“คุณหยีออกมาทำไมคะ ต้องการอะไรทำไมไม่กดเรียกพี่ ดูซิเจ็บแบบนี้ยังจะออกมาอีก ทำไมไม่นอนพักอยู่ในห้องล่ะคะ” ทันทีที่ซิลเวียเห็นสุดที่รักเดินตรงมาก็รีบเข้าไปประคองด้วยความเป็นห่วง
“หยีเจ็บแค่ที่หน้าชาแค่ที่ปาก แขนไม่ได้หัก ขาก็ยังปกติดี ไม่ได้มีตรงไหนสึกหรอเลย ถ้าจะมีก็คงมีแต่หน้านี่แหละค่ะที่กำลังบวมเจ่อจนดูไม่ได้ พูดแล้วก็เจ็บใจ นี่ถ้าไม่ติดว่ากลัวจะเสียแผนล่ะก็ แม่จะเอาคืนให้หน้าหงายเลย อูย..!” ซิลเวียตาโตทันทีที่ได้ยินเธอเผลอหลุดพูดอะไรออกมา
“แผนอะไรคะคุณหยี บอกพี่มาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” สุดที่รักทำหน้าเจื่อนทันทีที่โดนคาดคั้น
“ก็ ไม่มีอะไรมากหรอก หยีแค่หาทางเบี่ยงเบนความสนใจมายบอสของพี่ไง เขาจะได้ลืมเรื่องที่พี่ไม่ได้เข้าประชุมวันนี้ไง แต่ก็พลาดเสียท่ายัยโซล่านั่น ไม่อย่างนั้นแม่นั่นไม่ได้แอ้มคนอย่างยาหยีแน่” ในขณะที่เธอกำลังสาธยาย ซิลเวียก็กำลังอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ทำไมต้องทำพี่ถึงขนาดนั้นคะคุณหยี เราเพิ่งรู้จักกัน ทำไมต้องเสียสละเพื่อพี่แบบนั้นด้วย ยอมเจ็บตัวเพื่อพี่ทำไม มันไม่คุ้มกันเลยสักนิด” ซิลเวียบอกเสียงเครือด้วยกำลังซาบซึ้งและรู้สึกผิดไปในคราวเดียวกัน
“คุ้มสิ ถ้าไม่พลาดท่าเสียทีให้ยัยนั่นจะคุ้มยิ่งกว่านี้อีก แต่พี่ไม่ต้องห่วง หยีหาทางเอาคืนได้แน่ค่ะ” เธอหมายหยักยิ้มมั่นใจ ในขณะที่ซิลเวียยังคงมองหน้าที่มีรอยช้ำของเธอด้วยความรู้สึกผิด
“กลับกันมาแล้วเหรอ วันนี้หม่ามี้ให้แม่ครัวทำอาหารไทยให้หนูด้วยนะ เอ๊ะ! นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมหน้าของหนูถึงได้เป็นแบบนี้หา” มาดามเดียน่าออกมารับลูกชายกับว่าที่ลูกสะใภ้ที่เพิ่งกลับมาจากบริษัท แต่ทันทีที่เห็นหน้าลูกสาวคนโปรดก็ถึงกับโวยวายเสียงดัง
“ไหนใครบอกฉันได้บ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้น เลโออธิบายมามาว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น” คนเป็นแม่เข้ามาประคองว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยควมเป็นห่วง พร้อมกับหันไปคาดคั้นลูกชายด้วยสีหน้าถมึงทึง
“ผมผิดเองครับมัมที่ดูแลเขาไม่ดี ปล่อยให้โรเวร่าทำร้ายเอาได้” ชายหนุ่มก้มหน้ายอมรับด้วยความรู้สึกผิด
“ใช่! แกผิดมาก แค่วันแรกแกก็ทำให้น้องต้องเจ็บตัวแบบนี้ แค่คู่หมั้นคนเดียวยังปกป้องไม่ได้ แล้วต่อไปแกจะดูแลเขาได้ยังไง แกต้องจัดการเอาเรื่องแม่นั่นให้ถึงที่สุด ไม่งั้นฉันนี่แหละที่จะเอาเรื่องแก” มาดามบอกเสียงเขียวใบหน้าโกรธขึ้ง เห็นแบบนี้สุดที่รักจึงรีบแทรกขึ้น
“เอ้อ! หม่ามี้ขา หยีหิวมากเลยค่ะ มีอะไรให้หยีทานบ้างเนี่ย ได้ยินแว่วๆ ว่าใครน้าที่สั่งให้แม่ครัวทำอาหารไทย พูดถึงอาหารไทยแล้วท้องก็ร้องขึ้นมาเลย ไปทานข้าวกันดีกว่าเนอะ”
“ไปก็ไปจ๊ะ แต่อย่านึกนะว่าฉันจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ง่ายๆ รู้จักฉันน้อยไปแล้ว โถ! ลูกสาวหม่ามี้เจ็บมากไหมลูก” มาดามเดียน่าไม่วายหันไปคาดโทษลูกชายอีก ก่อนจะหันกลับมาปลอบลูกสาวคนใหม่ต่อ
“หืม! ของโปรดหยีทั้งนั้นเลยนี่คะ นี่หม่ามี้รู้ได้ไงคะเนี่ยว่าหยีชอบทานอะไร” สุดที่รักพยายามชวนคุยหวังทำบรรยากาศให้ดีขึ้น
“จะไม่รู้ได้ยังไง ก็ทั้งหมดเนี่ยแม่หนูเป็นคนบอกหม่ามี้เอง” มาดามเดียน่ายืดอกอย่างภาคภูมิ
“หม่ามี้คุยกับแม่แล้วเหรอคะ หยีเองก็ว่าจะโทรหาท่านอยู่พอดีเลยค่ะ ว่าแต่แอบคุยเรื่องอะไรกันคะเนี่ย” สุดที่รักทำน้ำเสียงตื่นเต้น เมื่อรู้ว่าทั้งแม่เธอและแม่เขาติดต่อกันตลอด
“ไม่บอกหรอก เอาไว้เดี๋ยวเราก็รู้เองนั่นแหละ อย่ามัวแต่พูดอยู่เลยรีบทานกันดีกว่า เดี๋ยวอาหารจะเย็นซะเปล่าๆ ลองดูซิว่ากับข้าวพวกนี้พอจะสู้ฝีมือปลายจวักแม่นีของหนูได้รึเปล่า” มาดามเดียน่าตักโน่นตักนี่ให้เธออย่างเอาอกเอาใจ แต่ก็ไม่วายหันไปเขม่นใส่ลูกชายที่นั่งเงียบอยู่ด้วย
แต่ในขณะที่สุดที่รักกำลังมีความสุขอยู่ทางนี้ เธอแทบไม่รู้เลยว่าพ่อแม่ของเธอกำลังเผชิญอยู่กับอะไร และมันก็ร้ายแรงจนอาจจะถึงขั้นที่ทำให้เธอไม่ได้เจอกับท่านทั้งสองอีกตลอดกาลก็เป็นได้
“เอ! ทำไมไม่มีคนรับสายเลยนะ หรือว่ากำลังยุ่ง” หลังจากอาหารเย็น สุดที่รักก็ขึ้นมาบนห้องเพื่อโทรหาพ่อกับแม่อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่ก็ต้องทำหน้ายุ่งเมื่อโทรไปแล้วแต่ไม่มีใครรับสายเธอเลย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ขณะที่เธอกำลังพยายามโทรหาบุพการีทั้งสองต่อไป เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นและตามมาด้วยคนเคาะที่เดินเข้ามา
“ขนาดนี้ไม่ต้องเคาะก็ได้มั้ง” เธอประชดกลับไปเบาๆ เมื่อเขาเคาะประตูตามมารยาทแต่ไม่ยักจะรอให้เธออนุญาตก็เปิดเข้ามาก่อนแบบนี้ แต่ก็นั่นอีกแหละ ในเมื่อนี่มันบ้านเขา และเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นของเขาแล้วครึ่งนึงด้วย ทำไมเรื่องแค่นี้เขาจะทำไม่ได้
“ทำไมยังไม่อาบน้ำ” จู่ๆ เขาก็ถามในสิ่งที่เธอไม่คิดว่าเขาจะถาม มิหนำซ้ำเขายังถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่สนใจสีหน้าตอนนี้ของเธอเลยด้วยซ้ำ
“วะว่าไงนะ เมื่อกี้คุณถามฉันว่าทำไมยังไม่อาบน้ำเนี่ยรนะ ฉันไม่ใช่เด็กๆ นะ”
“ไม่ว่าเธอจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ผู้หญิงหรือผู้ชาย มันก็ไม่ผิดไม่ใช่เหรอที่ฉันจะถามเธอแบบนี้ และนอกจากจะถามแล้ว ฉันก็ยังจะสั่งให้เธอไปอาบเดี๋ยวนี้ด้วย” เธอมองเขาตาโตอีกครั้ง รู้สึกว่าเขาชักจะเผด็จการกับเธอมากขึ้นทุกวัน ทีเมื่อก่อนล่ะไม่เห็นจะมาสนใจ แม้แต่โทรถามสารทุกข์สุขดิบก็ยังไม่เคย มาตอนนี้ก็สั่งเอาๆ มันจะมากไปแล้วนะ
“นี่” เธอขึ้นเสียงกำลังจะต่อว่าเขา แต่ยังไม่ทันจะได้พูดก็ถูกเขาสวนกลับมาอีก
“ฉันให้เวลาเธอแค่สิบห้านาที ไม่งั้นฉันจะเข้าไปอาบให้เธอเอง ผ่านไปแล้วหนึ่งนาที” ไม่เพียงแต่บังคับยังจับเวลาอีก ทำเอาคนที่ยืนอ้าปากค้างในตอนแรกถึงกับรีบวิ่งเข้าห้องน้ำด้วยความลนลาน
“ชิ! ฉันจะอยู่ในนี้สักครึ่งชั่วโมง ดูซิจะว่ายังไง” หลังได้ลองทบทวนแล้ว เธอจึงอยากจะลองท้าทายดูสักครั้ง อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะทำยังไง ในเมื่อเธอล็อคประตูห้องน้ำไว้แน่นหนาขนาดนี้
หญิงสาวนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอย่างสบายใจ ไม่ได้แคร์คนที่นั่งรออยู่ข้างนอกเลยแม้แต่น้อย กระทั่งผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า ล่วงเลยมาจนเกือบยี่สิบนาทีก็ยังไม่มีวี่แววว่าเธอจะลุกขึ้นมา
“สบายไหม”
“อืม! สบายสิ แล้วก็ เอ๊ะ! เฮ้ย!” เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเสียงที่ได้ยินมันคือเสียงของเขา เธอจึงอุทานเสียงดัง ก่อนจะผุดลุกขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ก็บอกแล้วว่าถ้าคิดจะยั่วกัน เธอต้องไปฝึกฝนมาให้มากกว่านี้” คำพูดเขาราวกับเตือนสติเธอ