้ำอ้าวออกไปทันที ถือว่าเป็นเรื่องดีทีเดียว “พระชายาไม่มีอาการแพ้แล้วใช่หรือไม่เพคะ” “ข้าดีขึ้นมากไม่อ่อนแรงเหมือนสองสามวันที่ผ่านมา เป็นอย่างไรบ้างการสำรวจเส้นทางของเจ้า” “ไม่มีปัญหาเพคะ ท่านลุงถานกับอาเถียนช่วยหม่อมฉันได้มากทีเดียวและยังมีคนงานตัดฟืนกับคนสวนที่มาใหม่ช่วยแนะนำเส้นทางให้ด้วยเพคะ” “คนมาใหม่ เราเชื่อใจเขาได้หรือเสี่ยวจู” “หม่อมฉันแค่ถามทางลัดไปตลาดเพราะคนที่ตำหนักใหญ่ไม่ยอมให้เราใช้ประตูหน้าวัง แบบนี้รับรองไม่มีใครสงสัยแน่นอนเพคะ” “เสี่ยวจูของข้าฉลาดที่สุดเลย จำเอาไว้เราจะเชื่อใจใครง่าย ๆ ไม่ได้ ในวันเดินทางข้าจะพยายามไม่ให้เป็นภาระต่อเจ้าก็แล้วกัน” “โธ่ อย่าพูดอย่างนั้นสิเพคะเรายังมีเวลาอีกสิบสองวันกว่าหมอเยี่ยจะมาตรวจอีกครั้ง ถึงตอนนั้นเราน่าจะออกจากเมืองหลวงได้แล้วเพคะ” “เจ้าคิดว่าเราจะผ่านประตูเมืองได้ง่ายดายอย่างนั้นหรือ” “แค่มีตำลึงเงินจ่ายอะไรมันก็ง่ายหมดนั่นแหละเพคะ เราจะจ้างคนของสำนักคุ้มภัยพวกเขาช่วยเราออกจากเมืองหลวงได้ วางใจเถอะเพคะ” “เรื่องผ่านประตูเมืองเราแก้ปัญหาได้ด้วนเงินแล้วท่านพ่อกับท่านแม่ล่ะ หากข้าหนีพ้นจากที่นี่จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกท่านหรือไม่ ข้าเป็นห่วงท่านทั้งสองยิ่งนักเสี่ยวจู” อี้สงนั่งฟังสตรีสองนางวางแผนที่จะหนีอย่างเพลิดเพลินจนมาสะดุดที่นายท่านหลินกับฮูหยินรอง แน่นอนหากว่าพระชายาหลินหลานหนีไปได้หวางเฟยคงไม่ปล่อยฮูหยินรองไปแน่ คิดได้ดังนั้นหัวหน้าองครักษ์เงาก็เรียกรวมพลและวางแผนให้แยบยล ต่อจากนี้การหลบหนีออกจากวังอ๋องก็จะไม่เป็นปัญหากับพระชายาหลินหลานอีกต่อไปแล้ว ค่ายบูรพา… ชินอ๋องนิ่งเงียบหลังจากฟังรายงานจากองครักษ์เงาอันดับสองจบและทุกคนในกระโจมก็พากันได้ยินเสียงดัง กร๊อบ~ ตามมา เป็นชินอ๋องเองที่บีบถ้วยน้ำชากระเบื้องจนแหลกคามือ หัวใจที่เคยเจ็บปวดยิ่งรวดร้าวเพิ่มเป็นทวีคูณ คำภาวนาของเขามันไม่ได้ผลสักนิดมิหนำซ้ำยังดูเลวร้ายยิ่งกว่าเก่า “องค์รัชทายาทหรือ นางอยากเป็นฮองเฮาอย่างนั้นหรือ แต่งงานกับข้าเพื่อหวังลาภยศแค่นั้นเองหรือ อ้ากกก” จ้าวโม่หยาง ร้องออกมาดั่งคนเสียสติ ครั้งก่อนที่มีรายงานมาเขาก็ยังมีความหวังว่าสิ่งที่ได้ยินจะเป็นเพียงการเข้าใจผิด แต่ครั้งนี้เขาคงหาข้ออ้างเพื่อจะเข้าข้างนางไม่ได้อีกแล้ว “นางกับลูกปลอดภัยดีหรือไม่” “ปลอดภัยดีพ่ะย่ะค่ะ หมอหลี่จัดยาให้ใหม่แล้ว และนี่ก็คือยาที่หลิวเยี่ยจัดให้พระชายาหลินหลานพ่ะย่ะค่ะ” “ส่งยามานี่” โจวเฉินสั่งและกวักมือเรียกเอาห่อยามาจากองครักษ์เงา “นี่ขอรับ” เอ้อสงยื่นห่อยาให้อย่างเกร็ง ๆ “กลัวอะไรนักหนาข้าไม่กินเจ้าหรอกน่า” โจวเฉินว่าให้องครักษ์หน้าหยกก่อนจะหยิบห่อยามาเปิดดมแค่เล็กน้อยแล้วก็ห่อกลับคืนตามเดิม “เจ้าจะจัดการยังไงกับพวกเขา” “ดาบนั้นคืนสนองคงต้องทำอย่างที่นางทำ ส่งยาบำรุงที่ดีที่สุดและแพงที่สุดให้กับหวางเฟย จัดการให้ข้าทีนะโจวเฉิน” สั่งความเสร็จท่านแม่ทัพจ้าวก็ร้องเรียกหาคู่ซ้อมดาบเพื่อหวังจะปลดปล่อยอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในใจ “เจ้าน่าจะไปเป็นคู่ซ้อมให้ท่านอ๋องนะ” โจวเฉินบอกกับองครักษ์หนุ่ม “ไม่ดีกว่า ข้าต้องรีบกลับแล้วขอรับ” “ใครให้กลับไม่ได้ยินที่ท่านอ๋องสั่งของบรรณาการให้กับหวางเฟยหรือ ต้องรอจนกว่าข้าจะได้ของครบ ตามข้ามาสิจะมัวยืนบื้ออยู่ทำไม” เอ้อสงได้แต่กรอกตามองบน นี่ไงที่เขาไม่ชอบอยู่ใกล้หมอโจว จะเถียงก็เถียงไม่ได้ ช่างเป็นหมอที่เอาแต่ใจและชอบใช้กำลังที่สุด แล้วแบบนี้เขาจะทำอะไรได้เล่า นอกเสียจากทำตามแล้วก็ตามใจเพียงเท่านั้น ตำหนักเล็ก... หลังเจ็ดวันผ่านพ้นอาการของหลินหลานก็เป็นปกติและในช่วงเวลาเจ็ดวันเสี่ยวจูก็เดินทางเข้าออกป่าได้อยางทะลุปรุโปร่ง และนางยังได้ไปว่าจ้างคนของสำนักคุ้มภัยเล็ก ๆ ให้พาพวกนางออกจากเมืองหลวงให้ได้ จุดที่นัดพบกันก็คือชายป่าอีกด้านที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับวังอ๋องนั่นเอง ตอนนี้พวกนางก็พร้อมแล้วที่จะออกเดินทาง ยามอิ๋น[03.00-04.59 น.] เสี่ยวจูเป็นคนเดินนำแล้วคุณหนูของนางก็เดินตามผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วยามแต่ทุกอย่างมันดูราบรื่นและเงียบเกินไปจนหลินหลานอดประหลาดใจไม่ได้ “มันแปลก ๆ นะเสี่ยวจูเราหนีออกจากวังได้ง่ายเกินไปไหม” “โธ่ คุณหนูเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเราจะหนีอย่างไรเจ้าคะ อย่ากังวลไปเลย” เสี่ยวจูตอบแบบมั่นใจเพราะคิดว่าตัวเองทั้งรอบคอบและวางแผนมาอย่างดิบดี แต่นางหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วมีศพชายชุดดำนับสิบ ๆ นายที่ถูกกำจัดก่อนที่พวกนางจะก้าวย่างออกจากตำหนักเสียอีกและคงอีกไม่นานพวกมันก็คงจะตามมาเป็นโขยงแน่ ๆ แต่จะให้อี้สงเร่งคนท้องก็ไม่ได้เพราะครรภ์ของพระชายาหลินหลานยังไม่แข็งแรงมากพอ เขาจึงได้แต่ติดตามไปเงียบ ๆ และให้คนของเขาช่วยเปิดทางด้านหน้าและคอยระวังหลังให้อ**บางส่วน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม